เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.
|
พฤหัสบดี, 08 ตุลาคม 2009 |
ฮือฮา! ฟอสซิล 4 ล้านปี เก่ากว่า “ป้าลูซี” แย้งความเชื่อวิวัฒนาการคนกับลิง |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 3 ตุลาคม 2552 22:08 น. |
|
|
(ซ้าย) ภาพโครงกระดูกของ "อาร์ดี" สิ่งมีชีวิตในตระกูลคนที่มีอายุเก่าแก่ 4.4 ล้านปี หรือเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา ซึ่งทีมนักวิจัยนานาชาติขุดพบในบริเวณประเทศเอธีโอเปีย ไกลออกไปจากบริเวณที่เคยพบ "ลูซี" ไม่มากนัก (ขวา) ภาพจำลองลักษณะของ "อาร์ดี" ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 4.4 ล้านปีก่อน ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์เห็นภาพวิวัฒนาการของคนกับลิงชัดเจนยิ่งขึ้น (ภาพประกอบจาก ไทม์) |
|
|
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
| | นักวิทย์พบโครงกระดูกต้นตระกูลคนที่เก่าแก่ที่สุด 4.4 ล้านปี ในเอธิโอเปียบ้านเดียวกันกับ “ลูซี” แย้งความเชื่อคนมาจากลิง นักวิจัยเผยไม่ใช่ทั้งคนและชิมแปนซี แต่มีลักษณะเข้าใกล้บรรพบุรุษร่วมคนกับลิงมากยิ่งขึ้นทุกที สอดคล้องทฤษฎีดาร์วิน
|
|
ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติกว่า 10 ประเทศ เปิดเผยการค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกสิ่งมีชีวิตในตระกูลคน (hominid) ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยได้ตีพิมพ์รายงานผลการวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ถึง 11 ฉบับลงในวารสารไซน์ (Science) ฉบับพิเศษ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.52 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความตื่นเต้นอย่างมากแก่วงการนักวิทยาศาสตร์ทางด้านวิวัฒนาการของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจำนวนมาก |
เอเอฟพีระบุว่า ฟอสซิลดังกล่าวถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2535 ในเขตประเทศเอธิโอเปีย และอีก 2 ปีต่อมานักวิจัยจึงสามารถจำแนกได้ว่า เป็นสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ในตระกูลคน โดยให้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อาร์ดิพิเธคัส เรมิดัส (Ardipithecus ramidus) และมีชื่อเล่นว่า “อาร์ดี” (Ardi) โครงกระดูกดังกล่าว เป็นของสิ่งมีชีวิตเพศเมียที่คาดว่าเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ มีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม สูงราว 1.2 เมตร และมีอายุเก่าแก่มากถึง 4.4 ล้านปี นับว่าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบ อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ฟอสซิลสิ่งมีชีวิตตระกูลคนที่เก่าแก่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “ลูซี” (Lucy) ซึ่งจัดอยู่ในสปีชีส์ ออสเตรโลพิเธคัส อะฟาเรนซิส (Australopithecus afarensis) มีอายุ 3.2 ล้านปี พบครั้งแรกเมื่อปี 2517 ในเอธิโอเปียเช่นเดียวกัน แต่อยู่ห่างจากบริเวณที่พบ “อาร์ดี” ออกไปทางตอนเหนือ 72 กิโลเมตร
|
|
|
|
