Skip to content

Phuketdata

default color
Home arrow Search
ไหว้พระจันทร์ PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
พฤหัสบดี, 01 ตุลาคม 2009
จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ไหว้จันทร์ไหว้เจ้าvote  
มาชวนเพื่อนๆทั้งหลายทานขนมไหว้พระจันทร์กันครับ    แต่...ช้าก่อน........   (มือใครยาวๆ  ยื่นมาตะครุบขนมเปี๊ยะ  ตีซะเลย  หยอกเย้า)   มีข้อแม้ว่า ต้องอ่านกระทู้ให้จบก่อน  ส่วนระหว่างนี้จะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ซับน้ำลายไปพลางๆ  อิอิอิ

เทศกาลไหว้พระจันทร์หรือ จง ชิว เจี้ย ถือเป็นเทศกาลสำคัญมากของคนจีนครับ ระดับเดียวกับวันตรุษจีน วันเช็งเม้ง วันตวนอู่(ไหว้ขนมบ๊ะจ่าง)  เรียกว่าเป็น 4 เทศกาลสำคัญของชาวฮั่น  โดย ปท จีนยังประกาศให้เป็นวันหยุดราชการด้วย  ด้วยการนับวันทางจันทรคติแบบจีน วันไหว้พระจันทร์จะตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือนแปด   ซึ่งจะตรงกับช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วงในจีน อากาศจะเย็นสบาย ท้องฟ้าจะปลอดเมฆ

" เดือนเพ็ญ...สวยเย็นเห็นอร่าม  นภาแจ่มนวลดูงาม..."

แต่ส่วนที่เด่นคือผู้โชคดีสามารถมองเห็นเทพธิดาฉางเอ๋อ (อุ้ย..เธอไม่ได้เป็นโรคเอ๋อ นะคร้าบ..)   เธอเป็นนางฟ้าผู้เลอโฉม สถิตอยู่ ณ วิมานแห่งจันทรา  เธอมิได้อยู่คนเดียวหรอกนะครับ  หากแต่มีกระต่ายหยกผู้เป็นหมอตำแย  เอ๊ย..ตำยา  ยาที่ตำก็ไม่ใช่ธรรมดา แต่เป็นยาอายุวัฒนะ นะครับ จะบอกให้

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:36:46

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:36:01
ถูกใจ: tongboy, แพนด้ามหาภัย, แปลงนาม, Noshka, บุณฑริก


 
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 1  
เทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ เริ่มมีการบันทึกใน ปวศ จีน ตั้งแต่ก่อนสมัยถัง แต่เริ่มกำหนดเป็นเทศกาลในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งผ่านมาเกือบ 1500 ปีแล้ว และยิ่งมาเฟื่องฟูในยุคต่อมาคือราชวงศ์ซ่ง  สืบมายัง หมิง  และชิง กระทั่งปัจจุบัน (ถ้าไม่ใช่นายนีล อาร์มสตรอง ไปเหยียบดวงจันทร์ละก็ น่าจะเฟื่องกว่านี้แน่ๆ)    ในอดีตก็จะมีการบูชาพระจันทร์  ไหว้เจ้า ร้องเล่นเต้นรำ และนำโคมส่องแสงเดินชมจันทร์

มีบทกวีชมจันทร์ที่ลือเลื่องมากของกวีเอกสมัยซ่ง  ซูซื่อ(ซู ตง ปอ)  ที่นักแต่งเพลงเอามาเป็นเนื้อร้อง และใส่ทำนองดนตรี ขับร้องโดย เติ้ง ลี้ จวิน  เพลงไพเราะอย่างคลาสสิค อย่ารอช้าคลิกไปเลยที่คลิปด้านล่าง

ชื่อเพลง ต้าน เยวี่ยน เหริน ฉาง จิ่ว (แปลว่า เพียงขอให้คนอายุมั่นขวัญยืน)  ไม่ต้องรอโหลดนะครับ  อ่านต่อไปเลย ฟังเพลงไปเพลินๆ ไปด้วย

 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:42:45
ถูกใจ: บุณฑริก

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 2  

ปัจจุบันนี้  แม้ความเชื่อเรื่องเทพธิดาจะเลือนลางแล้ว   แต่ความสำคัญในแง่ที่เป็นเทศกาลแห่งการรวมญาติยังคงเหนียวแน่น  สมาชิกทั้งครอบครัวจะมาไหว้เจ้าและอวยพรร่วมรับประทานอาหาร  

สิ่งที่ขาดมิได้เลยคือ ทานขนมไหว้พระจันทร์พร้อมกับจิบน้ำชา  ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เล่าเรื่องนิทานปรัมปราให้เด็กๆฟัง    นิทานเกี่ยวกับพระจันทร์ก็มีมากมายหลายหลาก สารพัดเวอร์ชั่น ไม่แปลกถ้าไปเจอที่ไม่เหมือนกันนะครับ   ผมจะเลือกเล่าแบบโรแมนติกหน่อย  เด็กๆทั้งหลาย  พร้อมจะฟังนิทานกันแล้วยังครับ

อุ้ย..เด็กแก่แดด   เล่นพิเรนทร์    อิอิ

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:45:50
ถูกใจ: tongboy

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  
ใครเคยทราบไหมว่าจริงๆแล้วพระอาทิตย์ที่ให้ความร้อนแก่โลกมนุษย์นั้นเป็นบุตรในเทพเจ้าแห่งฟ้า  และมีจำนวนทั้งสิ้น 9 ดวง โดยปกติแล้วแต่ละดวงจะออกเยี่ยมฟ้าคนละวัน  ทำให้พระอาทิตย์ทั้งหลายเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเวลาทำงานไม่ได้เล่น ครั้นจะเล่นก็ไม่มีเพื่อนมาร่วมทำงานในวันเดียวกัน  

วันหนึ่ง พวกพระอาทิตย์จึงปรึกษากันว่า " อย่ากระนั้นเลย พวกเราน่าจะออกเยี่ยมฟ้าในวันเดียวกันเถอะ จะได้เล่นไปด้วย ทำงานไปด้วย คงจะเพลิดเพลินไม่น้อย"   วันต่อมา  ท้องฟ้าเกิดวิปริต มีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นกลางท้องฟ้าถึง 9 ดวง  เ

ด็กๆทั้งหลายลองคิดดูซิว่า พระอาทิตย์ซึ่งส่องสว่างเป็นพันแสง  จู่ๆ กลายเป็น 9 พันแสง  มนุษย์โลกจะอยู่กันได้อย่างไร ฝนฟ้าไม่ตก ที่ดินแห้งแตกระแหง ต้นไม้ใบหญ้าเหี่ยวตาย มนุษย์ก็แทบจะหลอมละลายหมกไหม้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4000 ปี ก่อน ในสมัยราชวงศ์เซี๊ยะ  และขณะนั้นมีผู้ครองนครที่มากด้วยความสามารถในศิลปะแห่งการใช้ธนูคือ โฮ่ว ยี่   เขามีภรรยาแสนสวยคือ ฉาง เอ๋อ     ผู้ครองนครที่เก่งกาจอย่าง โฮ่ว ยี่ ไหนเลยจะปล่อยให้เหตุการณ์วิปริตนี้ดำเนินต่อไปได้ จึงปีนสู่ยอดเขาคุนหลุน อาศัยความช่ำช่องทางธนูศิลป์และพละกำลังมหาศาล เล็งลูกศรไปยังพระอาทิตย์ ยิงดับไป 8 ดวง จึงเหลือเพียงพระอาทิตย์หนึ่งดวงในปัจจุบัน

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:49:37

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:49:15
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 4  
วันหนึ่ง โฮ่ว ยี่ เดินทางไปเขาคุนหลุนเพื่อแสวงหาทางสำเร็จสู่การเป็นเซียน ได้พบกับเจ้าแม่หวัง หมู่  และเจ้าแม่ได้ประทาน ยาอายุวัฒนะให้แก่โฮ่วยี่ 1 เม็ด  โดยบอกว่า "ครึ่งเม็ด จะทำให้ชีวิตเป็นอมตะ  แต่ถ้าหากกินทั้งเม็ดก็จะกลายเป็นเซียนเหาะเหินเดินอากาศ"

โฮ่วยี่แม้อยากจะเป็นเซียน  แต่ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาคือฉางเอ๋อจึงตัดอาลัยหนีไปเป็นเซียนคนเดียวไม่ได้   จึงฝากยาวิเศษให้ฉางเอ๋อดูแลก่อน
ความลับนี้ล่วงรู้ถึงหูศิษย์ทรยศคือเผิง เหมิง     ซึ่งฉวยโอกาสตอนโฮ่ว ยี่ เดินทางออกไปล่าสัตว์  และในวังมีเพียงฉางเอ๋ออยู่เพียงลำพัง  เผิง เหมิง ควงกระบี่ไปบังคับฉางเอ๋อให้มอบยาวิเศษแก่เขา  

หากนางจะต่อกรกับศัตรูมีอาวุธ  คงจะหามีชีวิตไม่  แต่หากจะมอบยาวิเศษให้แก่คนร้าย  ไม่สู้นางทานเองเสียดีกว่า  คิดดังนั้นแล้ว ฉาง เอ๋อ จึงรีบเปิดหีบเก็บยาวิเศษ กลืนยาวิเศษลงไป

และแล้วฉางเอ๋อ พลันรู้สึกตัวเบาราวกับอากาศธาตุ  ล่องละล่องเหินสู่ท้องฟ้า  ครั้นจะไปยังวิมานชั้นสูง จิตของนางยังพันผูกสามีคือโฮ่ว ยี่  นางจึงเลือกสถิตที่วังแห่งจันทรา ซึ่งใกล้แดนมนุษย์มากที่สุด

ยามเมื่อฉางเอ๋อ ลอยละลิ่วเป็นอัปสรสวรรค์

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:51:49

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:51:15
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 5  
ฝ่ายโฮ่วยี่ กลับถึงวัง ทราบถึงเหตุร้ายจากนางใน  ครั้นจะตามฆ่าศิษย์ทรยศ  เจ้านั้นได้หนีหายไร้ร่องรอยแล้ว  ครั้นจะตามหาภรรยา  นางก็เหินฟ้าเป็นเทพธิดาไปแล้ว  อกชายสามศอกแทบจะฉีกขาดด้วยความรักอาลัยและโศกเศร้า  

แต่ครั้นมองไปยังพระจันทร์ ก็พลันเห็นเงาคลับคล้ายคลับคลาร่างอรชรแห่งภรรยาสุดที่เลิฟ  โฮ่วยี่จึงรีบให้บริวารจัดโต๊ะหมู่บูชา เพื่อแสดงความอาวรณ์และเยื่อใยต่อฉางเอ๋อ

ฝ่ายประชาชนทั้งหลายครั้นทราบข่าวการไปเหยียบพระจันทร์  เอ๊ย..การเหินฟ้าไปเป็นเซียนแห่งจันทราของฉางเอ๋อ  ชาวบ้านต่างก็กะวีกะวาดจัดโต๊ะหมู่บูชาเพื่อไหว้เทพธิดาฉางเอ๋อ  และขอพรจากนาง  

การไหว้พระจันทร์จึงค่อยๆแพร่หลายมากขึ้น

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:54:13

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:53:25
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 6  

พิธีกรรมแห่งการไหว้เทพธิดาฉาง เอ๋อ

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:54:58
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 7  

อย่างที่บอกแต่กระทู้เปิดเรื่องว่า ณ วิมานแห่งจันทรานั้น  เทพธิดาฉางเอ๋อมีกระต่ายหยกเป็นเพื่อน  กระต่ายไปเป็นเซียนน้อยได้อย่างไร ??

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีเซียน 3 องค์ที่ค่อนข้างจะว่างงาน  จึงเดินทางมาเที่ยวมนุษย์โลก  ได้เจอกับ สุนัขจิ้งจอก ลิงและกระต่าย  เซียนทั้งสามอยากจะทดสอบความมีน้ำใจของสัคว์ทั้ง 3 ตัว  จึงแปลงร่างกลายเป็นคนเฒ่าชะแร่แก่ชรา หิวโซซัดโซเซ จนเดินแทบไม่รอด  ร้องขออาหารจากสัตว์ทั้ง 3 ตัวนั้น

ฝ่ายสุนัขจิ้งจอก และลิง จึงสละอาหารที่ตนมีอยู่ให้แก่เซียน  แต่ว่ากระต่ายกลับไม่อะไรที่จะให้เป็นอาหารแก่คนชราทั้งสาม แต่ด้วยความเด็ดเดี่ยวและปรารถนาที่จะเกื้อกูลคนชรา  กระต่ายน้อยจึงกล่าวว่า "ขอเชิญท่านทั้งสาม  ทานเนื้อของข้าฯ เป็นอาหารประทังชีวิตเถอะ"  สิ้นคำ  กระต่ายก็กระโจนเข้าสู่กองเพลิงสิ้นชีวิตลง  

เซียนทั้งสามเกิดความตื้นตันและเวทนาเป็นอย่างยิ่ง  จึงชุปชีวิตกระต่ายน้อยให้กลายเป็นเซียนกระต่ายหยก โดยทำหน้าที่ตำยาอายุวัฒนะ ณ วิมานแห่งจันทรา

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 22:57:00
ถูกใจ: tongboy

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 8  

ความเชื่อเรื่องกระต่ายหยกตำยาอายุวัฒนะนี้  มีความผูกพันกับวัฒนธรรมจีนมาช้านาน  แม้แต่ภาพหินสลักของซุ้มประตูวัดโบราณแห่งหนึ่งที่เขตเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน  แถบตอนกลางของ ปท จีน  ก็มีภาพของกระต่ายหยกตำยาปรากฏอยู่  

นี้เป็นศิลปะสมัยฮั่น อายุประมาณ 2,000 ปีล่วงมาแล้ว

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:03:05
ถูกใจ: Noshka

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 9  

อะฮะ..อะฮะ..อ่าฮ่า.....โดนตัดหน้า.....อะฮะ..อะฮะ..อ่าฮ่า...ดา.ดา.ดา...ฮ่าฮ่าฮ่า


ไม่เป็นไรครับเฮียFortunism  ผมมาจองที่นั่งเป็นหน้าม้าให้แล้ว...ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ: เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy)
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:05:20
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 10  

ส่วนภาพนี้ เป็นภาพแกะสลักหินเช่นกัน จะเห็นเจ้าแม่หวัง หมู่ นั่งอยู่บนบัลลังก์  ห้อมล้อมด้วยเทพยดา และสิงสาราสัตว์  เห็นเจ้ากระต่ายหยกไหมครับ

สังเกตุที่บริเวณใต้บัลลังก์เจ้าแม่ซิครับ  กระต่ายหยกกำลังตำยาในครกเบ้อเร่อเบ้อร่าเชียว  ท่าทางจะโดนเจ้าแม่ใช้งานหนักนะนั้น

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:05:47
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 11  
นิทานยังไม่จบครับ มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เรื่อง อู๋ กัง ฟันต้นอบเชยเดือน

เรื่องนี้เล่ากันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ อู๋ กัง มีอาชีพเก็บฟืนขายยังชีพ เขาหลงใหลในวิถีแห่งเซียนเป็นอย่างมาก  หากแต่กลับไม่มีความมานะที่จะศึกษาฝึกปรือ เทพราชาแห่งฟ้าจึงทรงพิโรธอย่างมาก

จึงสาปให้เขาไปอยู่ที่พระจันทร์ เพื่อฟันต้นอบเชยเดือน ซึ่งสูงถึง 5,000 ฟุตจีน  โดยตรัสว่า "เมื่อใดที่เจ้าสามารถฟันต้นอบเชยเดือนให้โค่นล้มลงได้  เมื่อนั้นเจ้าก็จักสำเร็จมรรคผลเป็นเซียน"

แต่ต้นอบเชยเดือนนี้ เป็นต้นไม้วิเศษ เพราะว่าสามารถงอกเนื้อใหม่ขึ้นชดเชยแผลที่ถูกฟันได้ (เอ...น่าจะเหมาะสำหรับ เซียนหวยที่ชอบ"ขูด" หาเลขเด็ดนะ  )   ดังนั้น ไม่ว่า อู๋กังจะฟันไปกี่เดือน กี่ปี  ผิวต้นไม้นั้นก็ไม่เคยถลอกเลยแม้แต่น้อย  ดังนั้น ภาระกิจของเขาที่เทพราชาแห่งฟ้ามอบหมาย จึงไม่อาจสำเร็จเลย อู๋กังจึงได้แต่ฟันแล้วฟันเล่า  เฝ้าแต่ฟันเป็นนิรันดร

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:11:15

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:08:42
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 12  

ถ้าเราเห็นเงาในพระจันทร์ที่ไหวๆนั้น  อาจจะเป็นต้นอบเชยเดือนที่สั่นไหวเพราะขวานที่จามลงไปก็เป็นได้
 
รูปแนบ   โถ...ทำไมขวานเล็กจังเลย

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:11:39
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 13  
แล้วใครสงสัยบ้างไหมว่า "ขนม"ไหว้พระจันทร์มีที่มาอย่างไร ?
มีสองกระแส ดังนี้

1. ในสมัยราชวงศ์ถัง มีพ่อค้าวานิชชาวถู่ลู่ฝาน ผู้หนึ่งนำขนมใส่กลองงามวิจิตร ถวายแด่พระเจ้าถัง เกา จู่ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ถัง เพื่อแสดงความยินดีที่ทรงชนะศึกต่อพวก ซง หนู  ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือนแปดจีนพอดี ฮ่องเต้ทรงรับขนมนั้นมาพร้อมกับตรัสว่า "ควรที่จะอัญเชิญพระจันทร์ร่วมเสพขนมชาวถู่ลู่ฝานนี้"

จากนั้นก็ประทานให้เหล่าขุนนาง  ตั้งแต่นั้นการกินขนมไหว้พระจันทร์จึงเริ่มแพร่หลาย

2. ในปลายราชวงศ์หยวนที่ชาวมงโกลปกครองจีนนั้น  จูหยวนจางรวบรวมไพร่พลก่อการปฏิวัติ  เพื่อมิให้ทหารฝ่ายมงโกลล่วงรู้แผนการณ์วันนัดหมาย จึงเอากระดาษเขียนประโยคนัดหมายว่า "คืนวันเพ็ญเดือนแปด ให้ร่วมปฏิวัติ" แล้วยัดลงไปในขนมไหว้พระจันทร์แจกจ่ายไปยังค่ายทหารต่างๆ

เมื่อถึงคืนวันไหว้พระจันทร์ ชาวจีนจึงก่อการปฏิวัติขัยไล่ชาวมงโกลได้สำเร็จ  เมื่อก่อตั้งราชวงศ์หมิงได้สำเร็จ  จูหยวนจางจึงกำหนดให้วันเพ็ญเดือนแปดนั้น ทหารทุกคนนำขนมไหว้พระจันทร์ร่วมสังสรรค์กับชาวบ้าน  ขนมไหว้พระจันทร์จึงแพร่หลายในเวลาต่อมา

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:16:05

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:15:41
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 14  

เทศกาลนี้เป็นเทศกาลสำคัญสำหรับหญิงสาว  ซึ่งการทำพิธีไหว้พระจันทร์ก็ไม่ได้ยุ่งยากประการใด เพียงวางโต๊ะหมู่บูชาไว้ที่โล่งแจ้งใต้แสงจันทร์  เครื่องบูชาอันได้แก่ ธูปเทียน ขนมไหว้พระจันทร์และผลไม้ซึ่งส้มโอจะเหมาะมากเพราะภาษาจีนเรียก หยิว จื่อ (แปลว่า คุ้มครอง  ลูก)

ส่วนผู้ที่เหมาะสำหรับเป็นประธานในการไหว้คือผู้หญิงซึ่งอาจจะดูจากอาวุโสก็ได้  เวลาไหว้ก็หันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่พระจันทร์ขึ้นอาราธนาคุณแห่งเทพเจ้าคุ้มครอง เมื่อธูปเทียนมอดหมดแล้ว เป็นอันเสร็จพิธี  แบ่งขนมทานกันได้
 
ใน ปวศ จีน หญิงงามที่ลือชาว่า งามพร้อมแม้จันทร์ยังเอียงอาย คือ นางเตียวเสี้ยนในสามก๊ก  นางเป็นผู้นิยมบูชาเทพธิดาแห่งจันทราเป็นอย่างมาก

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:20:09
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 15  
ในกรุงปักกิ่งนั้น ช่วงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์  จะมีการบูชาเทพกระต่ายด้วย เทพนี้มีที่ไปที่มาอย่างไร ?

ในโบราณกาลนั้นปักกิ่งเกิดโรคระบาดไปทั่ว ผู้คนล้มตายเป็นเบือ ประชาชนอยู่กันอย่างลำบาก  เทพธิดาฉางเอ๋อแห่งวิมานจันทราบังเกิดความเวทนาต่อชะตากรรมของมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงสั่งให้กระต่ายหยกลงสู่แดนมนุษย์เพื่อหาทางเยียวยา  กระต่ายหยกเป็นหมอชั้นเยี่ยมอยู่แล้วจึงไปรักษาผู้ป่วยจากบ้านหนึ่งไปยังอีกบ้านหนึ่ง

เมื่อชาวบ้านหายป่วยก็อยากที่ตอบแทนกระต่ายหยก  แต่นางก็ขอรับแต่เพียงเสื้อผ้าเท่านั้น ดังนั้นบางทีกระต่ายหยกก็แต่งเป็นชาย บางทีก็แต่งเป็นหญิง  เพื่อให้การรักษาโรคระบาดเป็นไปรวดเร็ว นางจึงควบม้าบ้าง สิงโตบ้าง  จนเมื่อโรคระบาดสงบลง  กระต่ายหยกจึงหวนกลับสู่วิมานแห่งจันทรา

ฝ่ายชาวบ้านล้วนระลึกถึงบุญคุณชุบชีวิตของเทพธิดากระต่ายหยกเป็นอย่างมาก จึงนำดินมาปั้นเป็นเทพกระต่ายเพื่อบูชา

รูปแนบ อยู่ คห ต่อไป

แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 00:13:27

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:26:32

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:24:12
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 16  

การบูชาเทพกระต่าย

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:27:10
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 17  

รูปปั้นเทพกระต่ายหยก มักจะมีลักษณะเป็นศีรษะกระต่าย  หน้าขาว ร่างกายมนุษย์ ส่วมชุดขุนศึกหุ้มเกราะ น่าเกรงขาม แต่ก็ดูน่าใกล้ชิดด้วย  อาจจะยืนหรือนั่งบนบัลลังก์ หรือนั่งสัตว์หลากชนิดเป็นพาหนะ เช่น เสือ กวาง ม้า เป็นต้น ขนาดเล็กๆ มักจะมีขายตามงานวัดทั่วไป และถือเป็นของเล่นสำหรับเด็กอีกด้วย  โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลวันไหว้พระจันทร์

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:28:00
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 18  

ส่วนคุณผู้หญิงไม่ต้องอิจฉาเด็กเล่นเทพกระต่ายนะครับ  เพราะว่ามีกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับหญิงโสดไร้คนรู้ใจเป็นอย่างยิ่ง นั้นคือ มีความเชื่อโบราณว่า ในคืนวันไหว้พระจันทร์นั้น หญิงใดขโมยต้นหอมหรือ ผักสดจากเรือกสวนไร่นาผู้อื่น ก็จะสามารถหาสามีที่ดีเลิศได้ (ถ้าไม่โดน ตีหัวแตกซะก่อน เจ็บ)

นอกจากนี้ในคืนนั้น ถ้าสาวไหนนอนดึกๆ ยิ่งดึกยิ่งดี เพราะจะทำให้คุณแม่ของเธออายุยืนยาว (เธอเองก็จะได้มีเวลาไปขโมยผักที่สวนอื่นเยอะๆ ...อิอิ)

ถ้าสาวสวยๆอย่างนี้ยังต้องไปขโมยต้นหอมที่สวนคนอื่นละก็   แวะสวนบ้านผมก็ได้นะครับ

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:30:22
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 19  

ในคืนวันนี้  ตามถนนหนทางมักจะประดับประดาโดยโคมสีสดส่องสว่าง ทำให้บรรยากาศครื้นเครงยิ่งนัก

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:31:14
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 20  

แต่ถ้าใครได้ไปเที่ยวฮ่องกงในวันไหว้พระจันทร์นี้ ก็จะพบกับการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจ นั่นคือ การเชิดมังกรไฟ แถวๆถง หลอ วาน โดยจะเริ่มฉลองกันตั้งแต่ขึ้น 15 ค่ำ เดือนแปดของจีน เป็นเวลา 3 วัน

