หินฟันม้า (Feldspar)
http://www.geocities.com/tumrer/fel.htm หินฟันม้าเป็นสารที่ประกอบอะลูมิโนซิลิเกตของอัลคาไลด์ และอัลคาไลด์ เออท โดยเฉพาะสารประกอบของ Na, K, Ca พบมากและใช้มากในอุตสาหกรรมเซรามิคส์ สารประกอบบริสุทธิ์ของ Na, K, Ca หาได้ยาก ในแร่หินฟันม้าจะมีทั้ง Na, K, และ Ca ซึ่งจะมีอัตราส่วนแตกต่างไป เนื่องจากว่า สารประกอบทั้งสามตัวนี้มีการละลายซึ่งกันและกัน หินฟันม้าใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิคส์ เพื่อเป็นตัวเริ่มก่อให้เกิดปฏิกริยาการเกิดเนื้อแก้วในเนื้อผลิตภัณฑ์ ดังนั้นหินฟันม้าจึงเป็นตัวส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแก้ว และช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติโปร่งแสงดีขึ้น หินฟันม้าเป็นแหล่งอัลคาไลด์และอะลูมิน่าแก่เคลือบและแก้ว ข้อดีที่ทำให้อุตสาหกรรมเซรามิกส์นำมาใช้ก็คือ หินฟันม้ามีราคาถูก และเป็นสารประกอบอัลคาไลด์ที่ไม่ละลายน้ำ
แร่หินฟันม้าที่พบมากมี 3 ชนิดคือ K [AL,Si3]O8 เรียก orthoclase, Na [ Al, Si3]O8 เรียก albite และ Ca[Al2, Si2]O8 เรียก anorthite โครงสร้างของมันเป็นร่างแห 3มิติ เกิดจากการเชื่อมโยงกันของ oxygen ทั้ง 4 อะตอมของ oxygen – silicon tetrahedrons นอกจากนี้ Al ยังเข้าไปแทนที่ Si บางส่วน และช่องว่างในโครงสร้างร่างแหยังถูก K+, Na+,Ca+2 เข้าไปอยู่ ขนาดของอนุมูล Na+ เท่ากับ 0.98 A0, Ca+2 เท่ากับ 1.06 A0, K+ เท่ากับ 1.33 A0 เนื่องจาก Na+ และ Ca+2 มีขนาดใกล้เคียกัน สารประกอบของมันจึงมีการละลายกันได้ดี ส่วน K+ มีขนาดใหญ่มากสารประกอบของมันจึงละลายกับสารประกอบของ Na+,Ca+2 ได้เพียงบางส่วน หินฟันม้าที่มี Na+ และ Ca+ เป็นส่วนประกอบมีโครงสร้างเป็น triclinic และหินฟันม้าที่มี K+ เป็นองค์ประกอบมีโครงสร้างเป็น monoclinic โครงสร้างของแร่หินฟันม้าเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น ในประเทศไทยมีแหล่งหินฟันม้าหลายแห่ง เช่น จังหวัดตาก อุทัยธานี นครศรีธรรมราช การทำเหมืองแร่และการแต่งแร่หินฟันม้า การทำเหมืองทำโดยการระเบิดแหล่งแร่แล้วทำการคัดเลือกแร่ แล้งจึงส่งแร่ไปยังโรงแต่งแร่ ส่วนประกอบของหินฟันม้า หินฟันม้าส่วนใหญ่มีส่วนประกอบคงที่พอสมควร เว้นแต่อัตราส่วนของ Na และ K เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป หินฟันม้าที่มีเปอร์เซ็นต์ Na สูงใช้ในการผลิตแก้วและเคลือบ ส่วนหินฟันม้าที่มีเปอร์เซ็นต์ K สูงใช้เป็นส่วนผสมในเนื้อดินปั้น ส่วนประกอบทางเคมี จะประกอบด้วย K2 อยู่ระหว่าง 3.3 ถึง 13.1 % Na2O อยู่ระหว่าง 1.9 ถึง 12.9 % Fe อยู่ระหว่าง0.04 ถึง 0.2 %หินฟันม้าที่มี % Fe ต่ำ เหมาะสำหรับใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความขาว ใช้ในเคลือบที่ไม่ต้องการให้มีสี และใช้ในการลิตแก้ว
