วิวัฒนาการโลกและชีวิต |
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ. | |
พฤหัสบดี, 17 เมษายน 2008 | |
กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัวรายการ "Miracle Planet : เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้า" สารคดีวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของโลกและสิ่งมีชีวิต จัดรอบปฐมฤกษ์ฉายรายการเป็นครั้งแรกในไทย พร้อมเปิดตัวพิธีกรดำเนินรายการ : นิรุตติ์ ศิริจรรยา ผู้ที่จะนำทางทุกคนไปสู่โลกแห่งอดีตกาล นอกจากนี้ยังมีการเสวนาพูดคุยกับ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล และ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ในหัวข้อ "ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ที่มีผลกระทบต่อโลกและมนุษยชาติ" อาทิ เรื่องอุกกาบาตหรือดาวหาง พุ่งชนโลก และเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เป็นต้น โดยมีคุณอดิศักดิ์ โรหิตะศุนรองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นเกียรติในงาน
คุณอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่นำรายการมาเผยแพร่ในประเทศไทยว่า "ด้วยนโยบายหลักของฮอนด้าที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งที่ผ่านมาฮอนด้าได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม แก่เยาวชนและชาวไทยมาโดยตลอด รวมถึงการนำหุ่นยนต์อาซิโมมาแสดงเทคโนโลยีในประเทศไทย ซึ่งการนำรายการสารคดีเรื่องเยี่ยมของ NHK มาฉายในประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้ชมได้เรียนรู้วิวัฒนาการของโลก ซึ่งจะเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ทำให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลก และธรรมชาติต่อไปในอนาคต" "ผู้บริหารของฮอนด้าทั้งชาวญี่ปุ่น และชาวไทย ได้มีโอกาสชมสารคดี Miracle Planet ของ สถานี โทรทัศน์ NHK จากประเทศญี่ปุ่น เห็นว่าเป็นสารคดีที่มีเนื้อหาดีมากๆ อีกทั้งมีการถ่ายทำอย่างปราณีต และ นำเสนอเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ มีการใช้เทคนิคกราฟิก และแอนิเมชั่น ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นภาพจำลองเหตุการณ์และวิวัฒนาการต่างๆของโลกที่ยากจะอธิบาย ให้ได้เข้าใจและเห็นภาพอย่างชัดเจน คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา กล่าวถึงเหตุผลที่เข้ามาเป็นพิธีกรรายการนี้ว่า "ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ดูรายการสารคดีอยู่เป็นประจำ สำหรับรายการเปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้านี้ ทำให้ผมได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นบนโลก แต่เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมันจริง เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหลายล้านปีมาแล้ว นับเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มากที่โลกของเราได้ผ่านเหตุการณ์และปรากฏการณ์อันหลากหลาย กว่าจะได้มาเป็นโลกมนุษย์ที่เราอยู่ในปัจจุบันนี้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจจะสะท้อนถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับคนดูอย่างมาก ในการรับรู้เรื่องราวในอดีตเพื่อให้รู้เท่าทันธรรมชาติ ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต" "Miracle Planet : เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้า" เป็นรายการสารคดีที่นำเสนอ เรื่องราววิวัฒนาการของโลกและสิ่งมีชีวิต โดยย้อนอดีตไปตั้งแต่การกำเนิดโลกเมื่อ ๔,๕๖๐ ล้านปีก่อนจนถึงโลกมนุษย์ในปัจจุบันนี้ ซึ่งออกอากาศทั้งหมด ๑๒ ตอน โดยมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การกำเนิดโลกดวงดาวแห่งการทำลายล้าง, เมื่อโลกกลายเป็นลูกบอลหิมะและการกำเนิดสิ่งมีชีวิตแรกที่มีโครงสร้างซับซ้อน, การขึ้นสู่พื้นพิภพใหม่ของสิ่งมีชีวิต, การสิ้นสูญเผ่าพันธุ์เพื่อการกำเนิดชีวิตใหม่, การดำรงชีวิตของไดโนเสาร์ การอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอันเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ และการกำเนิดโลกที่มนุษย์เป็นจ้าวพิภพ เป็นต้น ซึ่งจะออกอากาศเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และเริ่มออกอากาศเป็นตอนแรกในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป และเพื่อเป็นการเผยแพร่สารคดีชั้นเยี่ยมนี้ออกไปในวงกว้าง ทางฮอนด้าจะรวบรวมเนื้อหาของรายการ มาจัดทำเป็นสื่อวิดีทัศน์เพื่อการศึกษา เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงเรียนต่างๆ สำหรับประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์อีกด้วย
