อุโมงค์เหมืองใต้ดิน |
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ. | |
อาทิตย์, 17 ตุลาคม 2010 | |
เหมืองใต้ดินClip ช่วยฅนงานเหมืองในชิลีClip เหมืองอุโมงค์ เหมืองใต้ดิน เหมืองทองคำ กว่าจะได้ทองคำ
แซ่ซ้องกู้ชีวิต 33 คนงานเหมืองชิลีสำเร็จวันพฤหัสบดี ที่ 14 ตุลาคม 2553 เวลา 7:55 น โลกแซ่ซ้องกู้ชีวิต 33 คนงานติดเหมืองชิลีสำเร็จ เผยใช้เวลา22ชั่วโมงเศษ หลังติดค้างอยู่ใต้ดินลึก 625 เมตรมาราธอน 69 วัน วันนี้ (14 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเหมืองทองคำและทองแดงซานโฮเซ่ ในทะเลทรายอาทาคามาของเมืองโกปิอาโป ทางเหนือของชิลี ว่า ในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถช่วยคนงานเหมืองทั้ง 33 รายขึ้นมาจากใต้ดินได้สำเร็จเมื่อเวลา 07.55น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อ นายลูอิส อูร์ซัว วัย 54 ปี โผล่พ้นผิวพื้นดินท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้องโดยใช้เวลาทั้งหมด22ชั่วโมงเศษซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ หลังจากใช้ชีวิตอยู่รอดในพื้นที่แคบและมืดมานานเกือบ 10 สัปดาห์ได้ราวปาฏิหาริย์ ท่ามกลางการเอาใจช่วยของผู้คนทั่วโลกที่เฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดจากสื่อต่าง ๆ
ฉลองกู้33คนงานเหมืองชิลีแบบราบรื่น
ทีมกู้ภัยได้นำตัวนายลูอิส เออร์ชัว หัวหน้าคนงานเหมือง วัย 54 และเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์เหมืองถล่มเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม คนสุดท้าย ขึ้นจากอุโมงค์ใต้ดินเมื่อเวลา 21.55 น.วันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นชิลี ซึ่งตรงกับเวลา 08.55 น.ในประเทศไทย รวมใช้เวลาในปฏิบัติการนำตัวคนงานทั้ง 33 คนขึ้นจากอุโมงค์ใต้ดินที่ความลึก 622 เมตร เพียง 22 ชั่วโมง น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ถึง 26 ชั่วโมง นายลูอิส เออร์ชัว ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่ได้ช่วยชีวิตคนงานเหมืองทั้งหมดที่เผชิญวิกฤติใต้ดินในช่วง 17 วันแรกที่ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอก และเป็นผู้กำหนดการใช้เสบียงฉุกเฉินที่มีสำรองอยู่ในอุโมงค์นิรภัยใต้ดินแบ่งปันสำหรับคนงานเหมืองทั้ง 33 คน โดยกำหนดให้คนงานแต่ละคนรับประทานขนมปังกรอบและปลาทูน่าที่เป็นอาหารสำรองซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดทุก 48 ชั่วโมง ทำให้คนงานเหมืองทั้งหมดสามารถรอดชีวิตได้นานถึง 17 วัน ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะเจาะอุโมงค์สำรวจมาถึงยังพื้นที่ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ หลังจากได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบนพื้นดิน นายเออร์ชัวได้กล่าวต่อประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา ที่รอต้อนรับคนงานเหมืองทั้งหมด ณ ที่เกิดเหตุ ว่า "พวกเราได้บรรลุถึงสิ่งที่ทั้งโลกตั้งตาคอย ตลอด 70 วันที่เราได้ต่อสู้อย่างหนักและไม่ยอมแพ้ เรามีแต่ความแข็งแกร่ง เรามีจิตวิญญาณ เราต้องการที่จะสู้ เราต้องการที่จะสู้เพื่อครอบครัวของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ขณะที่ครอบครัวคนงานที่ปักหลักรออยู่ในแคมป์โฮปในบริเวณเหมืองซานโฮเซ ร่วมกันปล่อยลูกโป่ง 33 ใบขึ้นสู่ท้องฟ้าทันทีที่เห็นลูอิส เออร์ชัว ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ครอบครัวของคนงานร่วมกันส่งเสียงตะโกนด้วยความดีใจพร้อมกับใบหน้าที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความปลื้มปีติยินดี มีการโบกธงชาติ สวมกอด สาดแชมเปญ และเต้นรำกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้ บรรยากาศการเฉลิมฉลองยังมีให้เห็นทุกที่ในชิลี รวมถึงในเมืองโคปิอาโป ที่ชาวบ้านเกือบ 3,000 