เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.
|
เสาร์, 21 พฤศจิกายน 2009 |
วันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 สมองหญิง-สมองชายต่างกันตรงไหน Posted by เอกสิทธ์ , ผู้อ่าน : 16 , 01:29:24 น. หมวด : การศึกษา
พิมพ์หน้านี้
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-01.jpg)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/P-048.jpg)
สมองหญิง-สมองชายต่างกันตรงไหน มีน้องส่งข้อมูลที่อ่านจากนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 55 มาให้อ่าน เป็นเรื่องของความแตกต่างระหว่างสมองเด็กผู้หญิงกับสมองเด็กผุ้ชายว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร ผมเองก็เพิ่งรู้นี่แหละครับ จึงบอกต่อกัน เพราะเข้าใจว่า อีกหลายท่านน่าจะยังไม่ทราบ ความก็มีอยู่ว่า ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-girl1.jpg)
|
สมองเด็กผู้หญิง - ระบบการเชื่่อมโยงของเซลล์สมองมีมากกว่าเด็กผู้ชาย - การทำงานของสมองทั้ง 2 ซีกจะ้ดีมาก โดยเฉพาะหากสมองซีกซ้ายถูกทำลาย ก็ยังสามารถใช้สมองซีกขวาในการสื่อสารได้ แต่เด็กผู้ชายจะทำไม่ได้หรือทำได้แต่ก็ช้ากว่า - มีความสามารถในการส่งข้อมูลระหว่างสมองซีกซ้ายและขวาได้ดีกว่าผู้ชาย - มีความสามารถในการสร้างอารมณ์ความรู้สึก อารมณ์ และสร้างความผูกพันทางอารมณ์ได้ดีกว่าเด็กผู้ชาย - มีการรับรู้ เข้าใจ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง จดจำหน้าคนได้ดี รับรู้อารมณ์ที่แสดงออกทางเสียงได้ดีกว่าเด็กผู้ชาย (ไวต่อกลิ่น รส สัมผัส และเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงสูง) - มีความสามารถในการอ่าน โดยเฉพาะข้อความที่สัมพันธ์กับความรู้สึกกับอารมณ์ - การรับรู้สายตา โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ คล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อตาและมือ - มีความสามารถในการรับข้อมูลและนำมาคิดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะงานที่ให้เลือกตอบโดยอาศัยความเร็ว เช่น ข้อสอบแบบมีตัวเลือก - สนใจในเรื่องความรับผิดชอบทางสังคม ความรู้สึกเข้าใจคนอื่น ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-boy.jpg)
สมองเด็กผู้ชาย - จำนวนเซลล์สมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 4% และมีเนื้อสมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 1 ขีด - ใช้สมองซีกซ้ายได้ดีกว่า - มีทักษะด้านมิติสัมพันธ์ที่ดี รับรู้เกี่ยวกับมิติต่างๆความลึก ทิศทาง ระยะห่าง การรับรู้วัตถุสามมิติซ่อนอยู่ในภาพสองมิติได้ - เด็กผู้ชายมีความผูกพันกับคนอื่นน้อยกว่าเด็กผู้หญิง - เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ดีกว่า - สามารถคิดซับซ้อนได้ เช่น แผนที่ ปริศนา - มีความสามารถในการวิจัยและค้นคว้า ทดลอง สังเกตสิ่งต่าง ๆ ได้ดี - มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จะสื่อ อธิบายเหตุผล หรือความคิดทางคณิตศาสตร์ - มีความคิดอิสระในสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่า ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-00.jpg)
หลักการพัฒนาสมอง สิ่งสำคัญคือ การกระตุ้น ฝึกฝนทักษะจากทุกส่วนประสานกัน เพื่อให้เขาค่อย ๆ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ช่วงลำดับการเติบโตของสมองในแต่ละวัย เป็นดังนี้ 4 เดือน: สมองตอบสนองต่อเสียง เริ่มรับรู้ภาษาจากการฟังเสียงสูงต่ำ และปรับเข้ากับอารมณ์ที่แตกต่างจากน้ำเสียง การเล่นละคร หุ่นมือ ใช้เสียงสูงต่ำเล่าเรื่อง จะช่วยกระตุ้นการเชื่อมโยงของเซลล์สมองได้ดี ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-05.jpg) 8-9 เดือน: สามารถจดจำบางสิ่งบางอย่างได้จากประสบการณ์ เช่น ทำอย่างไรให้ลูกบอลกลิ้ง การเล่นกับลูกจะเป็นการช่วยสร้างประสบการณ์สนุก ๆ ให้เขา 10 เดือน: จำแนกและสร้างเสียงเฉพาะของตนเองได้ เช่น ดาดา การเปิดโอกาสให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เห็นอะไรใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น 12 เดือน: สมองสามารถจดจำ เรียกความจำบางส่วนที่เก็บไว้ออกมาใช้ เกิดการเชื่อมโยงที่ดีขึ้น ทักษะต่างๆพัฒนามากขึ้น เช่นกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ การเปล่งเสียงที่นำไปสู่การพูด
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/779/8779/images/Brain-04.jpg)
ที่มา นิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 55 จำเลขหน้าไม่ได้แย้วครับ |
อ่านความคิดเห็น
อ้างอิง http://www.norsorpor.com/go2.php?t=m&u=http%3A%2F%2Fwww.oknation.net%2Fblog%2Fvasit%2F2009%2F11%2F21%2Fentry-1 |