ข้อมูลที่น่าสนใจของรายการ Miracle Planet : เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์ ชื่อรายการ : Miracle Planet : เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้า เวลาออกอากาศ : ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เริ่ม 17 กรกฎาคม 2548 หรือติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในรายการได้ทาง รายการสารคดี "เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์กับฮอนด้า" นำเสนอเรื่องราวของโลกที่ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลาถึง ๔,๕๖๐ ล้านปี โลกของเราใบนี้ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์ต่างๆ มากมาย การที่ลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนโลกเป็นสาเหตุให้ทะเลและมหาสมุทรเหือดแห้ง โลกทั้งใบเริ่มเย็นลงจนจับตัวเป็นน้ำแข็งเหมือนก้อนหิมะ การเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตไปเกือบหมดโลก และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ อีกมากมาย บรรพบุรุษของเราต้องดิ้นรนต่อสู้กับเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด จนกระทั่งวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์แห่งโลกยุคใหม่ในทุกวันนี้
ทั้งหมด 6 บท 12 ตอน ออกอากาศ 12 ครั้ง ครั้งละ 1 ตอน
บทที่ 1 ตอนที่ 1 : ดวงดาวแห่งการทำลายล้าง 17 กรกฎาคม 2548 Violent planet : secret of past บทที่ 2 ตอนที่ 3 : วิกฤตยุคโลกก้อนหิมะ 31 กรกฎาคม 2548 Snowball earth : first of our past บทที่ 3 ตอนที่ 5 : จากมหาสมุทรสู่แม่น้ำแห่งชีวิต 14 สิงหาคม 2548 New frontiers : onto the land บทที่ 4 ตอนที่ 7 : สู่อาณาจักรใหม่บนพื้นพิภพ 28 สิงหาคม 2548 Extinction to rebirth : strategy of life บทที่ 5 ตอนที่ 9 : ความลับจากดวงตา 11 กันยายน 2548 Break up Survival of the fittest ตอนที่ 10 : ดวงตาแห่งสันติ 18 กันยายน 2548 บทที่ 6 ตอนที่ 11 : ย่างก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ 25 กันยายน 2548 Human earth ตอนที่ 12 : โลกของมนุษย์ 2 ตุลาคม 2548 สาระสำคัญของเนื้อหาทั้ง ๖ ตอน บทที่ ๑ Violent planet : secret of past ดวงดาวแห่งการทำลายล้าง - ปริศนาการกำเนิดชีวิต โลกของเราเกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลาถึง ๔,๕๖๐ ล้านปี ในช่วงเริ่มแรก สิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นเพียงแค่จุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กกว่า ๑ มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในมหาสมุทร และกระจายสู่ที่ต่าง ๆ และบ้างก็อยู่ลึกไปสู่ใต้ดิน ในอดีตลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนโลกมากกว่า ๖ ครั้ง ทำให้โลกต้องถูกปกคลุมด้วยไอหินที่มีความร้อนอันบ้าคลั่ง มหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตก็ไม่สามารถรอดพ้นจากหายนะภัยครั้งนี้ได้ มันเดือดระอุและระเหยจนเหือดแห้ง ซึ่งได้ทำลายกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ก่อตัวในมหาสมุทรไป แต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินนั้นยังคงอยู่รอด ถึงแม้เหตุการณ์การระเหยทั้งหมดจะทำให้ดาวเคราะห์กลายเป็นลูกบอลไฟขนาดยักษ์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปไอหินจะสามารถหายไป และอุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดลง การระเหยของน้ำทะเล ในที่สุด ก็จะเกิดการควบแน่นกลายเป็นฝนที่เชี่ยวกราดไหลลงสู่อ่างมหาสมุทรอันว่างเปล่า ณ จุดหนึ่งของเวลา โลกใหม่ของมหาสมุทรก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง และลึกลงไปใต้พื้นมหาสมุทรนั้นเอง จะมีจุลินทรีย์มากมายที่ดำรงชีวิตอยู่รวมถึงบรรพบุรุษของมนุษย์ แม้จะมีขนาดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ด้วยการยืนหยัดของชีวิต พวกเขาค้นหาทุกสถานที่ที่เป็นไปได้ที่จะอาศัยและดำรงชีวิตอยู่ และด้วยการผจญภัยของพวกเขานั้นเอง วงล้อแห่งวิวัฒนาการ ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเราได้ดำเนินผ่านมา ๔,๕๖๐ ล้านปี ก็จะเริ่มต้นขึ้นและเริ่มหมุนอีกครั้ง
Snowball earth : first of our past วิกฤตยุคโลกก้อนหิมะ - มิติซับซ้อนของต้นกำเนิดมนุษย์ ณ สองช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โลก คือ เมื่อ 600 ล้านปีก่อน และ 2 พัน 2 ร้อยล้านปีก่อน โลกได้ถูกกลบฝังอยู่ภายในน้ำแข็ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนลูกบอลหิมะขนาดยักษ์ พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหนาเหมือนกับดินแดนแอนตาร์กติก้าในปัจจุบัน น้ำทะเลเย็นยะเยือกกลายเป็นน้ำแข็งจนถึงระดับความลึก 1,000 เมตร ในช่วงนี้บรรพบุรุษของมนุษย์ยังคงเป็นแบคทีเรียที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นประมาณพันเท่าเมื่อเทียบกับขนาดที่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งหลังจากสภาวะโลกกลายเป็นลูกบอลหิมะได้สิ้นสุดลง บรรพบุรุษของมนุษย์ก็สร้างวิวัฒนาการอันยิ่งใหญ่แบบก้าวกระโดดไกลไปจากสิ่งมีชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ สิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้วิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่รอดจากสภาวะโลกเป็นลูกบอลหิมะทั้งสองครั้งได้ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้ พร้อมที่จะเริ่มบทบาทใหม่ในประวัติศาสตร์ของตัวมัน และมนุษย์ คือ ผลพวงจากวิวัฒนาการนั้น ๆ ซึ่งบทพิสูจน์ดังกล่าวได้ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้อย่างชัดเจนในร่างกายของเราแล้ว
บทที่ ๓ New frontiers : onto the land จากมหาสมุทรสู่แม่น้ำแห่งชีวิต วิวัฒน์เพื่อการอยู่รอด โลกเมื่อประมาณ ๔๕๐ ล้านปีก่อน ไม่มีสัตว์หรือพืชชนิดใดที่อาศัยอยู่บนผืนดิน พื้นดินเป็นดั่งโลกอันแห้งแล้งที่มีเพียงทะเลทรายครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล ในทางตรงกันข้ามมหาสมุทรเป็นโลกที่อุดม ไปด้วยสิ่งมีชีวิต บรรพบุรุษของมนุษย์ในอดีตกาลเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปลาในยุคดึกดำบรรพ์ แต่เมื่อแผ่นดินทวีปเริ่มเคลื่อนที่และมหาสมุทรเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตเริ่มถูกผลักดันออกมาสู่พื้นดิน และต่อมาพื้นดินแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นเวทีใหญ่แห่งการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตซึ่งนำไปสู่มนุษย์ในที่สุด พืชได้ย้ายไปสู่พื้นดินก่อนพวกสัตว์ และปกคลุมพื้นผิวดินไว้ บรรพบุรุษของเราได้จากมหาสมุทรและย้ายไปสู่โลกใหม่ของน้ำจืดซึ่งในภาวะแวดล้อมที่อุดมไปด้วยน้ำจืดใหม่นี้ พวกสัตว์เริ่มที่จะใช้ชีวิตด้วยการก้าวสู่พื้นดินด้วยวิธีการต่าง ๆ กันไป เริ่มพัฒนาการหายใจด้วยปอด เริ่มมีมือและเท้าซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้สิ่งมีชีวิตกระจายออกจากมหาสมุทรไปสู่แหล่งที่อยู่อาศัยเกือบจะทุกแห่งรวมทั้งพื้นดินและท้องฟ้า
Extinction to rebirth : strategy of life สู่อาณาจักรใหม่บนพื้นพิภพ จูราสสิคยุคไดโนเสาร์ครองโลก เป็นเวลาราว 100 ล้านปี หลังจากที่สัตว์ในมหาสมุทรได้วิวัฒนาการและกลายเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน ระบบนิเวศน์อันสมบูรณ์ได้พัฒนาส่วนต่าง ๆ ของดาวเคราะห์ดวงนี้ให้เกิดขึ้น ระดับออกซิเจนที่เชื่อกันว่ามีอยู่สูงมากในขณะนั้น ก็อำนวยความได้เปรียบให้กับสัตว์เลื้อยคลานที่มีลักษณะคล้ายกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนพื้นดิน แต่หลังจากนั้นเมื่อ 250 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตถูกโยนลงสู่สภาวะแวดล้อมที่มีความร้อนเหนือธรรมดา สภาวะเรือนกระจกของคาร์บอนไดออกไซด์ค่อย ๆ ทำให้โลกร้อนขึ้น ออกซิเจนอยู่ในระดับต่ำผิดปกติ สิ่งเหล่านี้เข้าโจมตีระบบนิเวศน์ของบรรพบุรุษของมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จนทำให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก ซึ่งทำให้ 95% ของสิ่งมีชีวิตถูกกวาดล้างจนสิ้นสูญไปจากพื้นผิวของดาวเคราะห์ดวงนี้ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลกับสิ่งแวดล้อมบนโลก และในระหว่างที่บรรพบุรุษของมนุษย์ได้พยายามดิ้นรนเพื่อให้ผ่านพ้นหายนะภัย พวกเขาได้รับคุณสมบัติของการเลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะติดตัวมาด้วย มันเป็นการก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่นำมาซึ่งความเป็นมนุษย์ในท้ายที่สุด
