ย่าจันลงไปปากพระและแล่นขึ้นมา ณ บ้าน(เคียน) |
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ. | |
อาทิตย์, 03 มกราคม 2021 | |
ย่าจันถูกจับตัว "ลง" ไปค่าย "ปากพระ" (ฝั่งท่านุ่น) และย่าจันแล่น "ขึ้น" มา ณ บ้าน (เคียน) . 09:14 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ส่วนประวัติศาสตร์ มทศ. ยังคงยืนยันว่า "ปากพระ" ยังอยู่ที่เดิม คือฝั่งท่านุ่นบนเนิน "ควนพญาอินท์" 09:16 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ แม้ว่าเขา (ขอใช้นามแฝงว่า "มโนพล") จะประกาศว่า 09:16 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ย่าจันไปปากพระที่แหลมหิน ใกล้เกาะพร้าว 09:17 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ แผนที่ที่มโนพลอ้างจากกัปตันโธมัส ฟอร์เรสต์ ตามแผนที่ พ.ศ.๒๓๒๗ นั้น 09:18 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ได้ระบุปากพระ อยู่ตำแหน่งที่เดิม บริเวณปากพระ พ.ศ.๒๓๒๗ ของกัปตันโธมัส ฟอร์เรสต์ . ในแผนที่ระบุว่า Papra Harbour ในเขตพื้นที่แขวงเมืองตะกั่วทุ่ง Papra ก็คือ ปากพระ อยู่ฝั่งท่านุ่น บนควนพญาอินท์ ในจดหมายของย่าจัน (ท้าวเทพกระษัตรี) มีถึงพระยาราชกปิตัน เมื่อเดือน ๑๑ ปีมะเมีย อัฐศก พ.ศ.๒๓๒๙ หลักวันถลางชนะศึก พ.ศ.๒๓๒๘ ประมาณ ๖ เดือน ความในจดหมาย (มทศ.จห.๑๗) ว่า . แลอนึ่ง เมื่อพม่ายกมานั้น พญาธรรมไตรโลกให้เกาะเอาตัวตูข้าลงไปไว้ ณ ปากพระ ครั้นพม่ายกมาตีปากพระได้ กลับแล่นขึ้นมา ณ บ้าน แลคนซึ่งให้รักษาบ้านเรือนอยู่นั้นแล่นทุ่มบ้านเรือนเสีย ข้าวของทั้งปวงเป็นอันตรายมีคนเก็บริบเอาไปสิ้น แลอยู่ทุกวันนี้ยากจนขัดสนเป็นนัก . พระยาธรรมไตรโลกให้เกาะเอาตัวตูข้า (จับท่านผู้หญิงจัน) ลงไปไว้ ณ ปากพระ . เมื่อญี่หวุ่นนำกองกำลังพม่า ๓ พันฅนยกเข้าตีค่ายปากพระ ที่มีพระยาธรรมไตรโลก นำทัพ พระยาฤๅราชนิกูล พระยาพิพิธโภไคย ช่วยบัญชาการค่ายปากพระ ค่ายปากพระแตก . พงศาวดารเมืองถลาง ให้พระยาธรรมไตรโลกตายในที่รบ แต่คุณประสิทธิ ชิณการณ์ พบจดหมายของพระยาธรรมไตรโลกในปีถัดมาว่ายังมีชีวิตอยู่ พระยาพิพิธโภไคยหนีไปตั้งด่านพระยาพิพิธในเขานางหงส์ . ท่านผู้หญิงจันกลับแล่นขึ้นมา ณ บ้าน พวกเราได้ใช้หลักฐาน มทศ.จห.