Skip to content

Phuketdata

default color
Home arrow Search
มรดกที่จับต้องไม่ได้ของโลก PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
จันทร์, 18 มกราคม 2010
มรดกที่จับต้องไม่ได้ของโลก 12 รายการใน ASEAN{แตกประเด็นจาก K8778484} vote  

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก K8778484

ต่อจากกระทู้ที่แล้วนะครับ กระทู้ที่แล้วจะเป็นมรดกโลกที่เป็นสถานที่และสิ่งของที่เกี่ยวกับการจดบันทึก แต่ทาง UNESCO ก็มีการขึ้นทะเบียนมรดกอีกแบบหนึ่งที่เป็นมรดกทางด้าน วัฒนธรรมของมนุษยชาติที่จับต้องไม่ได้ (Intangible cultural heritage) ที่แสดงถึงการคิดค้น สร้างสรรค์ สติปัญญา และความหลากหลายทางภูมิปัญญา วัฒนธรรม ที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น อันควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสืบทอดมรดกนี้ต่อไปสู่ชนรุ่นต่อไป
ข้อมูลจากเวบไซต์ของ UNESCO นะครับ ถ้าใครสนใจก็ไปอ่านรายละเอียดต่อได้ครับ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:04:22
ถูกใจ: แพนด้ามหาภัย, ริเชลิว, แว่นตาเคมี, โตนิค



      ความคิดเห็นที่ 1  

      มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ประกอบไปด้วย

      1. ภาษาพื้นเมืองและการแสดงออกทางภาษา
      2. ศิลปะการแสดง รวมถึง ดนตรี การเต้นรำ และมหรสพ
      3. การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมและประเพณี
      4. ความรู้ การปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและสิ่งต่างๆรอบตัว
      5. หัตถกรรมพื้นบ้าน

      จากคุณ: Humble
      เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:04:55
        

 

 
ความคิดเห็นที่ 2  

ทั่วโลกมีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อยู่ 166 รายการ จาก 71 ประเทศ

ใน ASEAN มีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับจ้องไม่ได้ที่ขึ้นทะเบียนจาก UNESCO อยู่ 12 รายการจาก 5 ประเทศครับ ประกอบด้วย

เวียดนาม 4 รายการ
อินโดนีเซีย 3 รายการ
กัมพูชา 2 รายการ
ฟิลิปปินส์  2 รายการ
มาเลเซีย 1 รายการ

เป็นที่น่าเสียดายว่าประเทศไทยยังไม่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:05:56
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  

1. ตนตรีแห่งราชสำนักเวียดนาม  (Nha Nhac, Vietnamese Court Music)

ประเทศเวียดนาม

Nha Nhac (ขอเรียกว่า นานัค นะครับ)  แปลว่า ดนตรีอันหรูหรา เกี่ยวโยงกับดนตรีและการฟ้อนรำที่แสดงสำหรับราชสำนักเวียดนามตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ถึงกลางศตวรรษที่ 20 อันเป็นช่วงสิ้นสุดราขวงศ์สุดท้าย ลักษณะเด่นของนานัคก็คือ ใช้แสดงเปิดและปิดงานพระราชพิธีต่างๆ  ในอดีตนานัคจะประกอบด้วยวงใหญ่ประกอบด้วย นักแสดง นักดนตรี นักร้อง ในเครื่องแต่งกายเต็มยศ นานัคนอกจากจะแสดงในงานพิธีแล้ว หน้าที่อีกอย่างหนึ่งก็คือการสื่อสารและแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า เจ้าแผ่นดิน และรวมถึงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล หลังจากที่ราชวงศ์เวียดนามสิ้นไป เหล่านักดนตรีที่เหลือก้ยังคงสืบต่อ และกลายเป็นแรงบันดาลใจแก่ดนตรีสมัยใหม่ในเวียดนาม

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:10:11
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 4  
วิดีโอ

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:10:54
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 5  

2. พื้นที่ของวัฒนธรรมฆ้อง   (The Space of Gong Culture)