PRODUCTS Na-feldspar Fine Powder Grain Size Sodium Feldspar Mesh SiO2 67-69 % Al2 O3 17-19 % 150 0-3 mm CaO 0.02 % 200 3-10mm K2O 0.2-1.0 % 240 14 mesh Na2O 7-11 % 250 20 mesh MgO 0.10 % 300 25 mesh L.O.I. 0.001 % 325 30 mesh MnO 0.001 % 36 mesh Colour… white K- feldspar Fine Powder Grain Size Potassium Feldspar Mesh SiO2 63-69 % Al2 O3 17-20 % 150 0-3 mm TiO2 0.005-0.01 % 200 3-10mm K2O 9-13.50 % 240 14 mesh Na2O 1.5-3.5 % 250 20 mesh Fe2O3 0.01-0.09 % 300 25 mesh L.O.I. 0.06-0.2 % 30 mesh 36 mesh Colour… white & pink Quartz Fine Powder Grain Size Silica Flour Mesh SiO2 99.00-99.80 % Al2 O3 0.15-0.25 % 150 0-3 mm TiO2 0.005-0.006 % 200 3-10mm MgO 0.03-0.04 % 240 14 mesh K2O 0.05-0.08 % 250 20 mesh Na2O 0.01-0.03 % 300 25 mesh Fe2O3 0.01-0.03 % 325 30 mesh L.O.I. 0.2 % 36 mesh Colour… Snow white
Na-feldspar Fine Powder Grain Size Sodium Feldspar Mesh SiO2 67-69 %
การเตรียมตัวอย่างแร่ จะเริ่มจากการนำ Sample ที่ได้จากหน้าเหมือง หรือ Sample ที่ได้จากการบดแล้วมาทำ Sampling ด้วยวิธี cone & quartering (ทำโดยนำ sample มารวมกันเป็น cone แล้วแบ่งเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน โดยนำเอา 2 ส่วนตรงข้ามกันทิ้งไป และนำเอาอีก 2 ส่วนที่เหลือมารวมกัน ทำจนได้ sample ในปริมาณที่ต้องการ) ให้ได้ปริมาณที่ต้องการ สำหรับ sample ที่เก็บมาจากหน้าเหมืองที่มีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ ก็จะนำมาบดหยาบให้ได้ขนาดเล็กลงเป็นเกล็ดเล็กๆจึงนำมาทำ cone & quartering โดย sample ที่ได้จากการบดนี้จะต้องมาทำการดูดเศษสนิมออกก่อนด้วยแม่เหล็กแรงสูง เพราะเครื่องบดที่ใช้นั้น ใช้เหล็กคุณภาพที่ไม่ดี ถ้าไม่ดูดเศษสนิมออกก่อนนั้นเวลานำ sample ไปขึ้นรูปเผาจะมีเศษมลทินเป็นจุดดำๆมาก เมื่อทำ cone & quartering เสร็จแล้วจึงนำ Sample มาชั่งให้ได้ 160 กรัม เมื่อชั่ง Sample ได้ 160 กรัมแล้ว นำมาดูดเศษสนิมเหล็กออกด้วยแม่เหล็กแรงสูงจนหมดแล้วจึงนำ Sampleนั้นมาร่อนตะแกรงขนาดประมาณ14 meshในส่วนที่ยังไม่ผ่านตะแกรงก็นำมาตำให้ได้ขนาดที่สามารถผ่านรูตะแกรงได้จนหมด เมื่อตำจนผ่านตะแกรงจนหมดแล้วจึงนำเอา Sample นั้นไปอบไล่ความชื้นออกให้หมด (เพื่อไม่ให้เวลาบดด้วย ball-mill นั้น Sample จะได้ไม่ติดภาชนะ และลูกบอล ในขณะบด sample) เมื่ออบไล่ความชื้นออกจนหมดแล้ว จึงนำมาบดด้วย ball-mill โดยใช้ลูกบอลในการบด 45 ลูก บดนาน 26 นาที เมื่อบดเสร็จแล้วจะได้ Sampleออกมาในรูปของผงแป้ง ซึ่งสามารถนำมาทำการทดสอบคุณภาพของแร่ได้ทั้งทางกายภาพ และทางเคมี ต่อไปได้ การทดสอบคุณภาพของแร่ทางกายภาพ เป็นทดสอบคุณภาพจากลักษณะภายนอกยังไม่ต้องการองค์ประกอบที่แน่นอนอาจจะดู Sample ที่เก็บมาด้วยตาเปล่า หรือทำการเผาเยิ้ม วิธีการเผาเยิ้ม คือ จะนำ Sample ที่ผ่านการบดด้วย ball-mill แล้ว นั้นมาทำการอัดขึ้นรูปเป็นรูปต่าง ๆ จากนั้นจึงนำเข้าเตาเผา PYROMETRIC TEST OF FELDSPAR