คนมารวมตัวกันที่จตุรัสใจกลางเมืองเพื่อชมการถ่ายทอดสดการช่วยเหลือคนงาน ต่างโบกธงชาติและเป่าวูวูเซลาด้วยความยินดี ในหลายเมืองรวมถึงกรุงซานติอาโก้ รถยนต์หลายคันบีบแตร และคนขับรถส่งเสียงตะโกน "ชิลีจงเจริญ" นายแฟรงกลิน โลโบส อดีตนักฟุตบอลทีมชาติชิลี วัย 53 ปี คนงานเหมืองที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นคนที่ 28 ได้แสดงทักษะของนักฟุตบอลด้วยการเดาะฟุตบอลด้วยเท้าและเข่าเป็นช่วงสั้นๆ เมื่อวันพุธ หลังจากก้าวออกจากแคปซูล "ฟีนิกซ์" เขาสวมกอดญาติ และประธานาธิบดีปิเนรา ที่รอรับอยู่ นายโลโบสเป็นคนเดียวในชาวเหมือง 33 คน ที่ชาวชิลีรู้จักเป็นอย่างดีก่อนหน้าจะเกิดเหตุร้ายครั้งนี้ เพราะเขาเคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติชิลี ที่ผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่ "ลอสแองเจลิส โอลิมปิก" ปี 2527 นายโลโบสทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกที่พาคนงานเหมืองเข้าและออกจากเหมือง เขากำลังอยู่ในเหมืองกับคนงานที่เขาขับเข้าไปตอนที่เกิดเหตุเหมืองถล่ม โชคดีไม่มีใครตาย แต่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนาน 17 วันกว่าที่โลกจะรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ 22 ชั่วโมงแห่งความหวัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มช่วยคนงานเหมืองคนแรกขึ้นมาได้เมื่อเวลา 00.11 น.เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 10.11 น.ในประเทศไทย คือนาย ฟลอเรนซิโอ อวาลอส ผู้ออกมากอดบุตรชายวัย 7 ขวบกับภรรยา และประธานาธิบดีปิเนรา ที่มารอต้อนรับอยู่ ก่อนหน้านี้มีการคาดกันว่าปฏิบัติการกู้ภัยจะสามารถนำตัวผู้ประสบภัยขึ้นมาจากใต้ดินในช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยพิจารณาจากปัจจัยด้านการขุดเจาะอุโมงค์กู้ภัยที่ต้องใช้เวลานาน แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเหมืองจากเยอรมนีและสหรัฐจัดหาอุปกรณ์การขุดเจาะมาช่วยเหลือ ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของการกู้ภัยช่วยเหลือคนงานเหมืองจำนวนมากที่ติดอยู่ในความลึก 622 เมตรได้สำเร็จ ปฏิบัติการดังกล่าวยังนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความรักชาติของชาวชิลีอีกด้วย คนงานเหมืองทั้งหมดมีสุขภาพดีกว่าที่คาดไว้ แม้จะติดอยู่ในเหมืองใต้ดินถึง 69 วัน ทั้งที่หลังเกิดเหตุไม่นานมีการคาดหมายว่าคนงานเหมืองทั้งหมดเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นคำพูดของประธานาธิบดีปิเนราที่กล่าวกับนายวิคเตอร์ เซคเวีย คนงานเหมืองคนที่ 15 ที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากใต้ดินว่า "ยินดีต้อนรับสู่การมีชีวิต" จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินเลยไปจากความเป็นจริง ทีมงานกู้ภัยยังได้ตั้งชื่อแคปซูลกู้ภัยทรงเรียวคล้ายตอร์ปิโดความยาว 13 ฟุตว่า "ฟีนิกซ์" ตามตำนานที่กล่าวถึงนกไฟที่สามารถฟื้นคืนชีวิตได้จากกองเถ้าถ่าน เพื่อต้อนรับการเกิดใหม่ของคนงานเหมืองทั้งหมดที่ได้รับความช่วยเหลือกลับสู่พื้นดินจากความลึกกว่าครึ่งกิโลเมตร ทั้งยังวางแผนด้วยความเอาใจใส่ต่อรายละเอียด มีการติดตั้งกล้องวิดีโอติดตามสภาพของคนงานและติดตั้งระบบออกซิเจนในแคปซูล พร้อมทั้งให้คนงานเหมืองทั้งหมดสวมเสื้อกันหนาวเพื่อป้องกันอากาศเย็นและแว่นตาดำกันแดดเพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยเมื่อเผชิญกับสภาพความเปลี่ยนแปลงของอากาศและสภาพแสงบนพื้นผิว ภารกิจกู้ภัยคนงานเหมืองชิลีครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อหน่วยกู้ภัยทั้ง 6 คน ที่ลงไปจัดลำดับการให้ความช่วยเหลือและตรวจสุขภาพคนงานเหมืองทั้ง 33 คน กลับขึ้นสู่พื้นดินโดยสวัสดิภาพ โดยนายมานูเอล กอนซาเลซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยที่ได้ลงไปช่วยเหลือคนงานเป็นคนแรก