ปั ว ะ โ ป้ ย ก า ร ท อ ด วั ต ถุ เ สี่ ย ง ท า ย ดิลก วุฒิพาณิชย์ ------------------ ปัวะโป้ย คือ การเสี่ยงทายของจีนวิธีหนึ่งใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของการบวงสรวง เพื่ออธิษฐานต่อเทพเจ้าหรือบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นที่ตนเคารพสักการะบูชา ขอให้ประทานวินิจฉัยในสิ่งที่ตนพึงปรารถนาว่า จะโปรดฉันทานุมัติหรือไม่ ปัจจุบัน วิธีการปัวะโป้ยได้นำมาประยุกต์ใช้ในพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วด้วยกรรมวิธีเสี่ยงทายใช้วัตถุอุปกรณ์อันสามารถสื่อความหมายที่แตกต่างกันได้ ๒ ทาง ซึ่งวัตถุนนั้นจะต้องมีลักษณะเหมือนกันจำนวน ๒ ชิ้น เช่น เหรียญโลหะ เป็นต้น เหรียญโลหะ ๒ อันต่างมีด้านหัวและด้านก้อย ซึ่งใช้สื่อความหมายในการเสี่ยงทายได้ คำว่า"ปัวะโป้ย"เป็นภาษาจีนตามสำเนียงชาวจีนฮกเกี้ยน หมายถึง การทอดวัตถุเสี่ยงทาย เพื่อทราบรหัสคำตอบว่า ใช่หรือไม่ ปัวะโป้ยเพี้ยนมาจากอักษรจีนเขียนว่า อ่านตามสำเนียงชาวจีนฮกเกี้ยนว่า "ปกโป่ย" สำเนียงจีนกลางว่า "ปู่เป้ย" หมายถึง การเสี่ยงทายด้วยเบี้ยหอยหรือการทอดเบี้ยหอย เพื่อการเสี่ยงทาย เบี้ยหอยเป็นวัตถุอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเสี่ยงทายในสมัยโบราณ
ปัจจุบัน วัตถุอุปกรณ์เสี่ยงทายมีมากมายหลายอย่าง เช่น รากไม้ไผ่ผ่าซีก แผ่นไม้ที่จัดทำขึ้นพิเศษ หรือเหรียญโลหะทั่วไป แผ่นไม้ หรือรากไม้ไผ่นิยมใช้ในศาลเจ้าทั่วไป เช่น ในพิธีเทศกาลพ้อต่อหรือเทศกาลกินเจในจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ส่วนเหรียญโลหะมักสะดวกใช้ตามบ้าน หรือบริเวณนอกศาลเจ้าในพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หรือพิธีเทศกาลชิงหมิง(เฉ่งเบ๋ง หรือ เฉ่งเม้ง) ขณะเซ่นไหว้บรรพบุรุษและทำความสะอาดสุสานที่ฝังศพ วัตถุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสี่ยงทาย (นอกจากเหรียญโลหะ)จะต้องมีลักษณะกลมรีเหมือนรูปไต ด้านหนึ่งโค้งนูนคล้ายหลังเต่า ส่วนอีกด้านหนึ่งขัดผิวเกลี้ยงเรียบ จำนวน ๒ ชิ้น ลักษณะเหมือนกันทั้งสองชิ้น เมื่อนำเอาด้านเรียบมาประกบกันเข้า จะแนบกันสนิท ถือเป็นรูปแบบกรรมพิธีก่อนที่จะทอดวัตถุเสี่ยงทาย พิธีกรรมเสี่ยงทาย เพื่อต้องการทราบคำตอบรับหรือปฏิเสธ ผู้อธิษฐานต้องกระทำด้วยตนเอง โดยนำเอาวัตถุเสี่ยงทายทั้งสองชิ้นยกขึ้นมาประกบกัน