Skip to content

Phuketdata

default color
Home arrow Search
ยิ่งกว่าสิ่งใด เสาวลักษณ์ PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย เสาวลักษณ์ นะวะกะ   
อาทิตย์, 30 สิงหาคม 2015

ยิ่งกว่าสิ่งใด

http://upic.me/i/jq/11205669_1074687125880341_726414049_n.jpg 

 

ลมหายใจของชีวิตที่ทุกคนขาดไม่ได้นั้นก็คือ “บ้าน”

บ้าน คือ สิ่งก่อสร้างที่ใช้เป็นที่พักอาศัยของบุคคล ไม่ใช่แค่เป็นที่หลบแดด หลบฝน หรือหลบภัยอันตรายต่าง ๆ เท่านั้น บ้านยังมีความรัก ความอบอุ่น และยังเป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 

แต่หลาย ๆ คนต้องห่างบ้านมาไกล บ้างก็มาเรียน บ้างก็ทำงาน เพื่อที่จะตามหาความฝันของตัวเอง เป็นธรรมดาที่ต้องมีเหนื่อย มีท้อ มีเหงา ยิ่งในเวลาที่เราท้อแท้ เวลาที่อยู่คนเดียว เวลาที่ผิดหวัง หรือเวลาที่ไม่มีเงินใช้ เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนคงเป็นเหมือนกัน ในช่วงเวลาเหล่านี้มันทำให้คิดถึงบ้าน และทำให้ผู้เขียนนึกถึงเพลงเพลงหนึ่งขึ้นมา นั้นก็คือ เพลงทางกลับบ้าน

ในวันที่ใจมืดหม่น                       วันที่ชีวิตหลงทางมาไกล
ในวันที่ใจวุ่นวาย                               ยิ่งทำให้คิดถึงบ้านเรา
จากมาตั้งนานไกลแสนไกล
                      เมื่อไหร่ความฝันจะเป็นจริง
หรือที่ฝันใฝ่ไม่มีจริง

เข้าใจว่าคนทุกคน                      ย่อมมีเหตุผลของการเดินทาง
แต่ใจฉันยังอ้างว้าง
                     เมื่อสิ่งที่หวังนั้นยังไกล
หนึ่งใจล่องลอยกลางผู้คน                       ที่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร
หนึ่งใจที่ยังต้องเดินไป

เมื่อไหร่ที่ล้มยังคิดถึงพ่อ                เมื่อไหร่ที่ท้อยังคิดถึงแม่
และยังคงทำตามคำสัญญา                      ชีวิตเมื่อทำได้ตามความฝัน
วันนั้นฉันคงได้กลับ                     เอาฝันนั้นไปฝาก

ปลิวไปตามกระแสใจคน                ยังเคว้งคว้างและไร้จุดหมายมืดมน
ความจริงใจสุดท้ายไม่มีความหมาย             โลกที่มันลวงหลอก

มันช่างโหดร้าย
หรือมันอาจเป็นโชคชะตา                       ที่ฟ้าได้กำหนดเอาไว้

และยังคงคิดถึงพ่อ                              เมื่อไหร่ที่ท้อยังคิดถึงแม่
และยังคงทำตามคำสัญญา                      ชีวิตเมื่อทำได้ตามความฝัน
วันนั้นฉันคงได้กลับ                     เอาฝันไปกราบเท้า

แม้หนทางมันจะยังห่างไกล              แต่ฉันจะไม่ถอดใจ
วันนั้นต้องเป็นจริง

ในวันที่ใจ มืดหม่น              วันที่ชีวิตหลงทางมาไกล
แต่ใจฉันยังสู้ไหว
                               ะเหนื่อยแค่ไหนยังเดินต่อ
สิ่งที่ฝันใฝ่อาจเลื่อนลอย                        แต่ว่าความหวังยังยิ่งใหญ่
หนึ่งใจที่ยังต้องเดินไป

บทเพลงนี้ขับร้องโดย คุณอาทิวราห์ คงมาลัย หรือที่รู้จักกันในนาม ตูน Bodyslam เพลงนี้แต่งโดย คุณขจรเดช พรมรักษา ผู้แต่งต้องการปลุกใจคนที่กำลังท้อแท้ หมดหวัง ให้ลุกขึ้นสู้ต่อ

เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายดี ให้กำลังใจคนไกลบ้านที่ท้อแท้ หมดหวังในเรื่องต่าง ๆ ให้กลับมาสู้ และเดินทางตามหาความฝันของตัวเองต่อไป สู้เพื่อพ่อแม่ ผู้ที่ไม่เคยละเลยหน้าที่ คอยเป็นกำลังใจ คอยรับฟังทุก ๆ สิ่ง สู้เพื่อให้ท่านได้สมความปรารถนา เราผู้เป็นลูกต้องปฏิบัติหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด และที่สำคัญต้องทำให้ท่านภาคภูมิใจ โดยการที่ผู้เป็นลูกทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ นั้นคือสิ่งที่พ่อแม่ปรารถนาที่สุด

เพลงนี้มีการใช้คำที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องวิเคราะห์หรือตีความให้ยุ่งยาก มีความไพเราะ ทำให้เพิ่มอรรถรสในการฟัง  มีการเล่นคำ เช่น

๑.      คำว่า  ในวันที่ใจ

  ในวันที่ใจมืดหม่น                   วันที่ชีวิตหลงทางมาไกล

ในวันที่ใจวุ่นวาย                                      ยิ่งให้คิดถึงบ้านเรา

๒.    คำว่า หนึ่งใจ

หนึ่งใจล่องลอยกลางผู้คน                    ที่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร
หนึ่งใจที่ยังต้องเดินไป

มีการเล่นสัมผัสอักษรในเพลง เช่น

วันที่ใจมืดหม่น                        วันที่ชีวิตหลงทางมาไกล
ในวันที่ใจวุ่นวาย                               ยิ่งทำให้คิดถึงบ้านเรา
จากมาตั้งนานไกลแสนไกล
                      เมื่อไหร่ความฝันจะเป็นจริง
หรือที่ฝันใฝ่ไม่มีจริง

    มืด : หม่น, วัน : วิต, ที่ : ทาง, วัน : วุ่น : วาย, จะ : จริง, ฝัน : ใฝ่, ไม่ : มี เป็นต้น

มีการเล่นสัมผัสสระ เช่น

แต่ใจฉันยังอ้างว้าง            มื่อสิ่งที่หวังนั้นยังไกล

    อ้าง : ว้าง, หวัง : ยัง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการเล่นสัมผัสนอกอีกด้วย เช่น

เข้าใจว่าคนทุกคน                    ย่อมมีเหตุผลของการเดินทาง
แต่ใจฉันยังอ้างว้าง
                     เมื่อสิ่งที่หวังนั้นยังไกล
หนึ่งใจล่องลอยกลางผู้คน                      ที่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร
หนึ่งใจที่ยังต้องเดินไป

    คน : ผล, ทาง : ว้าง, ผู้ : รู้, ไกล : ใคร, ใคร : ไป เป็นต้น

        เพลงนี้เป็นเพลงที่ช้า เศร้า ทำให้ผู้ฟังเคลิ้มไปกับเพลง แต่มีทำนอง หรือจังหวะที่หนักแน่น เหมาะสำหรับการให้กำลังใจคนที่ท้อแท้ หมดหวังเป็นอย่างยิ่ง

        เพลงนี้เป็นเพลงที่ผู้เขียนประทับใจมาก เพราะสามารถทำให้เสียน้ำตา และกลับมาสู้ใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้เพลงนี้ยังเป็นเพลงโปรดของเพื่อนรักของผู้เขียนอีกด้วย เมื่อไรที่ท้อ ที่เหนื่อย ที่หมดหวัง เธอก็จะฟังเพลงนี้เพื่อให้กำลังใจตัวเองที่จะตามหาความฝันของเธอต่อไป  ผู้เขียนหวังว่าเพลงทางกลับบ้านจะเป็นเพลงที่คอยเตือนใจทุกท่านในยามท้อ หรือหมดหวัง ให้ลุกขึ้นมาเพื่อจะได้สู้ต่อไปให้ถึงฝัน และไม่ลืมว่าเราคือความหวังของพ่อแม่

                                                        อ้วนกลม

 

 

ผลงาน

 

คำประพันธ์

 

 

ฉบับทดสอบในห้องเรียน เสาวลักษณ์

 

เริ่มต้นที่ต่างกัน

กำลังใจที่ยิ่งใหญ่

นี้แหละตัวฉัน

คิดถึงคนไกล

สืบต่อไป

เจอกันวันจันทร์ตอนบ่าย

ยิ่งกว่าเห็น

ภาพขาวดำ

ต้นหยงดอกอัญชัน

โดดเดี่ยว

ยิ่งกว่าสิ่งใด

บทพิธีกรคติชน

 ***

 

ภาษาและวรรณกรรม

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( พุธ, 02 กันยายน 2015 )
 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

สมุดภาพเหมืองแร่

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้1114
mod_vvisit_counterเมื่อวาน1659
mod_vvisit_counterทั้งหมด10720373