ส่วนใหญ่น่าจะเป็นรุ่นอาม่า แล้วช่วงนั้นทำไมต้องอพยพออกจากจีนครับทำไมคนแต้จิ๋วถึงเข้าไทยเยอะกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ แต่เหมือนกวางตุ้งจะไม่ค่อยเข้าไทยเท่าไหร่ทำไมคนที่อพยพออกมาส่วนใหญ่ ถึงเป็นจีนทางตอนใต้ครับ เช่นฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว ไหหลำ ไม่มีพวกปักกิ่ง ซักเท่าไหร่
มีมาเรื่อยๆตั้งแต่สุโขทัย(หรือก่อนหน้านั้น)แล้วครับส่วนมากก็เป็นคนค้าขาย เดินทางไปๆมาๆระหว่างจีนกับไทยที่ตั้งรกรากที่นี่เลยก็มีครับแต่ช่วงที่จัดว่าเยอะมากก็เห็นจะเป็นในช่วงไม่เกิน ๑๐๐ ปีที่ผ่านมาเพราะช่วงนั้นเมืองจีนก็วุ่นๆ เดี๋ยวเจอศึกโน่นศึกนี่ เดี๋ยวภัยธรรมชาติอีกผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าเมืองจีนช่วงนั้นอดอยากแร้นแค้นมาก+ได้ข่าวว่าแผ่นดินทางใต้นี้มีโอกาสรออยู่ก็ชวนกันลงเรือไปตายเอาดาบหน้า เพื่อชีวิตที่ดีกว่าคนจีนที่อพยพมาไทย ส่วนใหญ่เป็นจีนแต้จิ๋ว น่าจะเพราะเครือข่ายชาวแต้จิ๋วที่อยู่ในบ้านเราตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสิน(ท่านก็เชื้อสายแต้จิ๋วครับ)ส่วนกลุ่มที่อพยพไปทางปักษ์ใต้ มาเลย์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ก็มักจะเป็นชาวฮกเกี้ยนเสียมากแต่ทำไม คนจีนทางตอนเหนือถึงไม่ค่อยอพยพไปที่อื่นกัน?ขอรอผู้รู้ท่านต่อไปครับ อันนี้บ่ฮู้คือกัน
ถ้าจขกท.เคยดูละครไทยเรื่องดงดอกเหมย หรือ โบตั๋นกลีบสุดท้ายก็จะทราบคำตอบ
จีนใต้ ไม่ใช่จีนแท้ จีนแท้ ไม่ทิ้ง จงหยวน ครับคนไทโบราณ ก็อพยพจากจีนทั้ง บกและทะเล ตั้งแต่โบราณ เพียงแต่รุ่นหลังๆ ไท-กะได ที่เหลืออยู่ตามชายฝั่ง ไม่ได้พูดไทแล้ว แต่พูด หมินหนานแทนจีนแต้จิ๋ว เหมือนจะเรียกว่า จีนหลวง เนื่องด้วย พระเจ้าตากสินนะครับส่วนทางใต้ เจ้าของเหมืองแร่ และเจ้าเมืองมีเชื้อสายฮกเกี้ยน ครับ
"ซัวเถา" เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลกวางตุ้ง มีประชากรรวมกว่า 4 ล้านคน อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดแต้จิ๋ว ต่อมาแยกออกมาเป็นจังหวัดและในปีพ.ศ.2525 รัฐบาลประกาศให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัจจุบันมีรายได้หลักมาจากการส่งสินค้าออก ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เครื่องไฟฟ้า เครื่องจักรกล เวชภัณฑ์ การฝีมือ ที่มีชื่อเสียงมากคือ ผ้าปัก เซรามิก แกะสลักหินและไม้แกะสลัก"ซัวเถา" หรือแต้จิ๋วในอดีต เป็นบ้านพี่เมืองน้องที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นถิ่นกำเนิดของบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศ ไทยในปัจจุบันตามบันทึกรัฐบาลจีนระบุชัดว่า ยุคที่จีนทำศึกสงครามกับพวกมองโกลและแมนจูเรีย และยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำสงครามกับญี่ปุ่น คนแต้จิ๋วกว่า 2 ล้านคนซึ่งตกอยู่ในภาวะที่อดอยาก ต่างก็อพยพหนีตาย หอบเสื่อผืน หมอนใบ โล้สำเภาหนีภัยสงครามผ่านมาทางแม่น้ำโขง มาขึ้นฝั่งสยามแถบทิศตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ตราด จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา มากที่สุดยุคที่ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพเข้ามาเมืองไทยมากที่สุดคือ หลังปีพ.