ตั้งจิตอธิษฐานแล้วบรรจงปล่อยให้หล่นลงสู่พื้น ณ บริเวณเบื้องหน้าแท่นบูชา ผลของการทอดวัตถุเสี่ยงทาย อาจพิจารณาได้ ดังนี้ ๑. ถ้าเป็นการทอดเหรียญโลหะ ทอดเหรียญ ๒ อัน ๑ ครั้ง ซึ่งเหรียญทั้งสองมีลักษณะเหมือนกัน คือ มีความหนาหรือบางเท่ากัน น้ำหนักเท่ากัน จึงมีความเที่ยงตรงเท่ากัน โอกาสหรือความน่าจะเป็นที่จะออกหัวหรือก้อย โดยในแต่ละครั้งจะเท่ากับ หัวกับหัว, หัวกับก้อย, ก้อยกับหัว หรือ ก้อยกับก้อย ๒. ถ้าเป็นวัตถุอุปกรณ์อย่างอื่น ในทำนองเดียวกัน เมื่อทอดวัตถุเสี่ยงทาย ๒ ชิ้น ๑ ครั้ง โอกาสหรือความน่าจะเป็นที่วัตถุนั้น จะคว่ำหรือหงายโดยในแต่ครั้งจะเท่ากับคว่ำกับคว่ำ, คว่ำกับหงาย, หงายกับคว่ำ หรือหงายกับหงาย การประเมินผลของการอธิษฐานทอดวัตถุเสี่ยงทายมีการตีความหมาย ซึ่งยึดถือปฏิบัติกันโดยทั่วไป ดังนี้ ๑. การตอบรับหรืออนุญาต หรือที่เรียกว่า "อิ้นโป้ย" คือ วัตถุเสี่ยงทายปรากฏผล เท่ากับ ชิ้นหนึ่งคว่ำกับชิ้นหนึ่งหงาย ๒.การปฏิเสธหรือไม่อนุญาตหรือที่เรียกว่า"โบ่โป้ย" คือ วัตถุเสี่ยงทายปรากฏผลเท่ากับ คว่ำพร้อมกันทั้งสองชิ้น ๓.การปฏิเสธหรือไม่อนุญาตหรือที่เรียกว่า"เช้วโป้ย” คือ วัตถุเสี่ยงทายปรากฏผลเท่ากับหงายพร้อมกันทั้งสองชิ้น ชาวภูเก็ตเชื่อว่าผู้อนุญาตยิ้มรับ แม้จะไม่อนุญาต ดีกว่าความหมายในข้อที่ ๒ คือโบ่โป้ย เพื่อความแน่ใจในผลของการเสี่ยงทาย อาจจะขออธิษฐานกระทำเสี่ยงทายซ้ำ ๓ ครั้งก็ได้ ซึ่งอาจปรากฏผลการเสี่ยงทาย ดังนี้ คือ ตอบรับ ปฏิเสธ ความหมาย ๓ ครั้ง ๐ ครั้ง อนุญาตโดยเอกฉันท์ ๐ ครั้ง ๓ ครั้ง ไม่อนุญาตเด็ดขาด ๒ ครั้ง ๑ ครั้ง อนุญาต แต่ให้มีเงื่อนไข เพิ่มเติม ๑ ครั้ง ๒ ครั้ง ไม่อนุญาต ให้เสนอเงื่อนไขใหม่
อนึ่ง ผู้เลื่อมใสในลัทธิเต๋าจำนวนมากเชื่อว่า วัตถุอุปกรณ์เสี่ยงทายเป็นรูปทรง อันเป็นสัญลักษณ์ของอิน-หยางคือ วัตถุด้านโค้งนูนเป็นภาวะหยาง ส่วนด้านเกลี้ยงเรียบเป็นภาวะอิน ทั้งนี้เป็นไปตามทฤษฎีอินหยาง คือ ทฤษฎีคู่หรือทฤษฎีทวิภาวะซึ่งในการทอดวัตถุเสี่ยงทาย ถ้าหากชิ้นหนึ่งคว่ำและชิ้นหนึ่งหงาย ย่อมบ่งบอกถึงความสมดุลของสภาวะอิน-หยาง ถือเป็นการตอบรับหรืออนุญาตในเรื่องที่อธิษฐานเสี่ยงทายนั้น คตินิยมเคารพสักการะเทพเจ้าหรือบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษถือเป็นการบูชาสิ่งที่ควรบูชาเป็นมงคลอย่างสูงสุด. |