ได้กลับขึ้นมายังพื้นดินเป็นคนสุดท้ายเมื่อเวลา 12.32 น. ตามเวลาท้องถิ่นในชิลี ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส แห่งโบลิเวีย ได้เดินทางไปยังเหมืองทองแดง ในเมืองซาน โฮเซ เพื่อต้อนรับนายการ์โลส มามานี วัย 23 ปี คนงานเหมืองชาวโบลิเวียที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นคนที่ 4 และได้กล่าวขอบคุณชิลีที่ได้ให้การช่วยเหลือชาวโบลิเวียในครั้งนี้ว่า "ในนามของรัฐบาลโบลิเวีย ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะตอบแทนความพยายามในครั้งนี้ได้อย่างไร" ด้านประธานาธิบดีเฟลิเป คัลเดรอน แห่งเม็กซิโก กล่าวแสดงความยินดีต่อปฏิบัติการกู้ภัย และชื่นชมปฏิบัติการครั้งนี้ว่านอกจากจะช่วยคนงานเหมืองออกจากใต้ดินแล้ว ยังได้กอบกู้ความหวังในเรื่องคุณค่าของมนุษยชาติ และ ทำให้ประชาชนทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงความมุมานะ เอาชนะสถานการณ์เลวร้ายได้ ในโอกาสนี้เม็กซิโกร่วมยินดีและเฉลิมฉลองกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วย ส่วนนายเควิน รัดด์ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวชื่นชมว่า ความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยคนงานเหมืองชิลีกว่า 22 ชั่วโมง เป็นชัยชนะของจิตใจของมนุษย์ และเป็นเรื่องน่ายกย่องในความอดทนและความเฉลียวฉลาดที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลก นอกจากนี้รัฐบาลชิลีควรได้รับคำชมสำหรับการทำงานอย่างมืออาชีพและกระตือรือร้น และการที่รัฐบาลทุ่มเทนำผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาช่วยในปฏิบัติการครั้งนี้ ทั้งนี้ นายรัดด์ กล่าวว่า ออสเตรเลียมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลีในครั้งนี้ เพราะได้สนับสนุนเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญและการสนับสนุนของภาคเอกชน และได้กล่าวชมบริษัททำเหมืองของออสเตรเลีย ทั้ง บีเอชพี บิลลิตัน และเอ็กซ์ตราตา คอปเปอร์ ที่ได้สนับสนุนความรู้ด้านความปลอดภัยของเหมืองและการบริหารการกู้ภัย ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันแสดงความยินดีแก่คนงานเหมือง และวางแผนเชิญพวกเขาทั้ง 33 คนไปเยือนไต้หวันด้วย โดยความคิดนี้เป็นของส.ส.ฝ่ายค้าน เพื่อไปร่วมงานเทศกาลดอกไม้นานาชาติในกรุงไทเปที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า เชื่อเลข 33 นำโชค สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่ามีหลายคนที่เชื่อโชคลาง มีความเชื่อว่าเลข 33 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลีทั้ง 33 คน ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว นายมิคาอิล โพรเอสตาคีส ผู้จัดการบริษัท ดริลเลอร์ ซัพพลาย คอมพานี ซึ่งเข้าร่วมในการขุดเจาะอุโมงค์กู้ภัย และเชื่อถือในเรื่องโหราศาสตร์ กล่าวว่า ใช้เวลาทำงาน 33 วัน ในการขุดเจาะอุโมงค์กู้ภัยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 66 เซนติเมตร หรือ 33 คูณ 2 ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าปฏิบัติการกู้ภัยเริ่มขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2010 ซึ่งเขียนได้ว่า 13/10/10 ซึ่งบวกรวมกันได้ 33 ส่วน น.ส.มาเรีย เซโกเวีย น้องสาวของคนงานเหมืองชื่อ ดาริโอ เซโกเวีย บอกว่า ทุกอย่างเป็นเลข 33 ทั้งหมด ซึ่งมหัศจรรย์มาก สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มคาทอลิกให้ความเห็นว่า พระเยซูอายุ 33 ปีตอนที่ถูกตรึงไม้กางเขน และบางคนก็ชี้ว่า โน้ตแผ่นแรกที่คนงานเหมืองส่งขึ้นมาจากใต้ดินเพื่อบอกว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เขียนเป็นภาษาสเปนว่า "เราทั้งหมด 33 คนยังอยู่ในที่หลบภัย" นั้น มีตัวอักษรบวกกับช่องไฟยาวรวมทั้งหมด 33 ตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น