Break up : Survival of the fittest
ความลับจากดวงตา - ดวงตาแห่งสันติ
โลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนถูกยึดครองโดยไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถูกบีบให้อาศัยหลบซ่อนในที่มืดเป็นเวลามากกว่า 150 ล้านปี แต่เมื่อ 160 ล้านปี หลังจากยุคของไดโนเสาร์ได้เริ่มขึ้น ภัยพิบัติอีกอย่างก็ได้เข้าโจมตีโลก ผลกระทบอย่างฉับพลันของดาวตกก่อให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง และนี่คือ จุดจบในการครองโลกของไดโนเสาร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคดึกดำบรรพ์ดูเหมือนจะมีโอกาสที่จะโผล่ขึ้นมาจากที่มืด แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกมันต้องอดทนต่อความทุกข์ยากลำบากอีกอย่างหนึ่ง คือ การเคลื่อนตัวของทวีปทั้งหลายอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกครั้งที่ทวีปแตกสลาย การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นแก่นสารของสภาวะอากาศก็เกิดขึ้นและชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตบนโลกต่างถูกผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ในยุคนี้บรรพบุรุษของมนุษย์ได้วิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นั่นก็คือ "ลิง" ในระหว่างที่บรรพบุรุษได้วิวัฒนาการจากลิงดึกดำบรรพ์สู่พวกที่คล้ายคน พวกเขาได้พัฒนาความสามารถในการมองเห็น เริ่มมีการแสดงออกทางใบหน้าได้หลากหลายขึ้นด้วยเหตุนี้เอง ทำให้พวกเขาเริ่มสื่อสารและร่วมมือกันในการต่อสู้กับศัตรูและมีความกล้าที่จะออกจากที่ซ่อนมากขึ้น และนี่เป็นก้าวอันสำคัญของชีวิตที่วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะกายภาพขนานใหญ่มาสู่บรรพบุรุษของมนุษย์
บทที่ ๖ Human earth
ย่างก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ - โลกของมนุษย์
โลกทุกวันนี้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากกว่า 30 ล้านสายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนวิวัฒนาการขึ้นมาจากการสูญพันธุ์มากกว่าการมีชีวิตรอด และสาเหตุหลักสำคัญของการสูญพันธุ์ คือ หายนะภัยจากพลังของธรรมชาติหลายต่อหลายครั้งที่โลกต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรพบุรุษของมนุษย์ก็เช่นกันราว 7 ล้านปีก่อน วิวัฒนาการของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในแอฟริกา มีกลุ่มมนุษย์ดึกดำบรรพ์ซึ่งมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันถึง 20 สายพันธุ์ปรากฏขึ้นในขณะนั้น และมีเพียงแค่สายพันธุ์เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่นั่นคือ โฮโมเซเปี้ยนส์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของมนุษย์โลกในปัจจุบัน ที่ประสบผลสำเร็จในด้านวิวัฒนาการในการก่อกำเนิด และวิวัฒนาการทางด้านวัฒนธรรม โฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มถ่ายทอดเผ่าพันธุ์ด้วยภาษา และถ่ายทอดข้อมูลการเรียนรู้ภาษาให้แก่ลูกหลานในรุ่นต่อไป นอกจากนี้ ได้พัฒนาวิทยาศาสตร์ และอารยธรรมความเจริญก้าวหน้า และในที่สุดพวกเขาได้มีพลังที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกด้วยตัวของพวกเขาเอง ในจุดสิ้นสุดของวิวัฒนาการอันน่าทึ่งนี้ อารยธรรมความเจริญรุ่งเรืองของเราใกล้เข้าสู่จุดที่การดำรงชีวิตอยู่ของพวกเราอาจะถูกคุกคามก็เป็นได้ เชื่อกันว่าช่วงอายุการมีชีวิตของโลกมีราว 1 หมื่นล้านปี ซึ่งในเวลานี้โลกมีอายุประมาณ 4,560 ล้านปี เราเดินทางมาถึงแค่เพียงครึ่งทางเท่านั้นเอง และจะอีกนานแค่ไหนที่มนุษย์เราจะยังคงสามารถเดินทางต่อเนื่องไปบนเส้นทางสู่อนาคตได้?
วีรยา หมื่นเหล็ก, จิราวดี อยู่พรมราช, ภวิกา ขันทเขตต์ โทร. 0 2691 6302-4, 0 2274 4961-2 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net ดูเพิ่มใน Link
|
|
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( เสาร์, 04 ตุลาคม 2008 ) |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|
วันนี้ | 2379 | |
เมื่อวาน | 4265 | |
ทั้งหมด | 11275356 |