วันที่ 17 สิงหาคม 2552 10:58

จีนรุกรถไฟ คุนหมิง-สิงคโปร์ ยาว 5 พันกม.-ตั้งเป้าเสร็จปี 58

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

“ปิดฉากประชุมเออีเอ็ม” ถกวันสุดท้าย เร่งแผนผลักดันเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟคุนหมิง-สิงคโปร์ 5,000 กม. ตั้งเป้าเสร็จในปี 2558 จีนประกาศหนุนเต็มที่

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมในกรอบอาเซียนลุ่มแม่น้ำโขง (ASEAN Mekong Basin Development Cooperation : AMBDC) วานนี้ (16 ส.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติผลักดันการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์ ระยะทาง 5,000 กิโลเมตร โดยตั้งเป้าดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่อาเซียนจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้การเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ระหว่างอาเซียนและจีนสะดวก รวดเร็วขึ้น และมีส่วนช่วยสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุน

“ทางการจีนได้แจ้งว่า ได้มีการผลักดัน โครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟไว้ ทั้งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และแผนของมณฑลต่างๆ ที่เส้นทางรถไฟผ่าน รวมทั้งได้ตั้งงบประมาณในการเชื่อมต่อเส้นทาง และสร้างเส้นทางรถไฟไว้แล้ว รวมถึงพร้อมจะให้ความร่วมมือกับประเทศอาเซียนในการก่อสร้างเส้นทาง โดยยินดีจะสนับสนุนเงินกู้ให้ ที่สำคัญออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ก็พร้อมจะให้เงินกู้ด้วย เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน” นายอลงกรณ์ กล่าว

ปัจจุบันเส้นทางรถไฟที่เชื่อมโยงจากคุนหมิง-เวียดนาม-กัมพูชา-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์นั้น ส่วนใหญ่มีเส้นทางพร้อมแล้ว ยังเหลือเพียงส่วนขาดประมาณ 500 กิโลเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในกัมพูชา

ถกนักธุรกิจสหรัฐขอลงทุนไอที

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมอาเซียนกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน (USABC) นั้น นักธุรกิจสหรัฐชื่นชมการที่อาเซียนมีเป้า AEC เพราะจะทำให้อาเซียนมีความมั่นคงและเติบโตทางเศรษฐกิจ และจะช่วยในการดึงดูดการลงทุนของต่างชาติมาอาเซียนเพิ่มขึ้น

“สหรัฐห่างอาเซียนไปนาน ตอนนี้จะกลับมาใหม่ และแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของไทยนั้น ทางสหรัฐสนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจจัดส่งด่วน ซึ่งเป็นสาขาที่สหรัฐมีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำ โดยไทยยินดีต้อนรับการเข้ามาลงทุนของสหรัฐ ซึ่งการที่สหรัฐแสดงความสนใจลงทุนในไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สหรัฐมีความเชื่อมั่นไทย รัฐบาลไทย และศักยภาพในการเข้ามาลงทุนในไทย”นางพรทิวากล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า นักธุรกิจสหรัฐขอให้ไทยพิจารณาให้นักลงทุนของสหรัฐเข้ามาลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจจัดส่งด่วน โดยให้สามารถถือหุ้นได้ 100% แต่ไทยยืนยันว่าไม่สามารถเปิดให้ได้ เพราะกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กำหนดให้สามารถถือหุ้นได้ไม่เกิน 49% อีกทั้งยังมีกฎหมายเฉพาะที่ดูแลธุรกิจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตและธุรกิจจัดส่งด่วน ซึ่งการเข้ามาลงทุนก็ต้องไปผ่านการพิจารณาภายใต้กฎหมายเฉพาะด้วย

ชี้ไทยดูแลลิขสิทธิ์วอนปลดบัญชีดำ

นอกจากนี้ไทยได้แจ้งกับนักธุรกิจสหรัฐว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายและได้ให้ความสำคัญในด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดขึ้น และยังได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในภาพรวม รวมทั้งมีการรณรงค์นโยบาย Creative Economy เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา จึงขอให้ภาคเอกชนสหรัฐตระหนักถึงความจริงจังของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้และช่วยสร้างความเข้าใจกับรัฐบาลสหรัฐ เพื่อให้ประเทศไทยพ้นจากสถานะประเทศที่ต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List: PWL) และคงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี แก่ไทยต่อไป

จี้สหรัฐตั้งกองทุนหนุนอาเซียนเหมือนจีน

อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญการหารือร่วมกับสหรัฐภายใต้กรอบอาเซียน-สหรัฐนั้น ฝ่ายอาเซียนตอกย้ำต้องการให้สหรัฐช่วยเหลือ และลดปัญหาอุปสรรคต่างๆ เกี่ยวกับการค้าให้กับอาเซียน และเห็นว่า น่าจะมีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลืออาเซียนที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ที่ผ่านมา จีนได้ตั้งกองทุนกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มอาเซียนที่มีปัญหา โดยสหรัฐรับปากจะหาแนวทางต่างๆ ช่วยเหลืออาเซียนและยังเปิดโอกาสเชิญชวนนักลงทุนในกลุ่มอาเซียนเข้ามาศึกษาดูงานในสหรัฐด้วย และสหรัฐยังเรียกร้องให้อาเซียนที่จะเปิดตลาดการค้าเดียวกันในอีก 7-8 ปีข้างหน้า ควรเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ

เห็นชอบตั้งกลุ่มประเทศผู้ผลิตข้าว

นางพรทิวา กล่าวถึงผลการหารือทวิภาคีระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม-พม่า-กัมพูชา ว่า ทุกประเทศเห็นชอบแผนตั้งกลุ่มประเทศผู้ผลิตข้าว จากกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มน้ำอิรวดี เจ้าพระยาและแม่โขง (แอคเมคส์) ซึ่งจะมีการหารือถึงรายละเอียดการจัดตั้งสมาคมให้เป็นรูปธรรมต่อไป