มรดกโลกในจีน
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
จันทร์, 03 พฤษภาคม 2010
มรดกโลก 38 แห่งในประเทศจีน  
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลและเป็นอู่อารยธรรมของโลก นับจากที่ องค์การยูเนสโก ได้ลงมติพิจารณา เขาไท่ซัน แห่งมณฑลซันตงของจีน ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในปีค.ศ. 1987 เป็นต้นมา สิ่งมหัศจรรย์ในแผ่นดินใหญ่ได้ค่อยๆเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในเวลาต่อๆมา จนถึงปัจจุบัน จีนมีสถานที่สำคัญที่เป็นมรดกโลกแบ่งเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม 27 แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 7 แห่ง และมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ 4 แห่ง รวมทั้งสิ้น 38 แห่ง นับเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศแถบเอเชีย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://whc.unesco.org/en/list
http://www.manager.co.th/China/China_Travel.aspx
http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_World_Heritage_Sites_in_China
http://www.skyscrapercity.com/forumdisplay.php?f=1206

และกระทู้ตอนที่แล้ว
มรดกโลก 28 แห่งในอาเซียน

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/01/X8753006/X8753006.html
 
 

 

อ้างอิง

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9202750/X9202750.html

 

ความคิดเห็นที่ 1  

มรดกโลกมีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง

หลักเกณฑ์ทางวัฒนธรรม
1. เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
2. เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
3. เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
4. เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
5. เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา
6. มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 04:58:26
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 2  

หลักเกณฑ์ทางธรรมชาติ
7. เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆในอดีตของโลก เช่น ยุคสัตว์เลื้อยคลาน ยุคน้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความหลากหลายทางธรรมชาติบนพื้นโลก
8. เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดในการเป็นตัวแทนของขบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางธรณีวิทยาหรือวิวัฒนาการทางชีววิทยา และปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่ เช่น ภูเขาไฟ เกษตรกรรมขั้นบันได
9. เป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ เช่น แม่น้ำ น้ำตก ภูเขา
10. เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายากหรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจด้วย

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 04:58:42
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  
1. พระราชวังแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง   Imperial Palaces of the Ming and Qing Dynasties in Beijing and Shenyang

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987 และ 2004
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  1 2 3 4  

มรดกโลกแห่งนี้ประกอบด้วยพระราชวังสองแห่งอันเป็นสัญลักษณ์แห่งมหาอำนาจของจักพรรดิจีนในราชวงศ์หมิงและชิงคือพระราชวังต้องห้ามหรือกู้กง (Forbidden city) ที่กรุงปักกิ่ง และพระราชวังมุกเดน (Mukden palace) ที่เสิ่นหยาง  สำหรับพระราชวังกู้กงนั้นถูกสร้างขึ้นในปี 1406 ถึง 1420 และได้ทำหน้าที่เป็นพระราชวังของทั้งราชวงศ์หมิงและชิง ต่อมาในปี 1925 หลังการปฏิวัติ พระราชวังแห่งนี้จากที่เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจและการปกครองของจีน ได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงโบราณวัตถุมากมาย และบางส่วนอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่กรุงไทเป  วังกู้กงนั้นประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 980 หลัง ห้อง 8,707 ห้อง (ตามคติจะมี 9,999 ห้อง) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 720,000 ตารางเมตร ถือเป็กลุ่มอาคารไม้โบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  พระราชวังแห่งนี้ได้รวบรวมสุดยอดของศิลปะจีนแขนงต่างๆ เอาไว้และกลายเป็นต้นแบบให้กับอารยธรรมอื่นในเอเชียตะวันออกรวมถึงเวียดนาม

พระราชวังมุกเดนที่เมืองเสิ่นหยาง สร้างขึ้นเมื่อปี 1625 โดยพระจักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาชื้อโดยเลียนแบบพระราชวังต้องหามที่ปักกิ่ง และผสมกับศิลปะแบบแมนจูและทิเบต ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 114 หลัง เป็นหลักฐานที่แสดงถึงการวางรากฐานของราชวงศ์ชิง หลังจากชาวแมนจูบุกยึดกรุงปักกิ่งได้ในปี 1644 ศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ชิงก็ย้ายไปอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามและพระราชวังที่เสิ่นหยางก็กลายเป็นวังส่วนท้องถิ่น ในปี 1955 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังเสิ่นหยาง

พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:26:42

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 04:59:58
ถูกใจ: เจ็บเพื่อเข้าใจ, SAINT_OF_FIRE, LOVE DBSK

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 4  

2. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้    Mausoleum of the First Qin Emperor

