...คนภูเก็ตเรียกวันตรุษจีนว่าวันเดือนสาม...อาจเป็นเพราะวันตรุษจีนที่เป็นปีใหม่จีนมักตรงกับเดือนที่3ของปฏิทินไทย...
....สมัยผมยังเด็ก...ชาวบ้านมักทำขนมเข่งไว้ใช้เอง...เขาเริ่มทำขนมเข่งตั้งแต่ประมาณเือบ10วันก่อนถึงวันตรุษจีน(วันที่1 เดือน1 ตา...มปฏิทินจีน)...เพราะ7วันก่อนวันตรุษจีน..ต้องมีพิธีไหว้ส่งเหล่าเทพ(ซ่างสีน)ที่พวกเรานับถือไปเข้าเฝ้าหยกหองส่งเต่(ไม่ใช่หยกอ๋อง)...ซึ่งต้องใช้ขนมเข่งเป็นหลักในการไหว้....
.....มันจึงเกิดนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่ง(จากหลายเรื่อง)เกี่ยวกับขนมเข่ง.....
....เรื่องมีอยู่ว่า...เทพแห่งครัว(จ้าวฮุนก๊ง)...ซึ่งเป็นเทพอาวุโสที่สถิตย์อยู่ในครัวของบ้านทุกหลัง..ก็ต้องไปเข้าเฝ้าหยกหองส่งเต่ด้วย...ในสมัยก่อนตอนผมยังเด็ก..แม่บ้านและสมาชิกหลายคนในครอบครัว..ใช้เวลาส่วนใหญ่กับครัว...การทำกับข้าว3มื้อ..ไม่ใช่งานน้อย..และไม่ได้ทำคนเดียว..ข้างครัวจึงนอกจะมีโต๊ะอาหารแล้ว..ก็มักจะมีตั่งหรือเตียงให้คนที่รอรอทานข้าวหรือชวนคุยหรือช่วยทำครัวไว้ใช้นั่ง..ระหว่างทำครัวหรือทานอาหารก็มักจะเอาเรื่องต่างๆนาๆมาคุยกัน..จริงบ้างเท็จบ้าง นินทาบ้าง..สรรเสริญบ้าง..หรือแม้แต่การพูดคำหยาบ..จ้าวฮุนก๊งที่สถิตย์อยู่ย่อมได้ยินได้ฟังทุกเรื่อง...
เมื่อท่านเข้าเฝ้าหยกหองส่งเต่..ท่านอาจนำเรื่องไม่ดีไปทูล..ทำให้มีผลเสียต่อบ้านนั้นๆ..ชาวบ้านเลยทำขนมเข่งที่เหนียวและเคี้ยวติดฟันมาไหว้ท่าน...
เวลาท่านรับประทาน..ความเหนียวของขนมจะทำให้ท่านอ้าปากพูดไม่ได้...อันนี้เป็นนิทานสนุกๆที่ผมรับฟังมาแต่เล็ก...ดูเพิ่มเติม
...ขนมเข่ง...หรือที่คนฮกเกี้ยนเรียกว่าตี่โก้ย...ภาษาทางการแบบฮกเกี้ยนเรียกว่าหนี่โก้ย...มีจากจีนกลางว่าเหนียนก๊าว(เหนียนแปลว่าปี ก๊าวแปลว่าขนม รวมกันน่าจะแปลว่าขนมของปีใหม่ทำนองนั้น)..แล้วคำว่าก๊าวที่แปลว่าขนมบังเอิญไปพ้องเสียงกับคำว่าก๊าวท...ี่แปลว่าสูง..เวลาเอาขนมเข่งไปให้ใครจึงคล้ายกับอวยพรให้เขาสูงขึ้นทุกๆปี..ความหมายของคำว่าสูงขึ้นก็คือเจริญขึ้นนั่นเอง
......วันนี้ว่ากันแค่นี้ก่อน...เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาเล่านิทานเกี่ยวกับตี่โก้ย(หนี่โก้ยหรือเหนียนก๊าว)ให้ฟังต่อ...ดูเพิ่มเติม
...ไปไหว้เทวดาที่อ๊ามจุ๊ยตุ่ย(24.00น..30มค54)..ได้ถ่ายรูปกับโกเกี๋ยวหรือคุณดิโรจน์ เลิศเอกกุล..ผมนับถือท่านเป็นครูคนหนึ่ง..ผมได้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีฮกเกี้ยนเยอะมาก..หลายเรื่องที่ผมเขียนในเฟสบุ๊ค..ผมก็ขอความรู้มาจากท่าน..ท่านเป็นทั้งผู้รู้จากการปฏิบัติ..เป็นเจ้าพิธี..แตกฉานทั้งภาษาจีนกลาง..ฮกเกี้ยน..กวางตุ้ง..หลายคนไม่รู้ว่าพื้เพท่านเป็นกวางตุ้ง..เพราะฮกเกี้ยนท่านก็คล่องมากท่านเป็นผู้รู้สูงสุดของภูเก็ตในยุคนี้..ดูเพิ่มเติม
....ดึกคืนนี้เป็นวันไหว้เทวดา..ขออัญเชิญเทพเทวดาทั้งปวง...ได้โปรดคุ้มครองประเทศไทยให้มีแต่ความสันติ..ไร้ซึ่งภัยพิบัติทั้งปวง..............ท่านอาจจัดโต๊ะไหว้ที่บ้านท่านได้ยิ่งดี..หรืออาจไปไหว้ที่ศาลเจ้าต่างๆผมเข้าใจว่าทุกแห่งคงจัดการไหว้ไว้.
.....หรือที่ลานไฮ่เหลงในงานย้อนอดีตของเทศบาลนคร ภก.ก็ได้..กุศลเหล่านี้จะกลับมาสู่ท่านและครอบครัวให้พบแต่ความเจริญ..โอกาสนี้ขอฝากเพลงสำหรับนั่งสมาธิของชาวพุทธธิเบตและมีภาพสวยๆมาให้เป็นมงคลแด่ทุกท่าน..ขอให้ทุกท่านหับเก๊เป่งอ๊าน..เส่งลี่ซูนสูน..ไต่เกียดไต่หลี่..บ่านสื่อหยู่อี่..ตลอดปีนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?src_vid=gVBP5a_-yr4&v=fJOcNGlXmaw&feature=iv&annotation_id=annotation_55322วันที่ 30 มค.นี้...ตรงกับวันที่8ของตรุษจีน(เจียโง๊ยะโฉ่ยโป๋ย)...การไหว้เทวดาเขาไหว้ในวันที่9ของตรุษจีน(เจียโง๊ยะโฉ่ยก้าว)...และไหว้ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น...คนจีนเขาถือว่าหลัง5ทุ่มไปแล้วคือวันใหม่...ดังนั้นหลัง5ทุ่มของเจียโง๊ยะโฉ่ยโ...ป๋ยก็คือโฉ่ยก้าวแล้ว...สามารถเริ่มไหว้ได้เลย...สมัยผมเด็กๆ...เขาไหว้กันนานๆ...เพราะกว่ากาเล่จะมาเล่นที่บ้านเราได้...เขาก็ต้องเล่นที่บ้านอื่นๆมาก่อน...คิวยาวมาก...คนเล่นชื่อแป๊ะอี๋น...เป็นคนจีนที่พูดไทยไม่ค่อยได้...รูปร่างสูงใหญ่...น่าจะสูงประมาณเกือบ180ซม...ยุคนั้นถือว่าสูงมาก...เวลาท่านเชิดกาเล่ที่เป็นหุ่นกระบอก...ท่านดูสง่าดี...