ซี โอเวน เลิฟจอย (C. Owen Lovejoy) นักมานุษยวิทยาจากเคนท์สเตทยูนิเวอร์ซิตี (Kent State University) มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ หนึ่งในทีมวิจัยระบุในเอพีว่า ฟอสซิล “อาร์ดี” พลิกทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ที่ว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่คล้ายชิมแปนซี แต่จากฟอสซิลของอาร์ดีบ่งชี้ว่า มนุษย์และชิมแปนซีแยกสายวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษร่วมกัน |
|
|
ด้าน ทิม ไวท์ (Tim White) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวิวัฒนาการมนุษย์ (Human Evolution Research Center) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเบิร์กเลย์ (University of California, Berkeley) และนักวิจัยอีกคนในทีมเปิดเผยว่า อาร์ดีไม่ใช่บรรพบุรุษร่วมที่ว่านั่น แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความใกล้ชิดกันมากที่สุด ซึ่งสายวิวัฒนาการของมนุษย์ยุคใหม่และลิงไม่มีหางในปัจจุบัน น่าจะแยกมาจากบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อราว 6-7 ล้านปีก่อน ทว่า อาร์ดีมีลักษณะพิเศษหลายอย่าง ที่ไม่พบในลิงไม่มีหางที่พบในแอฟริกาปัจจุบันนี้ ทำให้สรุปได้ว่าลิงไม่มีหางมีการวิวัฒนาการที่กว้างออกไป นับตั้งแต่เราได้มีบรรพบุรุษร่วมกันครั้งสุดท้าย และจากการศึกษาฟอสซิลอาร์ดีพบว่า สิ่งมีชีวิตดังกล่าวอาศัยอยู่ในป่า และปีนต้นไม้ด้วยแขนขาทั้ง 4 ข้าง แต่พัฒนาการของแขนและขาบ่งชี้ว่า พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาอาศัยอยู่บนต้นไม้มากนัก และยังสามารถเดินบนพื้นดินด้วย 2 ขา และลำตัวตั้งตรงได้ “ในฟอสซิลของอาร์ดิพิเธคัสไม่มีลักษณะพิเศษ ที่วิวัฒนาการไปไกลจากเส้นทางของออสเตรโลพิเธคัส ดังนั้น เมื่อเราพินิจจากหัวจรดเท้า เราจะเห็นภาพสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ทั้งชิมแปนซีหรือคน แต่เป็นอาร์ดิพิเธคัส” ไวท์ กล่าว ซึ่งชิมแปนซีมีฟันหน้าหยาบมากเพราะเป็นสัตว์กินพืช ขณะที่อาร์ดิพิเธคัสกินทั้งพืชและสัตว์ โดยมีฟันตัดและเขี้ยวเล็กกว่า และยังมีขนาดสมองใกล้เคียงชิมแปนซีแม้ว่าจะมีใบหน้าเล็กกว่า “ดาร์วินเคยกล่าวไว้ เราต้องมีความละเอียดถี่ถ้วน เป็นทางเดียวที่เราจะรู้ได้จริงๆ ว่าบรรพบุรุษร่วมสุดท้ายระหว่างคนกับลิงมีลักษณะอะไร และหาให้เจอ และฟอสซิลอายุ 4.4 ล้านปีที่เราพบ ก็เข้าใกล้สิ่งที่เราค้นหามากขึ้นทุกที และต้องขอบคุณดาร์วิน ที่เคยบอกไว้ว่า สายวิวัฒนาการของลิงและคนเป็นอิสระจากกัน ตั้งแต่แยกสายออกจากบรรพบุรุษร่วมสุดท้าย” ไวท์กล่าว “นี่เป็นการค้นพบที่สำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งของการศึกษาเรื่องวิวัฒนาการมนุษย์ ซึ่งส่วนของโครงกระดูกที่สำคัญและสัมพันธุ์กันถูกรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งกะโหลก มือ เท้า และส่วนสำคัญอื่นๆ ซึ่งมันอาจเป็นบรรพบุรุษของสกุลออสเตรโลพิเธคัส ที่เป็นบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิตสกุลโฮโมก็เป็นได้” เดวิด พิลบีม (David Pilbeam) ภัณฑารักษ์ส่วนบรรพชีวินวิทยาของพิพิธภัณฑ์โบราณคดีและชาติพันธุ์วิทยา (Peabody Museum of Archaeology and Ethnology) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) กล่าวแสดงความเห็น ซึ่งเขามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในงานวิจัยโครงกระดูกอาร์ดี
|
|
|
|
| |
|
| ข่าวที่เกี่ยวข้อง |
| |
|
|
อ้างอิง |