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่   1 2 4 6

สุสานฉินชื่อหวงเริ่มก่อสร้างในสมัยฉินชื่อหวง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของฉินชื่อหวง ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกกับพระองค์  สุสานฉินชื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม.
ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม หุ่นทหารดินเผาภายในสุสานมีขนาดรูปร่างที่แตกต่างกัน มีความสูงประมาณ 1.8 เมตร ลักษณะหน้าตา กริยาท่าทาง เครื่องแต่งกายไม่เหมือนกันแม้แต่ตัวเดียว รัฐบาลจีนที่รับผิดชอบในการขุดค้นสุสานประวัติศาสตร์นี้ เชื่อกันว่าหลุมกองทัพดินเผาของฉินชื่อหวง มีด้วยกันทั้งหมด 8 หลุม แต่ในปัจจุบันมีการขุดค้นเพียงแค่ 3 หลุมเท่านั้น เพราะรัฐบาลจีนยังไม่ต้องการทำการขุดค้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าสีของหุ่นทหารดินเผาที่ขุดพบนั้นจะหายไป ในอดีตเริ่มแรกของการขุดพบกองทัพทหารดินเผาจากสุสานใต้ดินนั้น หุ่นทหารเหล่านี้มีแก้มเป็นสีชมพู สวมเครื่องแต่งกายที่มีสีสันสดใสที่ทาสีเอาไว้อย่างสวยงาม โดยส่วนใหญ่จะสวมเสื้อสีชมพู กางเกงสีเขียวและฟ้า แต่ทว่าเมื่อหุ่นทหารดินเผาถูกอากาศและแสงแดด เกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้สีของหุ่นทหารดินเผาลอกหายไป เปลี่ยนเป็นสีดำอย่างน่าเสียดาย

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:00:58
  

ความคิดเห็นที่ 5  

3. ถ้ำผาม่อเกา (Mogao Caves)

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  1 2 3 4 5 6

ถ้าผาม่อเกา  (莫高窟) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตุนหวง มณฑลกานสู้ ประเทศจีน ในอดีตเป็นหนึ่งในจุดค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สำคัญในเส้นทางสายไหม การก่อสร้างถ้ำผาแห่งนี้เริ่มต้นเมื่อปี คศ 366  ประกอบไปด้วยวัดที่เจาะเข้าไปภายในภูเขากว่า  492 วัด ภายในถ้ำงดงามด้วยพุทธศิลป์จีนทั้งพระพุทธรูป และภาพเขียนสีที่ประเมินค่ามิได้  ศิลปะเหล่านี้ถุกสร้างขึ้นโดยแรงศรัทธาจากพระและนักแสวงบุญที่เดินทางผ่านมายังตุนหวง เป็นการฝึกสมาธิ และเป็นการเผยแผ่คำสอนในพระพุทธศาสนาให้แก่ผู้ที่ไม่รู้หนังสือ ภาพเขียนสีมีพื้นที่รวมกันกว่า 42,00 ตารางเมตร

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:01:30
ถูกใจ: เจ้าหญิงแห่งMK, เจ็บเพื่อเข้าใจ, Ms. Pumpkin

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 6  

4. แหล่งขุดค้นทางโบราณคดีมนุษย์ปักกิ่ง โจวโข่วเตี้ยน (Peking Man Site at Zhoukoudian)

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  3 6

แหล่งขุดค้นทางโบราณคดีโจวโข่วเตี้ยน  (周口店) เป็นแหล่งขุดค้นที่มีการค้นพบที่สำคัญมากมาย ที่สำคัญคือชิ้นส่วนกระดูกของ Homo erectus มนุษย์โบราณที่ตั้งชื่อต่อมาว่ามนุษย์ปักกิ่ง และยังมีการค้นพบโครงกระดูกของไฮยีน่ายักษ์ Pachycrocuta brevirostris อีกด้วย ซึ่งมนุษย์ปักกิ่งอาศัยอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้เมื่อประมาณ 200,000 ถึง 750,000 ปีที่แล้ว  ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบครี้งแรกโดย John Gunnar Anderson ในปี 1921 และมีการขุดค้นครั้งแรกเมื่อปี 1921 และหลังจากนั้นมาก้มีการค้นพบฟอสซิลมนุษย์รวมทั้งสิ้น 200 ชิ้นของมนุษย์ 40 คน

รูปจำลองหัวกระโหลกมนุษย์ปักกิ่ง

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:02:42
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 7  
5. กำแพงเมืองจีน   Great Wall

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่   1 2 3 4 6

กำแพงเมืองจีน (長城) เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัยโบราณ สร้างในสมัย พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นครั้งแรก กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกมองโกล และพวกเติร์ก หลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังก็มีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากำแพงเมืองจีนได้สำเร็จ
กำแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้  (萬里長城) กำแพงเมืองจีนมีความยาวทั้งหมดถึง 6,350 กิโลเมตร และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย นอกจากกำแพงเมืองจีนจะเป็นโครงสร้างทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว กำแพงแห่งนี้ยังถือว่าเป็นสุสานที่ยาวที่สุดอีกด้วย  มีการบันทึกไว้ว่า นักโทษจากสงครามและทาสกว่า 1 ล้านคนถูกใช้เป็นแรงงงานเพื่อก่อสร้างกำแพงเมืองจีน ซึ่งจำนวนมากเสียชีวิตลงเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อย และความหิวโหย ซึ่งศพผู้เสียชีวิตก็จะถูกฝังอยู่ข้างใต้กำแพงนั่นเอง นานนับศตวรรษแล้ว เป็นที่กล่าวขานกันว่าทุกๆ หนึ่งฟุตของกำแพงเมืองจีนก็คือหนึ่งชีวิตของผู้ก่อสร้างกำแพง