โดยสามารถเผา Sample ได้ที่อุณหภูมิสูงสุด 1,400 องศาเซลเซียส และสามารถตั้ง program ได้ โดยสามารถตั้งให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ต่อ 1 นาที และมีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง ในการนำผงแป้งมาอัดขึ้นรูปต่างๆ นั้น เพื่อที่จะดูลักษณะการละลาย และสีที่ผ่านกระบวนการเผาแล้ว โดยในการอัดขึ้นรูปนั้นจะมีการอัดขึ้นรูปแบ่งเป็น 3 รูป คือ 1. รูปกรวย เพื่อจะสามารถสังเกตการหลอมละลายตัวและสีหลังการเผา 2. รูปวงแหวนเพื่อจะสามารถสังเกตสีและความเป็นแร่กะเทย(แร่ที่มี%NaและKใกล้เคียงกัน) 3. รูปเหรียญ เพื่อที่จะสามารถสังเกตสีหลังการเผา โดยในการเผา Sample ที่ทำการอัดขึ้นรูปเป็นรูปต่าง ๆ นั้นจะมีการตั้ง program เพื่อเผา Sample ที่อัดเป็นรูปต่าง ๆ ไว้ในช่วงอุณหภูมิไม่เหมือนกัน 1. การอัดขึ้นรูป sample เป็นรูปกรวย เมื่อได้ Sample ที่ผ่านการบดด้วย ball-mill แล้ว นำ Sample มาชั่งให้ได้ 10 กรัม ผสมกับน้ำกลั่น 1 หลอดหยด คลุกเคล้าให้เข้ากัน จึงอัดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ เมื่ออัดเสร็จแล้วจึงนำเข้าเตาเผา โดยเผานาน 162 นาที แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 1. เผานาน 122 นาที อุณหภูมิจาก 0-1,220 องศาเซลเซียส และ 2. เผาอีก 40 นาที ที่อุณหภูมิ 1,220 องศาเซลเซียส (คงที่) 2. การอัดขึ้นรูป sample เป็นรูปเหรียญ ใช้ปริมาณทุกอย่างเหมือนการอัดเป็นรูปกรวย แต่ใช้แม่พิมพ์กันคนละอย่าและเผาโดยใช้เวลาเหมือนกับการเผารูปกรวย 3. การอัดขึ้นรูป sample เป็นรูปวงแหวน นำเอา Sample ที่ผ่านการบดด้วย ball-mill มาชั่งให้ได้ 15 กรัม ผสมกับน้ำกลั่น 1-1 ½ของหลอดหยด คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วทำการอัดด้วยแม่พิมพ์ เมื่อทำการอัดเสร็จแล้วก็นำเข้าเตาเผา โดยเผานาน 195 นาที แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ 1. เผาที่อุณหภูมิจาก 0-800 องศาเซลเซียส นาน 60 นาที 2. เผาที่อุณหภูมิจาก 800-1,160 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที และ 3. เผาต่ออีกที่อุณหภูมิ 1,160 องศาเซลเซียส (คงที่) นาน 105 นาที ข้อสังเกตหลังการเผา i ในจะดูว่ามี Na หรือ K- Feldspar มากหรือน้อยนั้น ถ้าขึ้นรูปเป็นรูปกรวยหรือเหรียญเผาที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียสแล้วหลอมจะแยกยาก ต้องขึ้นรูปแหวนเผาที่อุณหภูมิ 1,160 องศาเซลเซียส ถ้าเผาที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียสหลอม แต่เผาที่อุณหภูมิ 1,160 องศาเซลเซียสไม่ค่อยหลอม แสดงว่า มี Na –Feldspar มากกว่า K ซึ่งมีอยู่ประมาณ 0.xxx ส่วนถ้าเผาที่อุณหภูมิ 1,200 องศา-เซลเซียสไม่ค่อนหลอม แต่เผาที่อุณหภูมิ 1,160 องศาเซลเซียสหลอมมี K อยู่ประมาณ 2-3.xxx มักเป็นแร่กะเทย i ถ้าขึ้นรูปกรวย, เหรียญเผาแล้วหลอมดี ส่วนขึ้นรูปแหวนเผาแล้วหลอมปานกลาง แสดงว่ามี Na อยู่มาก แต่ถ้ามี