เด็กๆจะเดินตามหลังท่านเป็นพรวนดูท่านเชิดตามบ้านโน้นบ้านนี้ไม่มีเบื่อ...เกือบทุกบ้านต่างจัดโต๊ะไหว้อย่างสนุก...แป๊ะอี๋นมีอาชีพขายอาหารให้ครูและนักเรียนในโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว..ถนนกระบี่...ปัจจุบันนี้คนเชิดกาเล่ชื่อแป๊ะถาว..ลูกชายคนโตของแป๊ะอี๋น....ปีต่อไปอยากให้เทศบาลรณรงค์ให้คนกลับมาจัดโต๊ะไหว้เทวดาอีก..โดยทำคู่มือแจก..เพื่อคนที่ไม่เคยไหว้จะได้ทำเป็น...ในนั้นให้มีหมด..ตั้งแต่ที่มา..วิธีการจัดโต๊ะ..วิธิการไหว้..ข้อควรปฏิบัติ..ข้อควรระวัง..วิธีอธิษฐาน..เป็นต้น..ผมเชื่อว่าคนจะกลับมาไหว้กันเพิ่มขึ้น..และจะมีคนหนุ่มสาวมาแจมเยอะ..และผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวทั้งคนภูเก็ตเอง..คนไทย..ชาวต่างชาติ..จะตื่นเต้นที่ได้ชม..ดูเพิ่มเติม
Prasit Koysiripong ...จำได้ว่าตอนเป็นเด็ก..วันตรุษจีน..อาหมะ(คุณแม่)ปลุกให้ตื่นค่อนข้างเช้า..หลังจา...กอาบน้ำเสร็จแล้ว..ท่านก็นำเสื้อผ้าใหม่..สวยงาม..มาแต่งให้ทีละคน..บางคนก็ได้แขวนสร้อยทองเส้นเล็กๆด้วย..เนื่องจากมีลูกมาก..เสื้อผ้าที่ยังใหม่อยู่..พอพ้นวันนี้ไป..จะถูกซักอย่างดี..แล้วนำเข้าไปเก็บในตู้เสื้อผ้า..เพื่อใช้ในปีต่อไป..ส่วนอาม่าก็จัดของไหว้หน้าพระกับทีกงตั๋ว..แต่งตัวเสร็จพวกเด็กๆก็เดินไปไหว้พระกับอาม่า..หลังจากนั้นก็ไปเที่ยว...วันนั้นเป็นวันที่เรามีตังค์ในกระเป๋ามากที่สุด..ผมไปเล่นตอกไข่ต้มสีแดงกับเพื่อน..เราเลือกไข่มาคนละฟอง..แล้วใช้ปลายที่แหลมของไข่มากระแทกกันเบาๆ..เปลือกไข่ฟองไหนแตกก็เป็นผู้แพ้..ต้องจ่ายค่าไข่ต้ม..อีกเกมที่ชอบมากคือเกมสับกล้วย..วิธีเล่นก็คือการใช้มีดคมๆสับกล้วยให้ขาด2ท่อนครั้งเดียวโดยห้อยด้วยเปลือกกล้วยที่บางที่สุด..เกมนี้สามารถเล่นได้ที่ละหลายคน..คนบ๊วยจะเป็นคนจ่าย..วันนั้นเป็นวันของเด็ก..ทุกคนซื้อแหลก..กินไม่อั้น..ของกินแต่อย่างอยู่ระหว่าง25สตางค์ถึง1บาท..ร้านขายของหยุดหมด..ยกเว้นของกินกับความบันเทิง..ภาพที่ชินตาคือเด็กมือถือลูกโป่ง..อีกมือถือซึ้งอ๋วน(น้ำแข็งไสปั้นกลมใส่น้ำหวานและสีแดง)..ดูดซึ้งอ๋วนจนปากแดงถึงแก้ม..ส่วนชายหาดยอดฮิตที่คนไปเยอะก็คือหาดราไวย์กับหาดแหลมกา....