ศ.2310ในยุคที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงครองราชย์ ทรงมีเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว มีพระราชบิดาเป็นชาวแต้จิ๋วชื่อ แต้ย้ง หรือต๋า ส่วนพระราชมารดาเป็นคนไทยชื่อนกเอี้ยง ทำให้คนทั้ง 2 ชาติไปมาหาสู่กันมากเป็นพิเศษจนมีเรื่องบอกเล่ากันว่าเมื่อคราวที่พระเจ้าตากสิน ออกสู้รบเพื่อกอบกู้เอกราชให้กับชาติไทย ชาวเมืองแต้จิ๋วได้เรี่ยไรเงินนำมาใช้ต่อเรือ เพื่อเป็นพาหนะในการกอบกู้เอกราชให้กับชาติไทยในสมัยนั้นด้วยนอกจากพระเจ้าตากสิน จะเป็นกษัตริย์ทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทยแล้ว พระองค์ยังเป็นที่รักและเคารพของคนจีนแต้จิ๋วในประเทศจีนอย่างมากอีกด้วย จนมีการเรียกพระนามตามภาษาจีนแต้จิ๋วว่า แต่อ่วงกง หมายถึง กษัตริย์ชาวแต้จิ๋วที่ได้รับการเคารพบูชาการเดินทางมาซัวเถาครั้งนี้ ไกด์ท้องถิ่น ได้เล่าว่า ในเมืองแต้จิ๋ว ใกล้กับซัวเถา มีสุสานฝังฉลองพระองค์และพระมาลาของสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราชของไทย ตั้งอยู่หมู่บ้านหัวฝู่ อำเภอเฉิงไห่ ด้วยคณะได้มีโอกาสเดินทางไปสักการบูชาศาลประจำตระกูลแต้ และสุสาน บรรจุฉลองพระองค์ของพระเจ้าตากสินดังกล่าวด้วยไกด์เล่าว่า สันนิษฐานกันว่าหมู่บ้านดังกล่าวเป็นบ้านเกิดของพระราชบิดาพระเจ้าตากสิน เพราะมีศาลประจำตระกูลแต้ และสุสานบรรจุฉลองพระองค์ของพระเจ้าตากสินตั้งอยู่ สร้างความปลาบปลื้มแก่คณะที่เดินทางไปเป็นอย่างมากhttp://www.khonkaenlink.info/tour/tour_thai.asp?id=7733
ช่วง100 ปีหลังแผ่นดินจีนวุ่นวายครับ มีทั้งภัยธรรมชาติและภัยมนุษย์เริ่มจากสงครามปฎิวัติ ต่อด้วย สงครามขุนศึก ต่อด้วย สงครามโลก แล้วก็สงครามกลางเมือง คนจีนในช่วงนั้นๆ ก็หนีทั้งความอดยากจากภัยแล้งและภัยสงคราม มาเมืองไทยครับ ช่วงอพยพสุดท้ายคือก่อนจีนจะปิดประเทศครับ หลังจากนั้นการอพยพออกนอกประเทศก็หยุดลง แต่ก็ยังมีการติดต่อกันบ้างไปเยี่ยมเยียนแลกเปลี่ยนกันเป็นระยะๆ
การเดินทางของชาวจีนออกนอกประเทศนั้นมีมาแต่ยุคโบราณแล้วหน่ะครับ โดยเฉพาะการเดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้แลอย่างในสมัยอยุธยา เราก็มีชุมชนจีนที่ชลบุรี (บางปลาสร้อย), ท่าจีน, บางกอก, บางปะกง, และในตัวเมืองอยุธยาย่านแถวๆป้อมเพชรนอกจากนี้ยังมีหลักฐานการตั้งเมืองหรือนิคมของคนจีนในมลายู อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาแต่โบราณครับ (อย่างในฟิลิปปินส์ย้อนกลับไปได้ถึงสมัยไล่ๆกับสุโขทัยเลย)เหตุผลที่ทำให้คนจีนอพยพออกจากประเทศก็มีทั้งภัยสงคราม ความอดอยาก เพื่อการค้า เป็นต้นเดิมทีคนจีนกลุ่มหลักในประเทศไทยคือชาวจีนฮกเกี้ยนครับ เำพราะคนฮกเกี้ยนเก่งกาจในด้านการเดินเรือและทำการค้ามาแต่โบราณ เนื่องด้วยภูมิศาสตร์ของมณฑลฟูเจี้ยนเอง แต่ทว่าภายหลังเสียกรุงครั้งที่สองและการขึ้นครองราชสมบัติของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่พระองค์ได้ให้การอุปถัมภ์ชาวจีนแต้จิ๋วที่อาศัยอยู่ในแถบบางปลาสร้อยและบางกอกเป็นอย่างดี ทำให้ชาวแต้จิ๋นอพยพเข้ามาในภาคกลางประเทศไทยกันมากขึ้น