เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.
|
จันทร์, 12 กรกฎาคม 2010 |
จากครูภูธรสู่ “เซิร์น” องค์กรฟิสิกส์ระดับโลก |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 9 กรกฎาคม 2553 10:55 น. |
![](http://www.manager.co.th/images/TabOver.gif) | คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
|
|
|
ห่างออกไปจากตัวเมืองกาฬสินธุ์เกือบ 100 กิโลฯ ครูฟิสิกส์คนหนึ่งที่อุตสาหะเรียนจนจบปริญญาโท รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ความรู้ฟิสิกส์ที่เธอถ่ายทอดให้แก่นักเรียนไปนั้น ดูเหมือนไม่เป็นที่ต้องการ เพราะท้ายที่สุดแล้วเหล่าลูกศิษย์ของเธอต้องลงเอยที่การทำนา-ทำไร่เช่นเดียวกับผู้ปกครอง แต่เหมือนว่าฟ้าจะเห็นใจในความพยายามเมื่อเธอได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 2 ตัวแทนครูไทยเข้าร่วมอบรมที่ “เซิร์น” ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้แก่นักเรียนเป็นอย่างมาก “ขอบคุณนะคะที่ยังนึกถึงครูฟิสิกส์" เป็นความรู้สึกของ "พิมพร ผาพรม" หรือ "ครูอ้อม" โรงเรียนท่าคันโทวิทยาคาร อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างเข้าสัมภาษณ์เพื่อเฟ้นหาครูฟิสิกส์ไทย 2 คนให้เข้าร่วมร่วม "โครงการสำหรับครู /อาจารย์ สอนฟิสิกส์" (CERN Programme for Physics High School Teachers) ของเซิร์น (CERN) ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ แม้ตอนนั้นเธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับคัดเลือก เนื่องจากผู้ผ่านการคัดเลือกบางคน เป็นถึงครูโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศ และบางคนมีดีกรีความรู้ถึงระดับ “ด็อกเตอร์” เด็กๆ ขนลุกแทนคุณครู เมื่อทราบข่าว เด็กๆ ในโรงเรียนซึ่งเคยมองว่าฟิสิกส์เป็นเรื่องไกลตัว และไม่ใช่เป้าหมายในการเรียน ต่างรู้สึกตื่นเต้นและยินดีกับคุณครูของพวกเขา บางคนถึงกับขนลุกแทนคุณครู แม้ยังไม่ทราบว่าเซิร์นนั้นยิ่งใหญ่สักแค่ไหน โดยในระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่เซิร์น ครูอ้อมจะได้รับความรู้ด้านฟิสิกส์อนุภาคและร่วมทำกิจกรรมการทดลอง พร้อมๆ กับครูจากประเทศต่างๆ เกือบ 50 คน ครูฟิสิกส์จากกาฬสินธุ์คาดว่า กิจกรรมทดลองดังกล่าวน่าจะเกี่ยวกับการผลิตสื่อการสอนด้านฟิสิกส์อนุภาค และเธอยังได้รับการคาดหวังให้กลับมาสอนฟิสิกส์อนุภาคแก่นักเรียน แม้ในหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการยังไม่ได้บรรจุเรื่องนี้ลงไปในหลักสูตรมัธยมปลายก็ตาม ครูอ้อมเดินทางไปแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อม "สุพัตรา ทองเนื้อห้า" หรือ “ครูจ๋า” ครูฟิสิกส์อีกคนจากโรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ ด้วยภาระ "ตัวแทนประเทศ" ที่แบกไว้บนบ่าแต่ละคน และยังเป็นตัวแทนครูไทยชุดแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ของเซิร์น ซึ่งเซิร์นได้เริ่มโครงการภาคฤดูร้อนนี้มาตั้งแต่ปี 2543 โดยก่อนหน้านี้ครูส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมมาจาก 20 ประเทศในยุโรป ฟิตความรู้ก่อนเป็นครู หลังจากเรียนจบฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ครูอ้อมต้องเรียนวิชาชีพครูที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นเวลา 1 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปเป็นครู ตามเงื่อนไขทุนในโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (สควค.) ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แต่ระหว่างนั้นเธอยังไม่พร้อมที่จะเป็นครู “ไม่ใช่ไม่อยากเป็นครูนะ แต่ตอนนั้นยังรู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อม จึงเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนผู้ช่วยวิจัยที่ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เรียนด้านฟิสิกส์ชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นเรื่องที่สนใจ และใช้เวลาเรียน 3 ปี ตามเวลาที่ สสวท.อนุญาตให้เลื่อนใช้ทุนออกไปได้" ครูอ้อมกล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ครูฟิสิกส์ถูกทิ้ง ตามเงื่อนไขของทุน สควค.นั้น นักเรียนทุนต้องกลับไปใช้ทุนในจังหวัดบ้านเกิด ซึ่งเมื่อเรียนจบปริญญาโทแล้ว โรงเรียนท่าคันโทวิทยาคารซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดเล็ก มีนักเรียนอยู่ประมาณ 1,000 คน มีตำแหน่งครูว่างพอดี ครูอ้อมจึงได้บรรจุเป็นครูที่นั่นตั้งแต่ปี 2551 และแม้จะมีความรู้อัดแน่นแต่การสอนกลับไม่ใช่เรื่องง่าย ครูอ้อมเล่าถึงปัญหาในการสอนว่าเด็กนักเรียนท่าคันโทส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจน ผู้ปกครองมีอาชีพเกษตร เมื่อเรียนจบ ม.ปลาย นักเรียนจำนวนมากจะไปเป็นเกษตรกรช่วยครอบครัว มีเพียง 10% ที่เรียนต่อมหาวิทยาลัย ดังนั้น เด็กส่วนใหญ่จึงมองว่าฟิสิกส์เป็นเรื่องไกลตัว “รู้สึกเหมือนถูกทิ้งเพราะสอนไปด้วยความด้วยความรู้สึกว่าฟิสิกส์ไม่ใช่เป้าหมายของนักเรียน ดังนั้นความท้าทายคือทำอยางไรก็ได้ให้เด็กสนใจฟิสิกส์ก็พอ ทำให้เด็กสนุกสนาน ไม่เบื่อและรู้สึกสนใจฟิสิกส์มากขึ้น" ครูอ้อมกล่าว ในทัศนะของครูฟิสิกส์คนใหม่เธอมองว่าโดยธรรมชาติของชาวท่าคันโทแล้ว เป็นคนรักความสนุกสนาน ไม่ชอบอะไรที่เคร่งเครียดและดูจริงจัง จึงเป็นโจทย์อันท้าทายว่าจะทำให้ฟิสิกส์เป็นเรื่องสนุกสนานได้อย่างไร ทางออกหนึ่งคือการผลิตสื่อให้นักเรียนได้เล่น-ได้ทดลอง และหวังว่าการได้เข้าร่วมโครงการของเซิร์นนั้นจะเป็นโอกาสให้เธอได้แลกเปลี่ยนเทคนิคการสอนกับครูจากประเทศอื่นๆ ร่วมถึงสื่อการสอนที่จะได้เรียนรู้จากเซิร์นด้วย ครูจากโรงเรียนเล็กๆ ทำไมได้โกอินเตอร์? ทั้งที่มีครูฟิสิกส์เก่งๆ อยู่มาก แต่เหตุใดครูจากโรงเรียนเล็กๆ ในอีสานจึงได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมในองค์กรวิจัยระดับโลก .... เป็นคำถามที่ครูอ้อมสงสัยและพยายามวิเคราะห์เองว่า โครงการอาจต้องการให้โอกาสแก่ครูที่สร้างผลงานไปถึงเด็กจริงๆ อย่างเธอเองมีผลงานเป็นที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่ผ่านเข้ารอบระดับภาค หรือ น.ส.