แปลกบนพื้นโลก
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
อังคาร, 29 ธันวาคม 2009

17 ภูมิประเทศแปลกๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีในโลก

 
หวังว่าคงไม่ใช่ออกจากห้องนี้ไปแล้วผมเอากลับมานะครับ= =
โพสกระทู้ส่งท้ายปี ได้มาจาก Fwd. mail เห็นว่าน่าสนใจดีครับ
ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่กำลังจะมา ก็ขอให้ทุกท่านพบแต่ความสุข
สิ่งไม่ดีทิ้งไว้ให้ผ่านไปกับปีเก่า เริ่มต้นสิ่งดีๆในปีใหม่กันครับ
____________________________________________
โลกใบนี้มีสถานที่แปลกๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากมาย
และในจำนวนนี้มีบางแห่งที่เห็นภาพแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีอยู่จริง...


1. เดอะเวฟ (The Wave) ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
"เดอะเวฟ" คือ ภูเขาหินทรายที่ฟอร์มตัวในลักษณะคล้ายคลื่นลาดชัน
เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก
เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีความเปราะบางมาก ทางการจึงจำกัดให้เข้าชมได้เพียงวันละไม่เกิน 20 คน
และต้องเดินเท้าเข้าไปเกือบ 5 ก.ม. จึงจะถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้
มหัศจรรย์แห่งนี้
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 1  

2.  Tessellated Pavement บนเกาะแทสเมเนีย (รัฐหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย)
นี่คือภาพลานหินตะกอนบริเวณชายฝั่งที่ Eaglehawk Neck บนเกาะแทสมาเนีย
ซึ่งถ้าหากมองเผินๆ จะแลดูคล้ายมีใครนำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มาวางเรียงรายริมทะเล
(บริเวณขอบสี่เหลี่ยมที่เราเห็นเป็นแนวเส้นตรงนั้น เกิดจากแรงตึงเครียดของผิวโลก
ผนวกกับการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องของคลื่นและแรงเสียดสีของทราย)

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:22:42
ถูกใจ: ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 2  

3. หินรูปทรงประหลาด ในทะเลทรายขาว (White Desert) ประเทศอียิปต์
ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Farafra Oasis   มีลักษณะเป็นสีขาวและครีม
ประกอบด้วยกลุ่มหินชอล์ครูปทรงประหลาดขนาดใหญ่มากมาย
อันเป็นผลงานของพายุทรายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:23:34
ถูกใจ: noonmaguire

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  

4. บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring)  ที่เบปปุ ประเทศญี่ปุ่น


น้ำพุร้อนสีเลือด (Chinoike Jigoku)  เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู
สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:24:19
ถูกใจ: แงซายจอมจักรา

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 4  

5. Giant's Causeway ที่ไอร์แลนด์เหนือ
Giant's Causeway  เป็นชายฝั่งที่เกิดจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟเมื่อประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมา
ก่อให้เกิดหินรูปหกเหลี่ยมและหินแท่งสี่เหลี่ยมกว่า 40,000 แท่ง
องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน Giant´s Causeway เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.  1986 (พ.ศ. 2529)

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:25:40
ถูกใจ: ThatsNoon, หัวใจถวายวัด, noonmaguire, NinetyFive, ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น, เรามาอีกแล้ว...

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 5  

6. ทะเลเกลือ (salt flats)  ที่ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย
จริงๆ แล้วที่ราบเกลือหรือทะเลเกลือลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน
แต่ทะเลเกลือที่ Salar de Uyuni ของประเทศโบลิเวียนั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:26:53
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 6  

7. ป่าหิน (Stone Forest) เมืองคุนหมิง มลฑลยูนาน ประเทศจีน
อุทยานป่าหิน ( Shilin National Park) ในเมืองคุนหมิง จัดเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีพื้นที่มากถึง 350 ตารางกิโลเมตร แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
เดิมทีหินปูนเหล่านี้อยู่ใต้ผิวโลก แต่ภายหลังได้ถูกดันขึ้นมาในลักษณะเดียวกับหินงอก
เชื่อกันว่าป่าหินแห่งนี้มีอายุราว 270 ล้านปีเลยทีเดียว

