สุริยคราส
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
อังคาร, 21 กรกฎาคม 2009

จะเกิดอะไร ?

 

ถ้า..กบกินเดือน

 

 

 

 

 

 

 

 

"สุริยคราส" กินเมือง โหรทายกระทบดวง ผู้นำ ปกครอง ชี้ชะตาอายุรบ. พระสวดใหญ่แก้

 

 

เกิด "สุริยุปราคา" 22 ก.ค. กระทบดวงเมือง ดวงจันทร์ดบังดวงอาทิตย์มากที่สุดถึงร้อยละ 69 นักดาราศาสตร์ระบุเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้น โหรทำนาย กระทบทาง การเมือง การปกครอง ผู้นำ ขัดแย้งรุนแรง ชีวิตผู้คนมากมาย

เมื่อวันที่ 13  กรกฎาคม นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสดร.  กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือสุริยคราส เต็มดวง ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 - 09.19 น. โดยมี แนวคราสเต็มดวงพาดผ่านประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ และเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่กินเวลานานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาทีหรือประมาณเกือบ 7 นาที สำหรับประเทศไทยนั้น อยู่นอกแนวคราสเต็มดวง แต่จะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน โดยสามารถ มองเห็นได้ทุกภูมิภาคของไทย เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00-09.20 น. ซึ่งแต่ละภูมิภาคจะเห็นปรากฏการณ์สุริยคราสเกิดขึ้นในเวลาแตกต่างกันเล็กน้อย โดยภาคเหนือที่ จ. เชียงราย จะได้เห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา นานที่สุดในไทย ราว 2 ชั่วโมง 12 นาที และ ยังเห็นดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์มากที่สุดถึงร้อยละ 69  ขณะที่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จะเริ่มสังเกตเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา ครั้งนี้ ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.06 จนถึง 09.08 น. โดยจะเห็นดวงอาทิตย์ถูกบดบังมากที่สุดราวร้อยละ  42.2 ในเวลาประมาณ 08.03 น.

 

นายบุญรักษา กล่าวอีกว่า การเกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาหรือสุริยคราสครั้งนี้  ถือเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ในปี 2538 หรือประมาณ 14 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ จะติดตั้งกล้องดูดาวหลายสิบตัวที่วงเวียน 22 กรกฎา ย่านเยาวราช เพื่อให้สอดคล้องกับวันที่เกิดสุริยคราส คือ วันที่ 22 ก.ค. พร้อมระดมนักดาราศาสตร์ทั่วประเทศมาให้ความรู้กับประชาชนที่สามารถมาชมปรากฎการณ์ดังกล่าวได้ในช่วงเวลาเกิดสุริยคราส  อย่างไรก็ตาม อยากฝากย้ำเรื่องการนำปรากฏการณ์ดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับเหตุบ้านการเมือง ลางร้ายว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งทุกปีเกิดขึ้นอยู่แล้ว  เพียงแต่ประเทศไหนจะเห็นเท่านั้น

 

ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ กล่าวถึงผลกระทบการเกิดสุริยุปราคาว่า การเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ เกิดในราศีกรกฎ ธาตุน้ำ จะส่งผลกระทบทางการเมือง การปกครอง ผู้นำ พิจารณาจากราศีเกิดคือกรกฎเป็นจรราศี ก่อให้เกิดผลอย่างรวดเร็วและผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดกับต่างประเทศนำความยุ่งยากให้กับรัฐบาล ตลอดจนเรื่องผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกิดการผันแปรสำคัญทางการเมือง การค้า จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากราศีกรกฎอยู่ในธาตุน้ำ จะเกิดอุทกภัย อุบัติเหตุเกี่ยวกับน้ำมีคนตาย เรืออับปาง มีความยุ่งยากทางน่านน้ำอาณาเขต อาชีพเกี่ยวกับน้ำ การประมง โรคระบาดที่มากับน้ำ อีกทั้งราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ของดวงเมือง เมื่อเกิดสุริยุปราคาแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากกับผู้ปกครองหรือรัฐบาล สวัสดิภาพของประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน มีความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง

 

นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ที่สำคัญดวงเมือง มีดาวจันทร์อยู่ราศีกรกฎดวงเดิม อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญระดับสูง หรือ สตรีผู้สูงศักดิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ นอกจากนี้การเกิดสุริยุปราคานี้อยู่ในราชาฤกษ์ให้ระวังผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเจ็บป่วยหรือเกิดปัญหาอุปสรรค อีกทั้งสุริยุปราคาเกิดตอนตรียางค์ที่ 1 ทำให้เกิดความปั่นป่วนดินฟ้าอากาศป่วนแปร เพราะฉะนั้นควรจะระวังในเรื่องอุบัติภัย เพราะหลังจากเกิดสุริยุปราคาแล้ว มักจะตามด้วยภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำ แผ่นดินไหว หรือวันที่ดาวอังคารเข้าราศีกรกฎในวันที่ 2 – 3 - 4 ต.ค.52 นี้จะเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติที่รุนแรง อยากเตือนรัฐบาลว่า ในช่วงปลายเดือน ก.ค.ถึงต้นเดือน ต.ค.นี้จะเกิดอับัติภัยครั้งใหญ่ อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ประชาชนเคารพนับถือ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งในราศีกรกฎควรจะต้องดูแลเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัย เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดในราศีเดียวกันจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย นอกจากนี้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ต่อไปอีกจนถึงเดือน ต.ค.นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

 

ขณะที่พระเทพภาวนาวิกรมหรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคมซึ่งจะเกิดสุริยคลาส ในปฎิทินหลวง ระบุชัดเจนว่าจะเกิดอุปราคาในช่วงเวลา 6 นาฬิกา 58 นาที 3 วินาทีและจะสิ้นสุดในเวลา 12 นาฬิกา 12 นาที 4 วินาที ซึ่งในทางโหราศาสตร์จะส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง ชีวิตผู้คนมากมาย ดังนั้น วัดไตรมิตรฯ จะจัดพิธีสวดมนต์ครั้งใหญ่ โดยจะระดมพระสงฆ์หลายร้อยรูปมาร่วมสวดมนต์ใน 3 พิธี คือ สวดมหาสมัย ซึ่งเป็นการสวดชุมนุมเทวดาทั้งหมดในจักรวาล สวดมหาราช หรือ สวดถวายท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศ เพื่อให้รักษาชีวิตมนุษย์และสวดนพเคราะห์ โดยจะเริ่มพิธีในเวลา 6 นาฬิกา 58 นาที ที่พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม

 

 

 

่าว : มติชน
21 กรกฎาคม 2552

 


 

 

อาทิตย์ดับ

22 กรกฎาคม ศกนี้

 

ที่ไหน-เมื่อไหร่ ?

 

 

 

 

 

 

ในปี พ.ศ.2552 จะมีปรากฏการณ์เกี่ยวอุปราคา 6 ครั้งบนโลก คือ สุริยุปราคา 2 ครั้ง และ จันทรุปราคา 4 ครั้ง ซึ่งจะมีบางปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย ผู้เขียนจะเพียงกล่าวถึงเท่านั้นเพื่อเป็นความรู้  อุปราคาทั้ง 6 ครั้งได้แก่


    
1) สุริยุปราคาวงแหวน (Annular Solar Eclipse) วันที่ 26 มกราคม 2552  เกิดที่ประเทศอินโดนิเซีย แต่สามารถมองเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนได้ในประเทศไทย
     2) จันทรุปราคาในเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552
     3) จันทรุปราคาในเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) วันที่ 7 กรกฏาคม  2552  องไม่เห็นในประเทศไทย
    
4) สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipse) ี่ประเทศจีน  วันที่ 22 กรกฏาคม 2552 แต่ประเทศไทยเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน
     5)
จันทรุปราคาในเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) วันที่ 6 สิงหาคม 2552  มองไม่เห็น
     6)
จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) วันที่ 31 ธันวาคม 2552 สามารถเห็นได้จากประเทศไทย

      สำหรับความรู้เกี่ยวกับอุปราคาแต่ละแบบเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

 

สุริยุปราคาวงแหวน  วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552
     
   
      ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 1 ค่ำ เป็นสุริยุปราคาแบบวงแหวน เนื่องจากโลกพึ่งจะผ่านตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. และประกอบกับวันที่ 22 ม.ค. ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งไกลจากโลกที่สุด ทำให้ขนาดเชิงมุมของดวงอาทิตย์ (32 arcmin) ใหญ่กว่าขนาดเชิงมุมของดวงจันทร์ (30 arcmin) ทำให้เกิดการบังกันไม่หมด 

 

     ปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนในครั้งนี้เริ่มต้นทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติค พาดข้ามมหาสมุทรอินเดีย มาขึ้นฝั่งทางทิศตะวันตกของประเทศอินโดนิเซีย รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 14,500 กิโลเมตร  เริ่มตั้งแต่เวลา 06.02UT สิ้นสุดที่เวลา 09.54UT และอยู่ในช่วงเป็นวงแหวนอยู่นาน 7 นาที 54 วินาที ที่บริเวณศูนย์กลางของอุปราคาทางตอนกลางของมหาสมุทรอินเดีย และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 50 ของการหวนกลับมาของอุปราคา หรือที่เรียกว่า ซารอส(Saros) ลำดับที่ 131            
 