http://www.komchadluek.net/detail/20101014/76260/%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A33%E0%B8%84%E0%B8%99.html
ซานติอาโก (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) – สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีสาธารณสุขชิลีซึ่งเปิดเผยว่า ได้มีการเผยแพร่ภาพวีดีโอของคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้อุโมงค์ลึก 700 เมตรที่เหมืองทองแดง ทางตอนเหนือของชิลีตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมเป็นครั้งแรก ซึ่งบันทึกได้จากกล้องขนาดเล็กที่ส่งผ่านไปยังอุโมงค์แคบๆ ภาพที่เห็นชี้ว่าคนงานเหมืองส่วนใหญ่ถอดเสื้อผ้าเหงื่อโทรมกายแถมหนวดเครา เฟิ้ม แต่ทุกคนยืนยันยังแข็งแรงดีพร้อมรอความช่วยเหลือด้วยความหวังเต็มเปี่ยม และว่าเวลาว่างส่วนใหญ่จะนั่งคุยกันและวางแผนว่าจะใช้ชีวิตภายในอุโมงค์ อย่างไรต่อไป ขณะที่ทนายความของครอบครัว ราอูล บัสตอส 1 ในคนงานเหมือง 33 คน ที่ติดอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินเหมืองทองแดง ซาน โฆเซ ประกาศจะฟ้องร้องเจ้าของเหมือง กรณีบกพร่องด้านระบบรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รัฐ ฐานสะเพร่าอนุญาตให้เปิดเหมืองใหม่อีกครั้ง นับตั้งแต่อุบัติเหตุเมื่อปี 2551 ด้านศาลท้องถิ่นของชิลีมีคำสั่งอายัดเงิน 1 ล้าน 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 57 ล้านบาท ซึ่งบริษัทผู้ดำเนินการเหมือง ซาน โฮเซ่ จะได้รับจากรัฐบาลเป็นค่าจำหน่ายทองแดง โดยเงินจำนวนนี้จะกันไว้เป็นเงินช่วยเหลือคนงานทั้ง 33 คน ที่ติดค้างอยู่ในเหมืองที่ถูกหินถล่มปิดทางออกมานานถึง 3 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้คนงานบางคนเริ่มมีปัญหาสุขภาพแล้ว โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขของชิลี เปิดเผยว่า คนงาน 3-4 คน มีปัญหาเรื่องการนอนและเป็นตะคริวจากการอยู่ในที่แคบเป็นเวลานาน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่ามีคนงาน 9 คน ที่อ้วนเกินกว่าจะนำตัวออกมาจากอุโมงค์ขนาด 66 เซนติเมตร ที่กำลังจะขุดเจาะได้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเจาะช่องส่งเสบียง และทยอยส่งอาหารและน้ำดื่มให้กับคนงานเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมส่งยา รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารตามไปอีกในเร็ววันนี้ รวมถึงมีรายงานว่า เตรียมจะส่งเครื่องฉายภาพขนาดเล็กและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงลงไปให้คนงาน เหล่านี้คลายความเบื่อหน่ายเมื่อต้องติดอยู่ใต้ดินเป็นเวลานาน ๆ ล่าสุดญาติของคนงาน 2 คนที่ติดอยู่ใต้ดินเตรียมส่งวิดีโอฟุตบอลของมาราโดนา โรนัลดินโญ และเปเล่ ซึ่งเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียง และคาดว่าจะช่วยทำให้ขวัญกำลังใจดีขึ้น ขอขอบคุณข่าวจากแนวหน้า และCNN Youtube |
|
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( อาทิตย์, 17 ตุลาคม 2010 ) |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|
ความคิดเห็นที่ 1
กลางๆ
santa2010-10-14 17:08:11
ต้องขอชื่นชมจริง ๆๆ ครับกับภาวะผู้นำของท่านประธานาธิบดีชิลี เพราะหาก วันที่ 17 ส.ค .ท่านไม่ยืนยันว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ บริษัท ฯ คงจะยกเลิกการค้นหาแล้ว เพราะเป็นอุบัติภัยท่ีไม่เคยปรากฏมาก่อน ยังไม่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือ ต้องใช้เทคนิค ทุนมากมายทีเดียว และก็ต้องขอชมทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องเมื่อผู้นำยืนยันอย่างนั้นทุกคนก็ลงมือปฏิบัติ คิดหาเทคนิควิธีที่ดีที่สุด แล้วตัดสินใจลงมือปฏิบัติ เชื่อฟังกัน และแก้ปัญหาที่จะเกิดขึนอย่างสุขุม ต้องชื่นชมทุกคนที่เกี่ยวข้องและรวมถึงผูู้ที่อยู่ใต้ดินด้วยกำลังใจดีมาก ๆๆๆ ครับ ชื่นชมครับ