เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.
|
อาทิตย์, 06 มิถุนายน 2010 |
ส่วนหนึ่งของเราคือ มนุษย์ "นีอันเดอร์ทัล" |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 14 พฤษภาคม 2553 05:42 น. |
ภาพจำลองวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์นีอันเดอร์ทัลที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรปและเอเชียตะวันตกเมื่อประมาณ 60,000 ปีก่อน (ภาพประกอบจาก marsprogram.jpl.nasa.gov) |
|
|
|
|
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
| | งานวิจัยชิ้นล่าสุดของทีมวิจัยนานาชาติ นำโดย "สวานเต ปาโบ" จากสถาบันวิวัฒนาการและมานุษยวิทยา แมกซ์ พลังก์ (Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology) ที่เผยแพร่ในวารสารไซน์ (Science) ฉบับเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เผยข้อมูลที่บอกให้เรารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ยุคปัจจุบัน และเผ่าพันธุ์นีอันเดอร์ทัล ทีมวิจัยได้สกัดตัวอย่างดีเอ็นเอ จากโครงกะดูกมนุษย์นีอันเดอร์ทัลอายุ 4 หมื่นปี จำนวน 3 ร่าง ที่พบในถ้ำแห่งหนึ่งของประเทศโครเอเชีย และถอดรหัสจีโนมที่มีมากกว่า 3 ล้านรหัส (นิวคลีโอไทด์) และเมื่อเปรียบเทียบกับจีโนมของมนุษย์ยุคปัจจุบัน พบว่าชาวยุโรปและเอเชียมีจีโนมเหมือนนีอันเดอร์ทัลประมาณ 1-4% นีอันเดอร์ทัลมาจากไหน หลายคนกำลังสงสัยว่า "นีอันเดอร์ทัล" คือใคร และมาจากไหน นีอันเดอร์ทัล หรือ โฮโม นีอันเดอร์ทัลเอนซิส (Homo neanderthalensis) คือมนุษย์สปีชีส์หนึ่งในสกุลโฮโม (Homo) ที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการใกล้ชิดกับ โฮโม ซาเปียนส์ (Homo sapiens) สปีชีส์ของมนุษย์ยุคใหม่ หรือมนุษย์ยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยมีบรรพบุรุษร่วมกันอยู่ในแอฟริกาเมื่อประมาณ 5 แสนปีก่อน ฟอสซิลของนีอันเดอร์ทัลถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 2372 ในเมือง Engis ประเทศเบลเยียม และต่อมาในปี 2391 พบฟอสซิลเพิ่มเติมอีกในเขตยิบรอลตาร์ ทว่าในขณะนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่พบนั้นเป็นมนุษย์อีกสปีชีส์หนึ่งซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว กระทั่งการค้นพบฟอสซิล "นีอันเดอร์ทัล 1" (Neanderthal 1) อายุ 4 หมื่นปี ในประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2399 และได้รับการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้เมื่อปี 2407 หลังจากนั้นก็มีการค้นพบฟอสซิลนีอันเดอร์ทัลเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั้งในยุโรป และตะวันออกกลาง 2 เผ่าพันธุ์ วิวัฒนาการคู่ขนาน จากหลักฐานฟอสซิลนีอันเดอร์ทัลและฟอสซิลมนุษย์ยุคใหม่ที่สำรวจพบ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลว่ามนุษย์ยุคใหม่ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากนีอันเดอร์ทัล แต่มีวิวัฒนาการคู่ขนานกันมายาวนานนับแสนปี โดยมีบรรพบุรุษร่วมกัน คือ โฮโม อีเรกตัส (Homo erectus) ที่อุบัติขึ้นในแอฟริกา และกระจายไปทั่วโลกเมื่อช่วง 1.5 ล้านปี ถึง 2 แสนปีก่อน นีอันเดอร์ทัลเริ่มอุบัติขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 4 แสนปีที่แล้วบนแผ่นดินทวีปยุโรป และวิวัฒนาการจนกลายมาเป็นนีอันเดอร์ทัลที่สมบูรณ์แบบเมื่อราว 1.3 แสนปีที่แล้ว โดยกระจายตัวอาศัยอยู่ในยุโรปและทางตะวันตกของเอเชีย ก่อนจะสูญพันธุ์ไปเมื่อ 3 หมื่นปีก่อน ส่วนมนุษย์ยุคใหม่อุบัติขึ้นเมื่อประมาณ 2 แสนปีที่แล้วในแอฟริกา และกระจายตัวไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ทว่า จากการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างจีโนมของนีอันเดอร์ทัลและจีโนมมนุษย์ปัจจุบันจากทั่วโลก พบว่าชาวยุโรปและเอเชียมีจีโนมบางส่วนเหมือนกับจีโนมของนีอันเดอร์ทัล คิดเป็นประมาณ 1-4% ของจีโนม ซึ่งอธิบายได้ว่าเกิดการถ่ายทอดยีนของนีอันอันเดอร์ทัล