MgO มากก็จะหลอมมาก และถ้ามีคลอไรด์มากก็จะหลอมมาก การดูสีหลังการเผาจะขึ้นกับ Ti, Fe ถ้ามี Fe มากสีจะออกคล้ำ แต่ถ้า มี Ti มากสีขาว 2. การทดสอบคุณภาพของแร่ทางเคมี เป็นการทดสอบคุณภาพของแร่โดยการหาองค์ประกอบของ Sampleที่บดด้วย Ball-millแล้ว ซึ่งจะหาเปอร์เซ็นต์ของ SiO2, TiO2’ Fe2O3’ Al2O3, MgO, CaO, Na2Oและ K2O ก่อนจะทำการทดสอบจะเตรียมตัวอย่างจากผงแป้งให้อยู่ในรูปสารละลาย การหาเปอร์เซ็นต์ของ TiO2’ Fe2O3’ Al2O3, MgO, CaO, Na2Oและ K2O จะนำตัวอย่างที่ทดสอบมาจากการเตรียมตัวอย่างแบบเดียวกัน การหา % ของ SiO2 Sample 0.5000 g (ในรูปของผงแป้ง) Mix with Na2CO3 + H3BO3 ( 3:1 ) Fusion to moten HCl 20 cc P.O. 10 cc ทิ้งไว้ 5 นาที Filter and wash until Cl- free Main SiO2 Residual SiO2 Ignition at 1000 oc for 60 min then weigh (w1) Sample 10 cc (ในรูปสารละลาย) H.F. 10 cc dill to 50 ml in 100 ml P.n. 2 drop H2SO4 10 หยด Heat to dryness Ignition at 1000 oc NH4OH (1+1) color change for 5 min weigh (w2) SiO2 (w1 – w2) HCl (NH4)6MO7O24 5 cc stand for 5 min Tartaric acid 4 cc Reducing agent 5 cc Dill to mark optical density Check against blank at820nm SiO2 สูตรในการคำนวณหา % SiO2 Main SiO2 = main SiO2 (g) x 100 % ----------(1) Sample (g) i Residual SiO2 = Residual SiO2 (mg) x 10-3 x 500 x 100 % ------(2) Sample (g) 10 % SiO2 Total = (1) + (2) การหา % TiO2’ Fe2O3’ Al2O3, MgOและ CaO เริ่มจากการเตรียมตัวอย่างให้อยู่ในรูปของสารละลาย Sample 0.5000 g (ในรูปของผงแป้ง) HF 15 cc H2SO4 2 cc HNO3 10 drop Heat to dryness HCl 10 cc Heat to disolved เมื่อทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว จะได้ sample ออกมาในรูปของสารละลาย ซึ่งจะนำ Sample ในรูปสารละลายนี้มาทำการหา % Al2O3, TiO2, Fe2O3, CaO, MgO การหา % TiO2 นำ Sample 10 cc (ในรูปของสารละลาย) dill ด้วยน้ำกลั่น 100 cc H2SO4 5 cc H2O2 5 cc เมื่อเตรียมสารเสร็จแล้ว ก็เตรียม Blank (ตัวเปรียบเทียบ) เช่นเดียวกับการเตรียมสารแต่ใช้น้ำกลั่นแทน sample เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบเสร็จแล้วจึงนำเข้าเครื่อง VIS SPECTROPHPTOMETER โดยใช้ความยาวคลื่น 415 nm แล้วนำค่าที่อ่านได้จากเครื่องมาทำการอ่านค่าจากกราฟ จะได้ TiO2ออกมามีหน่วยเป็น มิลลิกรัม แทนค่าในสูตร สูตรในการคำนวณหา % TiO2 % TiO2 = TiO2 (mg) x 10-3 x 100 x 100% Ws (g) 10 การหา % Fe2O3 นำ Sample 10 cc (ในรูปของสารละลาย) dill ด้วยน้ำกลั่น 100 cc Tartaric acid 5 cc P.n. 2 drop NH4OH color change HCl color change L.A. 5 cc O.P. 10 cc เมื่อทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว ก็ทำการเตรียม Blank โดยให้ทำซ้ำอีกครั้งแต่เปลี่ยนจาก Sample (ในรูปสารละลาย)มาใช้น้ำกลั่นแทน เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบกับ Sample จากนั้นจึงนำเข้าเครื่อง VIS SPECTROPHPTOMETER โดยใช้ความยาวคลื่น 510 nm ซึ่งค่าที่ได้ จะต้องมาหาค่าในตาราง แล้วนำไปหาค่า Fe2O3ในหน่วย มิลลิกรัม จึงนำไปแทนค่าในสูตร สูตรในการคำนวณหา % Fe2O3 % Fe2O3 = Fe2O3 (mg) x 10-3 x 100 100 % Ws (g) ; Ws = Sample weigh (g) การหา % Al2O3 นำ Sample 10 cc (ในรูปของสารละลาย) dill ด้วยน้ำกลั่น 100 cc M.O. 2 drop NH4OH (1+9) color change Na. buffer 15 cc Sincerely, to boil X.O. 5 drop Titrate with Zn++ solution until color change to pink with blank Al2O3 สูตรในการคำนวนหา % Al2O3 % Al2O3 = 0.0005098(Vb-Vs)x100x100% - (Fe2O3% + TiO2 %)x0.638 Ws 10 ; Ws = Sample weight (g) Vb = Volume of zinc solution used in blank Vs = Volume of zinc solution used in sample solution การหา % CaO นำ Sample 10 cc (ในรูปของสารละลาย) dill ด้วยน้ำกลั่น 100 cc Triethanolmine 5 cc KOH 4 cc NN 2 pcs titrate with EDTA to blue color CaO สูตรในการคำนวณหา % CaO % CaO = 0.0005608 x VEDTA x FEDTA x 100 x 100% Ws 10 ; VEDTA = Volume of EDTA used FEDTA = Factor of EDTA solution หา EDTA FACTOR = ZINC NITRATE SOLUTION (ml) EDTA (10 ml) การหา % MgO นำ Sample 10 cc (ในรูปของสารละลาย) dill ด้วยน้ำกลั่น 100 cc NH3OH.Cl 5 cc Triethanolamine 10 cc NH4OH 3 cc KCN 5 cc Ammonium buffer 10 cc EBT 5 drop titrate with EDTA to greenish bule color MgO สูตรในการคำนวนหา % MgO MgO = 0.0004031 x (EDTAMgO - EDTACaO) x FEDTA x 100 x 100% Ws ; EDTAMgO = Volume of EDTA used in MgO titration EDTACaO = Volume of EDTA used in CaO titration การหา % Na และ K เริ่มจากนำ Sample ที่อยู่ในรูปสารละลายที่เตรียมวิธีเดียวกับที่ใช้หา % Al2O3, TiO2, Fe2O3, CaO, MgO Fe มาผสมกับน้ำกลั่น ดังนี้ ถ้าต้องการหา % Na ให้นำ Sample มา 5 cc ผสมกับน้ำกลั่นให้ได้ 200 cc ถ้าต้องการหา % K ให้นำ Sample 10 cc ผสมกับน้ำกลั่นให้ได้ 100 cc เมื่อเตรียมสารละลายทั้งสองเสร็จแล้ว ก็จะนำตรวจสอบด้วยเครื่อง FLAME PHOTOMETER โดยเครื่องนี้จะมีท่อสำหรับดูดสารละลาย ซึ่งก่อนจะดูดสารละลายที่เป็น Sample จะต้องดูดสารละลายที่ใช้เพื่อตรวจสอบเครื่องว่าคลาดเคลื่อนหรือไม่ ถ้าจะหา Naจะเริ่มตั้งแต่ น้ำกลั่น, 15 ppm(Na), 10 ppm (Na), 5 ppm (Na), 3 ppm (Na),1 ppm(Na) แล้วจึงจะเริ่มดูด Sample (ที่อยู่ในรูปของสารละลาย) แล้วบันทึกค่าเอาไว้ ส่วนในการหา % K ก็ทำในทำนองเดียวกันแต่เปลี่ยนตัวเปรียบเทียบจาก Na เป็น K โดยค่าที่ได้จะนำมา plot กราฟ แล้วอ่านที่ได้ว่ามี Na กี่ ppm มี K กี่ ppm จึงนำค่าที่ได้ไปแทนในสูตรก็จะได้เป็น % ออกมา สูตรในการคำนวนหา % Na, K % Na = 1.348 x 10-6 x ppm(Na) x 200 x 100 x 100% Ws 5 % K = 1.2046 x 10-6 x ppm(K) x 100 x 100 x 100% Ws 10 |