ตัวมังกรจะมัดขึ้นรูปด้วยหญ้าแห้ง  แล้วปักด้วยธูปทั้งตัว ส่งควันโขม่งโฉงเฉง ดังสนั่นด้วยเสียงฉาบและกลอง บรรยากาศคึกคักรื่นเริงเป็นที่สุด
เป็นภาพเซ็ต ใครอยากดูอีก เชิญคลิกครับ

http://www.gghappy.com/?action-viewthread-tid-6503

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:32:39
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 21  
เป็นไงบ้าง โหลดเพลงที่ คห 2 กันจบแล้วยังครับ ใครเรียนจีนแต่ฟังไม่เข้าใจ ไม่ต้องตกใจหรอก  เพราะเป็นบทกวีอมตะประมาณ 900 ปีมาแล้วของท่านรัตนกวีซู ตง ปอ   ฟังแล้วต้องตีความลึกล้ำ  

วรรคทองที่ยกมาของท่านมี 5 วรรค  ล้วนเป็นปรัขญาลึกซึ้ง  ผมคิดหัวแทบระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ยัดทะนานลงเพียง 4 คำกลอน  ช่วยอ่านๆหน่อยเถอะ  ใกล้จบแล้วล่ะ

มนุษย์โลก โศกสุข ประสบร้าง
"ขึ้น"สว่าง  "แรม"ลางเลือน เดือนดับสูญ
โบราณมา หามีสิ่ง จริงสมบุรณ์
ขอคนพูน จรูญขวัญ ชมจันทร์กัน

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:39:07

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:37:21
ถูกใจ: แพนด้ามหาภัย, Noshka

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 22  

เอาล่ะ ได้เวลาลิ้มรสหวานมันแสนอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์แล้วล่ะ  ความกลมมนของขนม เสมือนความกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวของครอบครัวนะครับ

นี่แหละคือสาเหตุที่นับวันไหว้พระจันทร์เป็นวันแห่งครอบครัวของคนจีนไงล่ะ

เอาล่ะครับ เสี่ยวเอ้อ....เสริฟท์ขนมพร้อมน้ำชา
   
โอ๊ย...ใจเย็นๆ อย่าแย่งกันกินซิ เสียฟอร์มผู้ดีหมดเลย

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:40:55
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 23  

ส่วนใครที่หลงมาอ่านกระทู้นี้จนจบ   ก็ขอให้ สุขสันต์วัน จง ชิว เจี้ย

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:42:15
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 24  

ขอโทษที่ปาดนะคร้าบบบบ!!!...

  จะรีบมาแซวโดยยังไม่ทันอ่านหัวกระทู้ก่อน...

ผมไปใส่ยาก่อนนาคร้าบบบ....เจ็บ..

จากคุณ: เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy)
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:45:05
ถูกใจ: Fortunism

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 25  

อุ้ย...เพิ่งมาเห็น  

มีหน้าม้ามาแล้ว  อิอิ นึกว่าดึกๆจะปลอดคน  

สุขสันต์ วันไหว้พระจันทร์   3 ตุลา นะครับ

ดูซิ อาตี๋กินอิ่ม(tongboy)  เวลาปาดหน้าไม่ยั้งไมตรี ทำเอาน้องฉางเอ๋อน้อยลื่นไถลตกสวรรค์เลย

 
 

จากคุณ: Fortunism
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:51:51
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 26  
ฮ่าฮ่าฮ่า...ฮ่าฮ่าฮ่า   ขำรูป คห 25  (กิฟหมดกลางคัน)

  บรรยายสนุกดีครับ... ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ..

สุขสันต์ วันไหว้พระจันทร์   3 ตุลา   เช่นกันครับ ..   พลุ  พลุ  พลุ

ทุกท่านเลยนะครับ    พลุ  พลุ  พลุ

แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 00:17:02

จากคุณ: เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy)
เขียนเมื่อ: 30 ก.ย. 52 23:59:10
  

 
 
 


อ้างอิง
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8381325/K8381325.html

 

กลุ่มภาพไหว้พระจันทร์ที่ภูเก็ต

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( พฤหัสบดี, 03 กุมภาพันธ์ 2011 )
 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

สมุดภาพเหมืองแร่

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้1660
mod_vvisit_counterเมื่อวาน1243
mod_vvisit_counterทั้งหมด10646807