๑๗ มาตั้งแต่ตั้งมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร (มทศ.) . มโนพล เสนอว่า ย่าจันอยู่ที่บ้านท่าเรือ ถูกพระยาธรรมไตรโลกให้เกาะเอาตัวท่านผู้หญิงจัน "ลง" ไปไว้ ณ ปากพระ ซึ่งตั้งอยู่ที่แหลมหิน ท่าเรือที่จะไปเกาะพร้าว . ท่าเรือแหลมหินเป็นค่ายปากพระ ถูกพม่าตีแตก ท่านผู้หญิงจันกลับแล่น "ขึ้น" มา ณ บ้าน (ที่อยู่ที่บ้านท่าเรือ) เหตุผลของ มโนพล อ้างคำ "ลง"ไปปากพระ และแล่น "ขึ้น" มา ณ บ้านที่ท่าเรือ การอ้างคำ "ลง" "ขึ้น" ของมโนพล ผิดหลักคตินิยมของชาวถลางและภูเก็จ ด้วยเหตุที่ชาวถลางภูเก็จ ได้เคยสร้างรนหันหน้าไปทางประออก (ทิศตะวันออก) เป็นการบังคับให้ฅนนอนขวางหวัน โดยหันศีรษะไปชนฝาบนโรง และห้องนอน หันตีนมาทางเบียง ชาวถลางและภูเก็จ จึงเรียนทิศใต้ว่า "หัวนอน" เรียกทิศเหนือว่า "ประตีน" <<<ประหัวนอน-ประตีน>>> (คำ ประ ใช้ ปละ ก็ได้ หมายถึง ข้าง, ด้าน, ทิศ) ชาวถลางภูเก็จมีคตินิยมให้ศีรษะ (หัว) เป็นของสูงที่เป็นมงคล ถึงกับยอมใช้ของสูงที่เป็นมงคลนี้มาเป็นตัวแทนของตนเองว่า "ผม" "เกล้าผม" "กระผม" (โบราณใช้ทั้งหญิงทั้งชาย) ถ้าเป็น "ผม" ของผู้สูงอายุ ชาวถลางภูเก็จ ผ่าน "ผม"ของผู้สูงวัย จะต้องพยายามเอนตัวน้อมตัวโน้มตัวให้ "ผม"ของตนเองลงต่ำกว่า เพื่อเป็นการเคารพหรือคารวะ . อีกประการหนึ่ง ชาวถลางภูเก็จ จะไม่อาจเอื้อมให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตนไปใกล้ "หัว"(ศีรษะ) ของผู้สูงวัย แม้คำที่ใช้เรียกผู้สูงวัย ชาวถลางภูเก็จก็จะเรียกฅนอื่นว่า "เท้า" (ตีน) เราก็จะ กราบเท้าแม่ที่เคารพ คงไม่มีใครเขียนหรือกล่าวว่า กราบหน้าแข้งแม่ที่เคารพ "ผม" ถอนขนหน้าแข้งแม่แหม็ดแล้วนะแม่ นี่คือคำพูดที่ชาวถลางภูเก็จให้ความเคารพต่อญาติผู้ใหญ่มานานมากกว่า ๒๐๐ ปีมาแล้ว ด้วยเหตุนี้ ประหัวนอน จึงเป็นของ "สูง" 13:42 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ การเคลื่อนที่ไประดับ "สูง" 13:42 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ต้องใช้คำว่า "ขึ้น" 13:43 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ขึ้น ไปทิศ "หัวนอน" (ทิศใต้) 13:44 สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ในทางกลับกัน การเคลื่อนไปทิศเหนือ ซึ่งเรียกว่า ประตีน เราจะใช้ "ลง" แลอนึ่ง เมื่อพม่ายกมานั้น พญาธรรมไตรโลกให้เกาะเอาตัวตูข้า "ลง" ไปไว้ ณ ปากพระ แสดงว่า ย่าจัน ไปทางทิศเหนือของถลาง ก็คือ ปากพระ ไม่ใช่ "แหลมหินเกาะพร้าว" ของมโนพล ครั้นพม่ายกมาตีปากพระ (ทิศเหนือ) ได้ (ย่าจัน)กลับแล่น "ขึ้น" มา(ทิศหัวนอน) ณ บ้าน (เคียน) . ส่วนประวัติศาสตร์ มทศ. จึงยืนยันว่า ย่าจันถูกจับตัว "ลง" ไปที่ค่ายปากพระ และย่าจัน "ขึ้น" มา ณ บ้าน(เคียน) .
ไม่หลงกลลวงของ "มโนพล" แต่ประการใด . *** ประวัติศาสตร์ ข้อมูลภูเก็ต |
|
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( อาทิตย์, 03 มกราคม 2021 ) |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|