 

 

 

 

 

 

แผนที่การเกิดสุริยุปราคา
วันจันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2552

 

 

 

สำหรับประเทศไทยซึ่งอยู่บริเวณตอนบนของประเทศอินโดนิเซีย อยู่ในแถบเงามัวของดวงจันทร์ทำให้สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นสุริยุปราคาบางส่วนมองเห็นได้ทั่วทั้งประเทศ โดยที่ทางภาคใต้จะมีส่วนที่มืดมากกว่าทางตอนบนของประเทศ   ที่กรุงเทพมหานครจะเริ่มเห็นสัมผัสแรกเวลา  15.54 น. สูงสุดเวลา 17.06 น. จะเห็นดวงอาทิตย์เข้าคราสหายไปประมาณ 30% และสิ้นสุดเวลา 17.59 น.ซึ่งดวงอาทิตย์ในวันนั้นที่กรุงเทพฯจะตกเวลา 18.13 น. ทำให้ที่กรุงเทพมหานครฯ สามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ตลอดช่วงก่อนอาทิตย์ตกดิน


      สำหรับทางภาคใต้ ใต้สุดที่ จ.นราธิวาส ละติจูดประมาณ 5 องศาเหนือ  จะเริ่มสัมผัสแรกเร็วกว่านิดหน่อยประมาณ 15.37น.  เข้าคราสสูงสุดเวลา 16.49น. กินไปมากสุดประมาณ 45
ิ้นสุดเวลา 18.01 น.


      ทางภาคเหนือ ตอนเหนือสุดที่ จ.เชียงราย ละติจูดประมาณ 20 องศาเหนือ จะเริ่มสัมผัสแรกเวลา  16.09 น. เข้าคราสสูงสุดเวลา  17.06น.
กิดส่วนมืดบนดวงอาทิตย์ประมาณ 20%  แล้วิ้นสุดเวลา 17.52 น.


      จะเห็นว่าแต่ละส่วนของประเทศจะเห็นในช่วงเวลาต่างกันเล็กน้อย แต่ปริมาณส่วนมืดจะต่างกัน 
  

       สุริยุปราคาเต็มดวง  วันที่ 22 กรกฏาคม พศ. 2552
     
   
      หลังจากเดือนมกราคมมา 6 เดือน โลกก็มาอยู่ที่ตำแหน่งไกลจากดวงอาทิตย์ ทำให้ขนาดเชิงมุมของดวงอาทิตย์เล็กลงเหลือ 31 arcmin แต่ขนาดเชิงมุมของดวงจันทร์ใหญ่กว่า (34 arcmin) ทำให้เกิดการบังกันได้สนิทเกิดเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงขึ้น  และเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่น่าสนใจที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่สุริยุปราคาเต็มดวงที่แม็กซิโกเมื่อ ปี พ.ศ.2534 เพราะมีช่วงเวลาการเข้าคราสเต็มดวงนานถึง 6 นาที 38.9 วินาที ที่บริเวณศูนย์กลางของอุปราคาทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น (ปี พ.ศ.2534 นาน 6 นาที 53.2 วินาที สำหรับปี พศ.2538 ที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่ประเทศไทย กินเวลานานเพียง 2 นาที 9.6 วินาที)


      แนวศูนย์กลางการพาดผ่านของเงามืดนี้เริ่มต้นที่บริเวณประเทศอินเดียเวลา 00.53
UT เป็นช่วงเวลาที่ดวงจันทร์พึ่งจะอยู่ใกล้โลกที่สุดผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงทำให้แถบเงามืดของดวงจันทร์นี้ค่อนข้างกว้าง   แนวนี้จะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในภูฐาน แล้วเข้าประเทศจีนเวลา 01.05UT แล้วไปสิ้นสุดที่ตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิกฟิค เวลา 04.18UT  มีความกว้างของเงามืด 258 กิโลเมตร แนวการเคลื่อนที่ผ่านยาว 15,200 กิโลเมตร  เป็นการหวนกลับมาของอุปราคา หรือที่เรียกว่า ซารอส(Saros)
ลำดับที่ 136 ครั้งที่ 37             

 

 

 

 

่าว : ดาราศาสตร์ ดอทคอม
20 กรกฎาคม 2552

อ้างอิง

http://www.alittlebuddha.com/

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( พฤหัสบดี, 30 กรกฎาคม 2009 )