กุลีเหมืองหาบ พรม.ภูเก็ต |
กุลีชาวจีนโพ้นทะเล เดินทางรอนแรมบนเรือสำเภาจีนจากท่าเมืองเซียะเหมิน(เมืองเอหมึง เมืองเอ้หมึง เมืองอามอย) มณฑลฝูเจี้ยน(มณฑลฟูเจี้ยน มณฑลฮกเกี้ยน) ประเทศจีน ขึ้นท่าที่ท่าเรือบ้านบางเหนียวเมื่อ ๑๗๐ ปีที่ผ่านมา เข้ามาเป็นกุลีเหมืองหาบในเมืองภูเก็จ เมืองภูเก็ต เมืองกะทู้ แหล่งลานแร่ในทู แหล่งลานแร่นาพรุ เชิงทะเล ทำงานเป็นกะ กะละ ๘ ชั่วโมง พัก ๘ ชั่วโมง สลับกันไป กุลีเหล่านี้มาอยู่ในเหมืองหาบ เท่าที่หลักฐานระบุมีจำนวนมากถึง ๗๐๐-๘๐๐ คนต่อ ๑ เหมือง กุลีต้องแช่น้ำในฤดูฝน ๘ ชั่วโมง กุลีต้องกรำแดด ๘ ชัวโมง ร่างกายกุลของหลายคน ไม่สามารถคงทนต่อฝนต่อแดดในช่วงเวลายาวนานได้ ประสบความเจ็บป่วยประกอบไข้ป่า กุลีต้องล้มเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก เป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสังเวช(ด้วยความสมัครใจ)เพราะอำนาจแห่งฝิ่นที่อังกฤษไปปล่อยไว้ในประเทศจีนอันก่อให้เกิดข้าวยากหมากแพงแก่พี่น้องชาวจีน "เสื่อผืนหมอนใบ" จึงกำเนิดเกิดขึ้นมาเล่าขานสืบตำนานของกุลีชาวจีนสืบมาจนวันนี้ : สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ถ่ายภาพเมื่อ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|