เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.
|
ศุกร์, 06 พฤศจิกายน 2009 |
| ศิลปะสกุลช่างอยุธยา ไม่ได้หายไปไหน แต่มีเสน่ห์ไม่แพ้สกุลช่างสุโขทัยและเชียงแสน เพียงแต่ว่า คนไทยติดค่านิยมอันเป็นมงคล พ้องกับหมวดศิลปะ เลยทำให้สกุลช่างอยุธยาหลงลืมไป
เริ่มจากต้นกรุงศรีอยุธยา รูปแบบศิลปะยังคงสืบทอดความเข้ม และเครียด จากศิลปะลพบุรี ทำให้พระพักตร์เคร่ง แต่ได้ผ่อนเบาลง เค้าหน้าเหลี่ยม มีกรอบพระพักตร์ ซึ่งก็สืบทอดมาจากศิลปะอู่ทอง จากคุณ | : หนุ่มรัตนะ | เขียนเมื่อ | : 5 พ.ย. 52 19:43:42 |
|
|
|
ความคิดเห็นที่ 3 | |
สมัยต่อมาพระพักตร์ เริ่มคลายความเครียดลง พระพักตร์ยิ้ม อิ่มเอิบ | |
|
| | | |
| ยุคต่อมารับศิลปะราชวงศ์สุโขทัยเข้ามา ทำให้ศิลปะอยุธยาผสมสุโขทัย พระพักตร์เรียวขึ้น บางครั้งมีการฟื้นฟูศิลปะสุโขทัยเข้ามาทั้งหมด ทำให้พระบางองค์เกิดความสับสนทางศิลปะ | |
|
| | | |
| และอยุธยามีการแผ่อำนาจเหนือดินแดนไปถึงนครศรีธรรมราช ทำให้เกิดศิลปะอยุธยา เรียกว่า แบบขนมต้ม คือมีความล่ำสัน | |
|
| | | |
| ต่อมาการพัฒนาศิลปะของพระสมัยอยุธยา นำระบบราชาธิราชจากกัมพูชาผสม ถือทัศนะจักรพรรดิราช ระหว่าง กษัตริย์และพระพุทธ ผสมรวมกันออกมาเป็นศิลปะแบบปราสาททอง ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ สวมแหวน ประทับทับทรวง กรองคอ | |
|
| | | |
| หลังสมัยดังกล่าวการผสมกันระหว่างศิลปะสุโขทัยอีกทอดหนึ่ง การแต่งองค์ทรงเครื่องได้ผ่อนคลายลง กลายเป็น พระอยุธยาศิลปะทรงเครื่องน้อย | |
|
| | | |
| พระพุทธรูปยืน ศิลปะอยุธยาแบบทรงเครื่องใหญ่ | |
|
| | | |
อ้างอิง http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8512707/K8512707.html |