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:28:02
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 7  

8.  ธารน้ำแข็ง Taylor ใน McMurdo Dry Valleys ที่แอนตาร์คติกา (ขั้วโลกใต้)
ธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นสีแดงส้ม ตัดกับน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ซึ่งมีสีขาวโพลน
เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก (iron oxide)  ซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้บริเวณดังกล่าวจึงได้รับการขนานนามตามลักษณะทางกายภาพว่า "น้ำตกเลือด"  (Blood Falls)

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:29:03
ถูกใจ: กระดาษไม่มีเยื่อ

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 8  

9. ทะเลสาปสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา
“สปอท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ
อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก
แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน นักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น
(ส่วนที่เป็นจุดๆ คือน้ำ นอกนั้นเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้)

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:30:10
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 9  

10. ทะเลทรายแบล็ค ร็อค (Black Rock Desert) ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
ทะเลทรายแบล็คร็อค คือ ก้นทะเลสาปที่แห้งสนิท
ครั้งหนึ่งดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาปในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า "Lahontan"
ซึ่งปรากฏอยู่ในสมัย 18,000-7,000 พันปีก่อนคริสตกาล
ในช่วงที่ทะเลสาปโบราณแห่งนี้มีระดับน้ำสูงสุด (เมื่อประมาณ 12,700 ปีก่อน)
ทะเลทรายแบล็คร็อคเคยอยู่ใต้น้ำที่มีความลึกถึง 150 เมตรเลยทีเดียว

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:31:32
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 10  

11.ถ้ำคริสตัล (Crystal Cave) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ถ้ำคริสตัล เป็น 1 ใน 240 ถ้ำ (ที่ถูกค้นพบ) ภายในอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย
ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำ "หินอ่อน" ธรรมชาติ ที่ภายในมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 9 องศาเซลเซียส
ซึ่งการจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องอาศัยไกด์ทัวร์เป็นผู้นำทางเท่านั้น

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:32:19
ถูกใจ: กระดาษไม่มีเยื่อ

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 11  

12. ทุ่งหินรูปรังผึ้ง Bungle Bungles ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย
ทุ่งหินทรายที่มีรูปทรงคล้ายรังผึ้ง หรือ Bungle Bungles นี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Purnululu  
ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)
กลุ่มหินดังกล่าวประกอบด้วยหินทรายและหินกรวดมน ซึ่งเมื่อประมาณ 375-350 ล้านปีก่อนหินเหล่านี้เคยเป็นตะกอนในลุ่มน้ำ "Ord"

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:33:01
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 12  

13. ภูเขาไฟ Redoubt ที่รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา
Redoubt เป็นภูเขาไฟมีพลัง (active volcano) อายุนับพันๆ ปี
ที่ยังคงคุกรุ่นและเกิดการปะทุหรือระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง  
โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:33:59
ถูกใจ: numonia, ประคด, ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 13  

14. ดินแดนโบราณ คัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี
คัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528)
ดินแดนดังกล่าวมีภูมิประเทศที่แปลกตาซึ่งเกิดจากจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่
เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน
และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม บางส่วนมีประชาชนอาศัยอยู่ภายใน

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:34:50
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 14  

15. ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica)
“Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
(รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์)
มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส
ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)
น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:39:49
ถูกใจ: noonmaguire, คืนฝันอันว่างเปล่า, osteophytes

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 15  

16. แม่น้ำสีแดง (Rio Tinto) ที่ประเทศสเปน
บริเวณพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ Río Tinto มีการทำเหมืองทองแดง เงิน ทอง และแร่ธาตุอื่นๆ
มาตั้งแต่สมัยโบราณ (ราว 5 พันปีก่อน)  ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก
ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีแดงก็เนื่องมาจากก้อนหินที่อยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ประกอบ ด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั่นเอง
เหมืองในแถบนี้ถูกปิดมานานนับ 10 ปี แต่เนื่องจากทองแดงมีราคาสูงขึ้น
เจ้าของเหมืองจึงมีแผนเปิดเหมืองทองแดงอีกครั้งในปีหน้า