ในขณะที่ชาวฮกเกี้ยนนั้นนิยมอพยพเข้าไปภาคใต้ของไทยต่อแดนมลายูเสียมากกว่าเมื่อคนแต้จิ๋วในภาคกลางของไทยปักหลักกันอยู่นานมากขึ้นก็หลอมรวมเข้ากับศูนย์กลางการปกครองในภาคกลางของไทยได้มากกว่าคนจีนกลุ่มอื่นๆที่อาศัยตามหัวเมืองไกลๆครับ และพอเกิดวิกฤติในจีนช่วงราวๆปี 1870-1949 ที่จีนตกอยู่ในยุคของความวุ่นวาย คลื่นการอพยพออกนอกประเทศของชาวจีนกลุ่มต่างๆก็มีมากขึ้น โดย1. ชาวกวางตุ้งนั้น เนื่องจากตามสนธิสัญญากับอังกฤษและหลายๆประเทศ รวมไปถึงหลักการแต่โบราณของราชสำนักจีน ที่มักจะเปิดเมืองท่าทำการค้าขายโดยใช้กว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งเป็นหลัก ทำให้กวางตุ้งกลายเป็นเมืองเปิดแห่งแรกที่มีชาวต่างชาติเข้าไปตั้งกิจการครับ และชาวกวางตุ้งก็เลยเป็นคนกลุ่มแรกๆที่ได้อพยพไปยังดินแดนที่ห่างไหล อย่างเช่นการรับสมัครคนงานไปสร้างทางรถไฟในสหรัฐ ที่ได้พาแรงงานชาวจีนจำนวนมหาศาลเข้าไปในสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนกวางตุ้งนี้แลครับ ทำให้คนกวางตุ้งนิยมไปอยู่ในสหรัฐและยุโรปกันมาก2. ชาวฮกเกี้ยน เนื่องด้วยชาวฮกเกี้ยนเก่งกาจในด้านการเดินเรือมาแต่เก่าก่อน พวกเขาเดินทางทั้งค้าขายและเป็นโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้มาแต่โบราณ และออกไปตั้งหมู่บ้านหรือชุมชนเล็กๆหลากหลายแห่งในอาเซียนครับ ทั้งในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มลายู และภาคใต้ของประเทศไทย พวกเขาจึงกระจัดกระจายไปในประเทศต่างๆของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หน่ะครับ3. ชาวจีนแต้จิ๋ว คนแต้จิ๋วไม่มีทักษะทางการเดินเรือมากเท่ากับชาวฮกเกี้ยน และชาวแต้จิ๋วก็เป็นคนจีนกลุ่มเล็กๆเท่านั้นครับ คนแต้จิ๋วอาศัยอยู่สุดขอบของมณฑลกวางตุ้ง ในดินแดนที่เรียกว่ายังกันดารอยู่มาก พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกมากนักในการเดินทางไปในดินแดนต่างๆ เนื่องด้วยคนแต้จิ๋วกลุ่มแรกๆได้ปักหลักกิจการและรุ่งเรืองขึ้นในประเทศไทยครับ พวกเขาก็เลยเน้นที่จะอพยพตามคนรู้จักหรือญาติพี่น้องที่สามารถให้การอุปถัมภ์พวกเขาได้มายังประเทศไทยครับนั่นทำให้ประชากรจีนในประเทศไทยนั้น ภายหลังรัชกาลที่ 1 คนฮกเกี้ยนที่เคยเป็นชนกลุ่มหลักเดิมมีอัตราการเพิ่มจำนวนน้อยกว่าคนแต้จิ๋วครับผม และทำให้คนแต้จิ๋วกลายเป็นคนจีนกลุ่มหลักในไทยไปอีกทั้งในยุคแรกๆ คนจีนที่อพยพเข้ามามักจะมาตัวคนเดียวและิเป็นผู้ชายครับ เนื่องด้วยพวกเขาได้มาอาศัยในภาคกลาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรไทย จึงเป็นการได้เปรียบที่พวกเขาจะหลอมรวมกันชนชั้นปกครองเดิมของไทยเรา และกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในการปกครองอาณาจักรไปด้วยในฐานะขุนนางรุ่นใหม่ๆ
ส่วนคนจีนกลุ่มอื่นๆนั้น คนจีนทางเหนือจะไม่ค่อยอพยพไปต่างประเทศครับ เพราะพวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลมาแต่โบราณ และไม่ค่อยมีทักษะการเดินเรือค้าขายเหมือนคนจีนทางใต้ ทำให้พวกเขาส่วนใหญ่มีน้อยมากที่จะอพยพหนีภัยความยากจนไปต่างประเทศ คนจีนทางเหนือที่ไปอาศัยในต่างประเทศมักจะเป็นคนร่ำรวย หรือคนที่มีการศึกษา มากกว่าเป็นแรงงานหรือชาวนาหน่ะครับ
อ้างอิง
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8678531/K8678531.html