สุพัตรา เพื่อนครูที่ได้ร่วมเดินทางไปกับเธอในครั้งนี้ด้วยนั้น เป็นที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลอันดับ 3 ของประเทศ ถึงแม้จะเป็นคุณครูในโรงเรียนเล็กๆ และรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งเมื่อวิชาฟิสิกส์ไม่เป็นที่ต้องการของเด็กๆ แต่ใช่ว่าโรงเรียนจะไม่มีความพร้อมเสียเลย เพราะโรงเรียนท่าคันโทวิทยาคารเป็นหนึ่งใน 500 โรงเรียนที่ได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล (World Class Standard School) ซึ่งนักเรียนจะได้เรียน 2 ภาษา คือ จีน-อังกฤษ มีทั้งอาจารย์ฝรั่งและอาจารย์ชาวจีนมาสอนนักเรียนโดยตรง อีกทั้งยังมีระบบอินเทอร์เน็ตที่พร้อมให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด ทำให้ครูฟิสิกส์คนนี้ทราบข้อมูลการรับสมัครครูเข้าร่วมโครงการกับเซิร์นครั้งนี้ นอกจากนี้ ครูอ้อมยังบอกด้วยว่าผู้อำนวยการได้สนับสนุนการเข้าอบรมอย่างเต็มที่ บางครั้งเป็นผลงานวิชาการส่วนตัว ทางผู้บริหารก็อนุญาตให้ไปร่วมได้ และส่งไปอบรมสม่ำเสมอ ทั้งที่โรงเรียนส่งไปและการอบรมที่สนใจโดยส่วนตัว จึงทำให้มีผลงานพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นหลักฐานที่ใช้ยื่นสมัครเข้าโครงการในครั้งนี้ เมื่อได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศทำให้ครูอ้อมมองว่าที่จริงแล้วครูจากโรงเรียนเล็กๆ ก็มีโอกาสไม่ต่างครูจากโรงเรียนใหญ่ๆ เช่นกัน และเปรียบเทียบความแตกต่างว่า สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กแล้วมีโจทย์ที่ท้าทายกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่มากเพราะเด็กๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ แต่สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กแล้วคุณครูต้องเผชิญกับความท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้นักเรียนสนใจในวิชาที่เรียน การได้ไปเยือนองค์กรวิจัยระดับโลกที่รวมเอาความเป็นที่สุด ทั้งองค์ความรู้ด้านฟิสิกส์ทฤษฎี ฟิสิกส์ทดลอง รวมถึงสุดยอดงานวิศวกรรมของมนุษยชาติที่ก่อกำเนิดเป็นเครื่องเร่งอนุภาคขนาดมหึมา น่าจะจุดประกายให้นักเรียนหรือใครก็ตามที่เคยมองข้ามฟิสิกส์ไปได้หันกลับมามองสาขาทางด้านนี้ และครูอ้อมน่าจะเป็นแรงบันดาลใจทั้งแก่นักเรียนและคุณครูจากโรงเรียนอันห่างไกลอีกหลายคนได้.
“เซิร์น” องค์กรเพื่อค้นหา “อนุภาคพระเจ้า” องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์ (European Center for Nuclear Research) หรือ “เซิร์น” (CERN) เป็นองค์กรที่มุ่งศึกษาฟิสิกส์อนุภาคที่มี 20 ประเทศสมาชิกในยุโรปเข้าร่วม และมีเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้คือ เครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี (Large Hadron Collider: LHC) ที่ท่อนำอนุภาคขดเป็นวงกลมยาว 27 กิโลเมตรซึ่งฝังอยู่ใต้พรมแดนฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ และหนึ่งในเป้าหมายขององค์กรแห่งนี้คือ การค้นหา “อนุภาคพระเจ้า” (God particle) ที่จะตอบคำถามว่ามวลในเอกภพนั้นมีจุดเริ่มต้นอย่างไร |
|
|
|
|
| ![](http://www.manager.co.th/images/TabUnder.gif) |
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
|
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) | ข่าวที่เกี่ยวข้อง |
| |
|
|
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) | ข่าวล่าสุด ในหมวด |
| |
|
|
อ้างอิง http://www.norsorpor.com/ข่าว/n2094842/จากครูภูธรสู่%20%20เซิร์น%20%20องค์กรฟิสิกส์ระดับโลก |