มาสู่บรรพบุรุษของมนุษย์ที่ไม่ได้อยู่ในแอฟริกา และเกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์ยุคใหม่จะกระจายไปสู่ยุโรปและเอเชีย จากการผสมข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างนีอันเดอร์ทัลกับมนุษย์ยุคใหม่ ในยุคสมัยที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ใกล้เคียงกันในดินแดนตะวันออกกลาง เมื่อประมาณ 5 หมื่นถึง 1 แสนปีก่อน "แอฟริกา" มาตุภูมิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่ากำเนิดที่แท้จริงของมนุษย์ยุคปัจจุบันจะยังไม่กระจ่างชัด แต่จากหลักฐานฟอสซิลและหลักฐานทางพันธุศาสตร์ ทำให้ทฤษฎี "ออกจากแอฟริกา" (Out of Africa) ได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ มากกว่าทฤษฎีที่ว่า มนุษย์ยุคใหม่วิวัฒนาการขึ้นพร้อมๆ กันทั่วโลก (Multiregional) สิ่งมีชีวิตตระกูลคน หรือ โฮมินิด (hominid) ซึ่งได้แก่ มนุษย์ และลิงไม่มีหาง (ape) ได้แยกสายวิวัฒนาการออกจากบรรพบุรุษร่วมเมื่อประมาณ 6-7 ล้านปีที่แล้ว ในแอฟริกา โดยฟอสซิลโฮมินิดที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมาคือ ตูไม (Toumai) เป็นสิ่งมีชีวิตตระกูลคนสปีชีส์ ซาเฮลแอนโทรปัส ชาดเอนซิส (Sahelanthropus tchadensis) พบในสาธารณรัฐชาด มีอายุประมาณ 7 ล้านปี นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามนุษย์ยุคใหม่สืบเผ่าพันธุ์โดยตรงมาจาก ออสเตรโลพิเทคัส แอฟริกานัส (Australopithecus africanus) ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 2-3 ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ โฮโม อีเรกตัส และต่อมาแตกสายวิวัฒนาการเป็น โฮโม นีอันเดอร์ทัล และ โฮโม ซาเปียนส์ ซึ่งเป็นสปีชีส์เดียวในสกุลโฮโมที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน ส่วนสปีชีส์อื่นๆ ในสกุลโฮโมที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั้น ประกอบด้วย H. habilis, H. rudolfensis, H. ergaster, H. georgicus, H. erectus, H. antecessor, H. cepranensis, H. heidelbergensis, H. neanderthalensis, H. rhodesiensis, H. sapiens idaltu และ H. floresiensis ทั้งนี้ มนุษย์ยุคใหม่เริ่มย้ายถิ่นฐานออกจากแอฟริกาเมื่อประมาณ 1-1.5 แสนปีก่อน โดยคาดว่าอพยพออกจากแอฟริกามาทางตะวันออกกลาง และเริ่มแพร่กระจายไปทางยุโรปและเอเชียเมื่อ 4 หมื่นปีที่แล้ว ก่อนจะกระจายไปอยู่อาศัยทั่วโลกและวิวัฒนาการเรื่อยมาหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นมนุษย์ในปัจจุบันที่มีความหลากหลายทางอารยธรรมและเทคโนโลยี.
|
|
|
|
| |
|
|
|
| ข่าวที่เกี่ยวข้อง |
| |
|
|
| ข่าวล่าสุด ในหมวด |
| |
|
| |
| | | 5 อันดับข่าวยอดนิยมของหมวด | | | | | | |
|
|
จำนวนคนอ่าน 6295 คน | จำนวนคนโหวต 10 คน | คุณเห็นด้วยกับข่าว/บทความนี้หรือไม่ |
| | |
|
|
| เห็นด้วย 7 คน | | ไม่เห็นด้วย 3 คน | |
|
|
|
|
|
|
| |
| |
| | | | แต่ส่วนหนึ่งของผมคือมนุษย์ "แอนเดอร์สัน" ^ ^ |
|
| |
| | | | เพิ่มเติม ถ้าอยากรู้ทฤษฎีวิวัฒนาการว่าจริงหรือไม่ที่คนพัฒนามาจากลิง....
มองดูลิง หนึ่งตัว แล้วมองหน้าไอ้ตู่ หรือไอ้เต้น...
ชัดมะ เอ๊ะ หรือมันจะคล้าย คงคก กับ เหรี้ยม หว่า ชาญ ดาวิ่น |
|
| |
| | | | ส่วนเสื้อเเดงเชียงใหม่อยูในสายพันธิ์thaksinsyphilis and nong nai..... ไม่มีอํามาตร์เป็นขี้ข้าพม่าไปนานเเล้ว.. |
|
| |
| | | | ที่ว่าคนมาจากลิงปู่ย่าตายายเกิดมาก็ไม่เคยได้ยินเขาเล่าว่ามีคนแก้ผ้ามีขนรุงรังเดินออกมาจากป่าสักที มั่วตลอด |
|
| |
| | | | | | | | ปู่ย่าตายายของคุณเล่าได้เรื่องเดียวคือละครน้ามเน่าจากช่อง3เเละช่อง7.. คนมาจากลิง ลิงมาจากปลาเเก้มคุณเคยเป็นเหงือกปลามาก่อน... |
|
| |
| | | | กลับไปไหว้พระเจ้าของคุณไป นั้นแหละที่ทำให้คุณโง่ คนเขียนคำภีร์ฉลาดสุด |
|
|
|
|
อ้างอิง http://www.norsorpor.com/ข่าว/n2041607/10%20ภาพลวงที่คุณไม่ควรเชื่อสายตาตัวเอง |