กำแพงเมืองจีนทอดตัวจากด่านซานไห่กวนทางด้านทะเลจีนตะวันออกผ่านภูมิประเทศต่างๆ จนถึงด่านเจียหยูกวนทางด้านตะวันตกที่เป็นทะเลทราย

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:25:26

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:03:13
ถูกใจ: มหาโจรแห่งบ้านลี้

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 8  
6. เขาไท่ซาน   Mount Taishan

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1987
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่   1 2 3 4 5 6 7

เขาไท่ซาน  (泰山) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองไท่อัน และทอดตัวยาวไปจนถึงทางใต้ของเมืองจี้หนานในมณฑลซานตง ยอดเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเล  1,545 เมตร เขาไท่ซานเป็นหนึ่งในภูเขาใหญ่ศักสิทธิ์ทั้งห้าของจีน อันได้แก่
เขาไท่ซานทางทิศตะวันออก
เขาหัวซานทางทิศตะวันตก
เขาเป่ยเหิงซานทางทิศเหนือ
เขาหนานเหิงซานทางทิศใต้
เขาซงซานทางภาคกลาง

ตลอดสองพันปีที่ผ่านมา เขาไท่ซานเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญของชาวจีน รวมทั้งองค์จักพรรดิจีน สิ่งก่อสร้างบนเขาได้รับการสร้างอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง  อันเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน และนักปราชย์ชาวจีนมากมาย ในการสรรค์สร้างงานศิลปะและบทประพันธ์ นอกจากนี้ภูเขาแห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมและความเชื่อของจีนมาแต่โบราณ

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:27:22

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:03:40
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 9  
7. เขาหวงซาน  Mount Huangshan

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1990
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  2 7 10

เขาหวงซาน (黄山) เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อเสียงมาจากทิวทัศน์ที่งดงามของยอดเขาหินแกรนิตและต้นสนหวงซานรูปร่างแปลกตา และภาพของหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ใกล้ยอดเขา บริเวณเทือกเขายังมีน้ำพุร้อนและบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอีกมากมาย ย เนื่องมาจากความงดงาม จึงมักจะปรากฏภาพของเทือกเขาหวงซานอยู่ในภาพเขียนจีน หรือปรากฏชื่อในวรรณกรรมอยู่บ่อยครั้ง

เขาหวงซานประกอบไปด้วยยอดเขาจำนวนมาก มียอดภูเขาที่มีชื่อ 72 ยอด และมีอยู่ 77 ยอดที่มีความสูงมากกว่า 1,000 เมตร เขตที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประกอบด้วยบริเวณเทือกเขาซึ่งมีพื้นที่ 154 ตารางกิโลเมตร และรอบๆเทือกเขาอีก 142 ตารางกิโลเมตร เขาหวงซานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ค.ศ. 1990 เนื่องมาจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่หายากและถูกคุกคามหลายชนิด

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:28:58

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:04:16
ถูกใจ: dolphin_moo, ปีศาจValkyrie

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 10  
8. ภูมิทัศน์แห่งหวงหลงและพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ Huanglong Scenic and Historic Interest Area

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1992
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  7

หวงหลง  (黃龍) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน หุบเขาหวงหลงล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะอันเป็นแหล่งของธารน้ำแข็งที่อยู่ทางตะวันออกขามาที่สุด ของอจีนหวงหลงเป็นพื้นที่ที่มีคถูมิประเทศทางธรรมชาติที่วามสวยงาม นอกจากนี้ยังมีความหลาหลายของระบบนิเวศทั้งทางกายภาพ เช่น น้ำตก และน้ำพุร้อน หรือชีวภาพ แพที่เป็นฌนแหล่งที่อยู่ของแพนด้าและลิงจมูกเชิด แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของหวงหลงก็คือการก่อตัวของหินปูนที่ละลายมากับน้ำใต้ดิน จนเกิดเป็นภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจอันเป็นที่มาขอลชื่อหวงหลงที่แปลว่ามังกรเหลือง

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:30:14

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:04:43
ถูกใจ: ร้อยวลี, cheerful_love, @ - ENYA - @, ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา, เจ้าหญิงแห่งMK, dolphin_moo, สายลับจับชู้, Acc-Cont, this is jenni, Nyoro~n

 
 
 

 

ดูต่อใน

มรดกโลกในจีน ตอน ๒

ดู

มรดกโลกในจีน ตอน ๑

มรดกโลกในจีน ตอน ๒

มรดกโลกในจีน ตอน ๓

มรดกโลกในจีน ตอน ๔

มรดกโลกในจีน ตอน ๕ สุดท้าย

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( อังคาร, 04 พฤษภาคม 2010 )