๓.๒.๑(๕) พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕ ความเป็นมา ในการประชุมเพื่อเตรียมงานวางพวงมาลาวันปิยะมหาราช ๒๓ ตุลาคม ๒๕๒๔ กรรมการจังหวัดและผู้เข้าร่วมประชุมโดยนายมานิต วัลยะเพ็ชร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ได้มีความเห็นว่าจังหวัดภูเก็ตไม่มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ใดประดิษฐานในที่สาธารณะเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติให้ประชาชนได้สักการะและเพื่อเป็นศูนย์รวมให้รำลึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยในชาติเดียวกัน ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ทุกปีที่ผ่านมาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชน ได้จัดทำพวงมาลามาร่วมในพิธีวางพวงมาลาวันปิยะมหาราชเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการจัดเตรียมสถานที่ได้เตรียมการ โดยนำพระรูปจำลองของพระองค์มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวตลอดมา พระบรมรูปจำลองที่จัดหามาได้มีขนาดเล็กไม่เด่นชัด ไม่มีสง่าเท่าที่ควร การกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นไม่เหมาะสมแก่คุณความดีของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชนชาวไทยทั้งมวล จังหวัดภูเก็ตน่าจะกระทำได้ดีกว่าที่ปฏิบัติมาแล้ว อนึ่ง เนื่องจากขณะนั้นทางราชการได้ประกาศชวนเชิญให้ส่วนราชการต่าง ๆ และทุกจังหวัดจัดสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์ ตลอดจนสิ่งซึ่งจะเป็นอนุสรณ์สำหรับชุมชนทั่วไปในโอกาสเฉลิมฉลองการครบ ๒๐๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ในพ.ศ.๒๕๒๕ ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในสถานที่ที่เหมาะสมให้สมพระเกียรติ และให้ประชาชนได้มีโอกาสเยี่ยมตลอดจนได้สักการะได้ทุกโอกาส และให้เร่งรัดดำเนินการเร่งให้เสร็จโดยด่วนเพื่อเป็นโครงการหนึ่งในการร่วมงานฉลองครบรอบ ๒๐๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์
การดำเนินงาน เพื่อให้การจัดสร้างเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ จังหวัดภูเก็ตจึงได้รายงานกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนราชเลขานุการในพระองค์ ฯ เพื่อทราบความต้องการของจังหวัดภูเก็ตและขอความร่วมมือในการให้การสนับสนุนการจัดสร้างตลอดจนการดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการจัดสร้าง ในการนี้จังหวัดได้รับความร่วมมือในการดำเนินการอย่างดียิ่งจากทุกฝ่าย เฉพาะกรมศิลปากรได้มอบหมายให้นายประเวศ ลิมปรังษี ผู้อำนวยการกองหัตถศิลป์ และนายชิน ประสงค์ ประติมากรกองหัตถศิลป์ มาร่วมพิจารณาคัดเลือกสถานที่ที่จะสร้างและให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนินการ ในการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันครั้งสุดท้าย ที่ประชุมมีความเห็นชอบร่วมกันว่าเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับปรุงบริหารงานและการปกครอง ทั้งในด้านการปรับปรุงองค์กร ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนที่มีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการเลิกทาสนั้นเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ฉะนั้นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่านสมควรประดิษฐานบริเวณหน้าอาคารหลักในการบริหารและการปกครองของชุมชนในพื้นที่จังหวัด สำหรับจังหวัดภูเก็ตจึงสมควรจัดสร้างบริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และควรจัดสร้างเท่าพระองค์จริงเพื่อให้ได้สัดส่วนกับอาคารและบริเวณโดยรอบ
เมื่อได้เห็นชอบร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย กองหัตถศิลป กรมศิลปากร จึงได้ให้การสนับสนุนออกแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ และเสนอขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงได้ดำเนินการหล่อพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงให้จังหวัดภูเก็ต โดยจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ สำหรับถ้อยคำจารึกที่แท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์นั้น จังหวัดได้เสนอข้อความที่จะจารึกให้กรมศิลปากรเป็นผู้พิจารณา และกองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ได้ปรับปรุงแก้ไขให้จารึกข้อความไว้ดังนี้
“ จ.ป.ร. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพเมื่อพุทธศักราช ๒๓๙๖ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๑๑ เสด็จสวรรคตเมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๓ ทรงสร้างสรรค์ความเจริญ วัฒนา และความมั่นคงแก่พระราชอาณาจักร พระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรโดยทั่วหน้า
ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน จังหวัดภูเก็ต พร้อมใจกันสร้างและประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์นี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๒๕“
ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จังหวัดได้รับแจ้งจากกรมศิลปากร ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับพระบรมรูปของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้จัดทำแล้วเสร็จเพื่อนำกลับจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๒๕ และเมื่อจังหวัดได้ทำแท่นฐานแล้วเสร็จจึงได้นำพระบรมรูป ฯ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐานอนุสาวรีย์ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มีหนังสือถึงราชเลขาธิการให้พิจารณานำความกราบบังคมทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ หรือในกรณีที่พระองค์ท่านไม่ทรงว่างจากพระราชภารกิจอื่นขอได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินกระทำพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์แทนพระองค์ให้เป็นที่เรียบร้อย ดังที่ราชการได้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนจังหวัดภูเก็ตสืบไป
หนังสืออ้างอิง วารสารภูเก็ตฉบับพิเศษ โปรด ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทน ฯ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ |