สารสัมพันธ์มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร

ฉบับที่ ๑/๒๕๕๔  ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔

สวัสดีค่ะกรรมการทุกท่าน 

ฉบับนี้เป็นการสรุปงานประจำปี  ท้าวเทพกระษัตรี  ท้าวศรีสุนทร  ประจำปี  ๒๕๕๔  ที่ผ่านมา  ซึ่งสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ทุกประการก็เพราะได้แรงกายแรงใจจากกรรมการทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือมาตลอด   ซึ่งปีนี้เรามีกิจกรรมเพิ่มขึ้นหลายกิจกรรมบางกิจกรรมก็เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินการ  แต่ทุกท่านก็พร้อมที่จะลุยไปด้วยกันอยู่แล้ว   สู้!  สู้! 
มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี  ท้าวศรีสุนทร  ได้ดำเนินการจัดทำโครงการประจำปี  ๒๕๕๔  ระหว่างวันที่  ๕-๑๙  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๕๔  เพื่อเทิดทูนเกียรติวีรชนท้าวเทพกระษัตรี  ท้าวศรีสุนทร  และวีรชนผู้กล้าเมืองถลาง  โดยจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

๑.กิจกรรมอุปสมบทหมู่เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแด่ท้าวเทพกระษัตรี  ท้าวศรีสุนทร  จัดขึ้นระหว่างวันที่  ๕ - ๑๙  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔  มีผู้เข้าร่วมอุปสมบทจำนวน  ๒๔  คน  มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ  ๓๐๐-๕๐๐  คน  จัดทำโครงการอบรมผู้บวชใหม่โดยได้นิมนต์พระวิทยากรจากวัดพระมหาธาตุฯ  มาสอนธรรมะให้พระผู้บวชใหม่ตลอดช่วงระยะเวลาในการอยู่อบรม   
 
 รายรับจากเจ้าภาพ          ๒๖๒,๖๓๑.๐๐  บาท
 รายจ่าย                       ๒๐๕,๖๓๑.๐๐  บาท
 คงเหลือถวายวัด              ๕๗,๐๐๐.๐๐  บาท

๒.กิจกรรมเข้าค่ายพุทธบุตร  (ครั้งที่  ๑)  เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ธรรมะกับการใช้ชีวิตประจำวัน  จัดขึ้นระหว่างวันที่  ๑๔- ๑๖  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๕๔  มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม  จำนวน  ๑๘  คน  อายุระหว่าง  ๙-๑๘  ปี  ซึ่งผลการตอบรับจากเด็กที่ได้รับการอบรมครั้งนี้  ถือว่าประสบความสำเร็จมากทุกคนได้รับความรู้มาก และมีข้อเสนอแนะให้จัดกิจกรรมนี้ทุก ๆ ปี  

๓.กิจกรรมการแข่งขันตอบคำถามประวัติศาสตร์เพื่อชิงทุนการศึกษา  จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกระจายสู่เยาวชน และเพื่อปลูกจิตสำนึกในการรักและภาคภูมิใจท้องถิ่นของตนแก่เด็กและเยาวชน  มีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในรอบที่ ๑  วันที่  ๘  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๔ จำนวน ๒๗  โรงเรียน  จำนวนนักเรียน  ๑๐๐  คน  โรงเรียนที่เข้ารอบ  ๒  จำนวน  ๑๑   โรงเรียน  จำนวนนักเรียน  ๑๖  คน   ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นจำนวนเงิน  ๗๒,๐๐๐   บาท (เจ็ดหมื่นสองพันบาทถ้วน)

๔.กิจกรรมบวงสรวงปู่ย่า ตายาย และบรรพชนผู้กล้าเมืองถลาง  จัดขึ้นวันที่  ๑๒  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔  มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ  ๑,๐๐๐ -  ๑,๕๐๐ คน  กิจกรรมแบ่งออกเป็น  ๒  ช่วง  คือ  ช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตรพระใหม่  และพิธีทอดผ้าป่าเพื่อสบทุนบูรณะวัดม่วงโกมารภัจจ์  ได้รับยอดบริจาคเป็นจำนวน  ๓๖๑,๐๖๖.๐๐  บาท ช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมบวงสรวงเริ่มตั้งแต่เวลา  ๑๕.๐๐  น.  ซึ่งปีนี้ทางมูลนิธิฯ  ได้จัดให้มีการมอบทุนการศึกษาในวันที่  ๑๒  มีนาคม  ด้วย  เพื่อลดพิธีการที่อนุสาวรีย์  ในวันที่  ๑๓  มีนาคม  โดยจัดให้มีการมอบทุนการศึกษาก่อนพิธีการบวงสรวง  เมื่อขบวนเดินทางมาถึง  เวลา  ๑๗.๐๐  น.  ณ บริเวณหน้าศาลาจตุรมุข โดย  ดร.ยุวัฒน์  วุฒิเมธี  ประธานมูลนิธิท้าวเทพฯ  ซึ่งทุกอย่างประสบความสำเร็จด้วยดี  คาดว่าปีต่อไปน่าจะมอบทุนการศึกษาที่นี่ต่อไป  การดำเนินการสามารถดำเนินการเป็นขั้นตอน ตามกำหนดการมากขึ้น   ปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก
 
 รายรับ            ๓๑๗,๔๘๔.๐๐   บาท
 รายจ่าย          ๒๘๕,๘๔๓.๐๐  บาท

๕.กิจกรรมการแข่งขันกีฬาบนเส้นทางประวัติศาสตร์  จัดขึ้นวันที่  ๑๓  มีนาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๔  โดยมี ๒  กิจกรรม  คือ
 - กิจกรรมการแข่งขันจักรยานบนเส้นทางประวัติศาสตร์  โดยเทศบาลเทพฯ  ซึ่งมูลนิธิฯ  ได้ให้การสนับสนุนน้ำและอาหาร  โดยได้รับความอนุเคราะห์น้ำและเสื้อจำนวน  ๒๐๐ ตัวจากบริษัทหาดทิพย์  จำกัด  น้ำบริษัทป้อมเจริญ  จำกัด   และอาหารจากสมาคมธุรกิจโรงแรม  จำนวน  ๑,๐๐๐  กล่อง
 - กิจกรรมการวิ่งมินิมาราธอนบนเส้นทางประวัติศาสตร์  โดย อบต.เทพกระษัตรี  ซึ่งมูลนิธิฯ  ได้ให้การสนับสนุนเงินเป็นจำนวน  ๒๐,๐๐๐  บาท

๖.กิจกรรมเชิญธงถลางชนะ
 จัดขึ้นตรงกับวันที่ ๑๒-๑๓ มีนาคม โดยจัดขบวนแห่ธงมาจากค่ายเจ้าพญาอินทวงษา (ดร.ยุวัฒน์วุฒิเมธี เป็นประธานพิธี)ผ่านทางเส้นทางประวัติศาสตร์โดยคุณธนิต ประทีป ณ ถลาง และ ผศ.สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ มาจนถึงอนุสาวรีย์ ซึ่งปีนี้ได้รับความร่วมมือจากฐานทัพเรือภาค ๓ ทหารราบที่ ๒๕ และตำรวจเป็นผู้อัญเชิญธงถลาง ปีนี้รูปแบบขบวนสวยงามแต่ยังขาดความพร้อมเรื่องสถานที่ จึงต้องดำเนินการปรับปรุงในปีต่อไปค่ะ

 ๗.กิจกรรมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
 ๗.๑  อนุสรณ์สถานเมืองถลาง  ตอนนี้งบประมาณ  ๒๖  ล้านบาท มีอยู่แล้วสำหรับการว่าจ้างและออกแบบอนุสารีย์  โดยจังหวัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจัดประชุมคณะกรรมการหาผู้ว่าจ้างและออกแบบออกแบบอนุสาวรีย์  ซึ่งได้ทางกรมศิลปากร รับเป็นผู้ออกแบบอนุสาวรีย์  ซึ่งทางจังหวัดมอบหมายให้มูลนิธิท้าวเทพฯ  จัดสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบอนุสาวรีย์ว่าควรเป็นรูปแบบไหน  ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปดังนี้
๑.เมื่อเห็นอนุสาวรีย์แล้วรู้สึกอย่างไร
 - เห็นแล้วรู้สึกภาคภูมิใจ  
 - ไม่ขัดแย้ง แต่มีรากเหง้า
 - เชิงสันติภาพ   
 - ระลึกถึงวีรกรรมในอดีต
 - ความเป็นมิตรภาพ  อบอุ่น – มิตรไมตรี
 - เด่นเป็นสง่า
  - สัญลักษณ์ เอกภาพความรักชาติ
 - ฮึกเหิม สามัคคี
 - เอื้ออาทร  
 - ผู้สร้างเมือง
 - สำนึกบุญคุณ   
 - ประทับใจ

๒.อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นตีความหมายชัดเจนหรือไม่
 อนุสาวรีย์บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างชัดเจน

๓.ขนาดและมุมมองของอนุสาวรีย์
 อนุสาวรีย์มีความอลังการ

๔.ฐานอนุสาวรีย์มีลักษณะอย่างไร
 ให้ฐานอนุสาวรีย์บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต  สติปัญญา ความสามารถในด้านเศรษฐกิจ – พาณิชย์  สังคม  การเมือง  การปกครอง การทูต  วีรกรรม (นักรบ)

๕.องค์ประกอบรอบฐาน  (ภูมิทัศน์โดยรอบ)
 ให้บริเวณภูมิทัศน์โดยรอบอนุสาวรีย์สามารถใช้รองรับสำหรับการทำพิธีการ  เชิญธงสันติภาพ/มิตรประเทศได้
  
 ผลตอบรับกลับจากกรมศิลปากรเรื่องรูปแบบอนุสาวรีย์  จะมี ๙ คน  แต่จะไม่มีแม่และเด็ก ค่าใช้จ่ายในการปั้นหุ่นตัวละ ๓.๕ ล้านบาท  ซึ่งเกินงบประมาณ ๒๖  ล้านแน่นอนค่ะ  ต้องเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนต่อไป
 
 
 สุดท้ายนี้ขออำนาจบารมีหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง และท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร อำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง  มีจิตใจแจ่มใส นึกหวังสิ่งใดขอให้ได้สมความปรารถนาทุกประการ   

      พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ

มทศ.จัดลับสมองประลองปัญญา จัดเป็นประจำทุกปีในงานท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร 

ละครประวัติศาสตร์ ๒๕๕๓

เปิดงานแสดงท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร

ทอดผ้าป่าทรายสร้างอนุศรณ์สถานเมืองถลาง

มทศ. จัดทัศนศึกษาแหล่งประวัติศาสตร์  นักศึกษาจีน

อัญเชิญธง ถลางชนะศึก

*************

พจนสารอันดามัน

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์

ปาณิศรา(นก) ชูผล : บันทึก

ผช.หมายเหตุรักษ์ มทศ.