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:40:40
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 16  

สุดท้ายแล้วคร๊าบ มีที่ไหนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของใครบ้างมั๊ยน้อ^^


17. หุบเขาโลกพระจันทร์ (Vale de Lua) ที่ประเทศบราซิล
หุบเขาโลกพระจันทร์ หรือ "the valley of the moon" เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี
โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน
ดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros  
ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ผ่านมา

 
 

จากคุณ: อัศเจรีย์
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:41:59
ถูกใจ: noonmaguire, ประคด, NinetyFive

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 17  

น่าสนใจจังครับ แต่ละที่

จากคุณ: du-hast
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:44:11 A:124.121.23.88 X: TicketID:239218
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 18  

รอให้ครบ 17 ภาพก่อน ถึงจะตอบนะเนี่ย ไม่กล้าปาด (ฮา)

จากคุณ: เด็กวัดสะพานใหม่
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:45:05
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 19  

ไทยก็น่าจะติดกับเขาบ้างนะ

จากคุณ: นักล่าภาพ
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:45:56
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 20  

สวยมากครับ...

จากคุณ: ถูกทิ้งที่รังสิต
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 11:46:51
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 21  

ชอบจัง เอากิฟปาย

จากคุณ: เคลิ้มสมาคม
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 12:13:00
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 22  

สวย แปลกดีค่ะ

จากคุณ: ThatsNoon
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 12:14:53
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 23  

สวยและแปลกดีครับ

จากคุณ: whiteaquamarine
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 12:15:10
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 24  

แปลกและสวยดีละกัน

จากคุณ: nisas
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 12:16:07
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 25  

แจ่มฮะ นึกว่าจะซ้ำ

จากคุณ: นายโอ้นโต้น
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 12:19:32
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 26  

หลายๆอันสวยดีครับ บางอันน่าไปเที่ยวชมด้วยนะ

จากคุณ: ลุงรหัส
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 13:04:55
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 27  

เกินมาตั้ง 7 แน่ะ ^ ^

จากคุณ: น้องหยิก
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 13:21:49
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 28  

สวยงามและเหมาะสมยิ่งนัก

แต่  ไม่มีของไทยเลยเรอะ

จากคุณ: คีบู
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:19:02
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 29  

สวยดี น่าเที่ยว

จากคุณ: ลี้อาเฮง
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:23:15
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 30  

โหวตไปตามระเบียบครับ


ว่าแต่ นั่นดิ ของไทย น่าจะมีคนรวบรวมมาบ้าง

อาจจะไม่แปลกเท่าของเขา แต่ก็น่าเที่ยว

เช่น ละลุ เขาทะลุ แพะเมืองผี เขาตะปู ฯลฯ

มีที่ไหนอีกนะ ใครช่วยรวบรวมหน่อย

จากคุณ: Prof.Sirius
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:35:04
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 31  

อัศจรรย์....

จากคุณ: Mr. k
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:45:37 A:58.11.39.60 X: TicketID:115608
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 32  

ปาดดดดดด ลืมถ้ำซุปเปอร์แมน ในเม็กซิโกไปได้อย่างไรครับ

เป็นถ้ำคริสตอลที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งมีลักษณะเป็นหินกลวงเป็นเปลือกหุ้ม ภายใน
นั้นมีน้ำซึ่งมีแร่ธาตุเหมาะสมต่อการเจริญของผลึกอยู่เต็ม ใช้เวลา...เอ่อ..
ท่าจะนานผลึก มันถึงได้ใหญ่ขนาดนั้น จนมนุษย์สำรวจเจอ ต้องมีการดูด
เอาน้ำที่อยู่ภายในออกหมดเพื่อจะลงไปสำรวจได้  แล้วผลึกมันจะยังอยู่
ได้อีกนานมั้ยเนี่ย

 
 

จากคุณ: Air_graphic
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:55:34
ถูกใจ: lazywii

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 33  

จิ่วจ้ายโกว ไม่ติดหรอ

จากคุณ: LAPD21
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:55:55
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 34  

เทียบกันดู อิ อิ

 
 

จากคุณ: Air_graphic
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 14:57:39
ถูกใจ: nisas, ประคด

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 35  

ประเทศไทยมีนาเกลือ คล้ายๆที่ราบเกลือของโบลิเวียไง (อันนี้ล้อเล่นนะ)แต่เป็นฝีมือมนุษย์ไม่ใช่ธรรมชาติ ของไทยเราที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยังเหลืออีกมั๊ยเนี่ย ก่อนหน้านี้ไปเชียงใหม่มาช่วงที่ควันไฟภาคเหนือเป็นปัญหานั่นแหละ เห็นป่าตามข้างทางเหลือแต่ตะโกดำๆตั้งแต่ลำปางไปจนถึงเชียงใหม่ ดูน่าเศร้าเหมือนกัน แม้แต่พื้นดินยังเป็นสีดำทั่วทั้งภูเขา

จากคุณ: มันฝรั่งอบ
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 15:07:43 A:58.136.74.43 X: TicketID:247223
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 36  

สุดยอดเลยครับ

จากคุณ: เทพบุตรชาวดิน
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 15:32:47 A:125.24.215.40 X: TicketID:247548
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 37  

สวยทุกที่ เลยครับ  ^^

จากคุณ: vn, man
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:08:21
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 38  

รูปในความเห็นที่ 13 บ้านเราเรียกว่าหินตาจ้ะ แต่ที่สมุยสั้นและหัวใหญ่กว่านี้เยอะ

จากคุณ: ....................
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:25:45 A:10.216.90.40 X:202.149.29.83 TicketID:165423
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 39  

ดาว

จากคุณ: หม๋องแหม๋ง
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:27:46
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 40  

สวยทุกที่เลย โดยเฉพาะ Giant's Causeway ที่ไอร์แลนด์เหนือ

จากคุณ: หัวใจถวายวัด
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:41:29
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 41  

เอาภาพทางอากาศของ blood falls มาให้ดูครับ   ไปค้นเองใน google map

สังเกตสี

 
 

จากคุณ: CLK BRABUS
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:43:02
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 42  

รูป Blood falls, Taylor Glacier , Antarctica ครับ

ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Blood_Falls

 
 

จากคุณ: CLK BRABUS
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 16:51:49
ถูกใจ: lazywii

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 43  

ของไทยก็มีถ้ำแก้วโกมล ที่แม่ฮ่องสอน แล้วก็นี่เลยถ้ำน้ำบ่อผีที่ปางมะผ้า ก็แม่ฮ่องสอนอีกนะแหละ

รูปหาดูเอาใน Google นะจ๊ะไม่กล้าไปก็อบเขามา

จากคุณ: Pigusto
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 17:06:10
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 44  

แปลกดีครับ

จากคุณ: tottui
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 17:28:02
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 45  

เข้ากระทู้นี้แล้วได้กลิ่นสนิมเลยอ่ะ

จากคุณ: แฟน Muse
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 18:10:05
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 46  

เยี่ยมครับ

จากคุณ: papikasoda
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 18:11:07
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 47  

คห. 14 น่าลงไปแช่จังครับ

จากคุณ: คืนฝันอันว่างเปล่า
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 18:25:15
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 48  

คห.4
สวยโคตร
หลายๆ อันให้อารมณ์อย่างกะในเกมไฟนอลแฟนตาซีเลยแฮะ

จากคุณ: bloodsoap_cdaz
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 18:26:50
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 49  

แปลกตาดีครับ

จากคุณ: ว่าที่ลูกเรือ
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 18:36:34
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 50  

มีอันนี้ที่ออสเตรเลียด้วยครับ

http://images.google.com/images?q=wave%20rock%20australia

จากคุณ: ดอส
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 20:04:29
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 51  

..

จากคุณ: pisity
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 22:38:19
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 52  

15.ทะเลเดือดที่ว่าน้ำเหือดหายไปนี่หายไปไหนอะคะ กลายเป็นไอหายไปในอากาศหรือว่าผุบหายลงไปก้นทะเลอะคะ

จากคุณ: titou
เขียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 52 23:12:13
  

 
 

อ้างอิง

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8709071/X8709071.html