ประเทศเวียดนาม

พื้นที่ทางวัฒนธรรมฆ้องอยู่ในเขตที่สูงตอนกลางประเทศเวียดนามในพื้นที่หลายจังหวัด และ 17 ชนเผ่า ในกลุ่มภาษาออสโตรเอเชี่ยน และออสโตรนีเชี่ยน ฆ้องมีความเกี่ยวพันอย่างแนบแน่นระหว่างชีวิตประจำวันและการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล ความเชื่อก่อให้เกิดโลกในตำนานลึกลับ ซึ่งฆ้องสามารถใช้สร้างภาษาเพื่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ ทวยเทพ และโลกเหนือธรรมชาติ ฆ้องเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักสิทธิ์ ทุกครอบครัวจะมีฆ้องอย่างน้อยอยู่หนึ่งตัว ฆ้องแสดงถึงความมั่งคั่ง อำนาจและเกียรติภูมิของเจ้าของ ฆ้องจะถูกใช้ในงานพิธีต่างๆ แตกต่างกันไปตามหมู่บ้านต่างๆ และต่างกันในแต่ละพิธีการ

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:11:52
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 6  
วิดีโอ

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:12:50
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 7  
3. เพลงพื้นบ้าน Quan Họ Bắc Ninh    (Quan Ho Boc Ninh folk songs)

ประเทศเวียดนาม

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ตอนเหนือของฮานอย มีหลายหมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านฝาแฝดกัน ที่กระชับความสัมพันธ์กันโดยเพลงพื้นบ้าน การขับร้องเพลงจะเป็นการสลับกันระหว่าง นักร้องหญิงสองคนจากหนึ่งหมู่บ้าน และนักร้องชายสองคนจากอีกหมู่บ้าน โดยนักร้องต้องมีเสียงใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนที่ร้องเพลงได้ การร้อง จะสลับกันร้องโต้ตอบกันโดยผู้ร้องตอบต้องร้องตอบในทำนองเดียวกันแต่ต่างเนื้อร้อง มีข้อห้ามด้วยว่าชายหญิงที่ร้องเพลงโต้ตอบกัน จะแต่งงานกันไม่ได้ จากการรวบรวมมีเพลงกว่า 400 เพลง และ 213 ทำนอง เนื้อหาจะเกี่ยวกับความรัก การพลัดพลากและความสุขเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง การร้องเพลงจะมีขึ้นในงานพิธี ประเพณีประจำปี และงานสังสรรค์ที่ไม่เป็นทางการ  เพลงพื้นบ้าน Quan Ho Bac Ninh    ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณ ปรัชญาและอัตลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 53 10:39:19

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:15:09
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 8  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:19:04
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 9  

4. การขับร้องเพลงคาตรู  (Ca tru singing)

ประเทศเวียดนาม

การขับร้องเพลงคาตรูเป็นการขับร้องเพลงที่ซับซ้อนจากบทกวี การขับร้องมีแอกลักษณ์โดดเด่นเป็นแบบเฉพาะของเวียดนามที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากที่อื่น เอกลักษณ์อยู่ที่วงและทักษะการขับร้องขั้นสูงของผู้ขับร้อง หนึ่งวงจะประกอบไปด้วย นักร้องหญิง  มือพิณแบบเวียดนามและคนตีกลอง ผู้ขับร้องหญิงจะขับร้องด้วยเสียงสูงและทำปากแคบที่สุด ใช้เทคนิคการหายใจ และไวเบรโต เพื่อให้เกิดเสียงที่น่าฟังและเป็นเอกลักษณ์ มือกลองจะตีเพื่อยกย่องคนร้องหรือตีบอกจังหวะหรือสามารถตีบอกเมื่อคนร้องร้องไม่ดี การร้องกาตรูนั้นอาจจะร้องเพื่อความบันเทิง การแข่งขันหรือการขับร้องในวัง กาตรูประกอบไปรูปแบบทางดนตรี 56 แบบ

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:19:52
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 10  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:23:25
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 11  

5. หนังตะลุง  (The Wayang Puppet Theatre)

ประเทศอินโนเซีย

หนังตะลุงมีต้นกำเนิดมาจากเกาะชวา อินโดนีเซีย แล้วแพร่หลายไปที่อื่นๆในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์รวมทั้งประเทศไทย ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา หนังตะลุงได้รับความนิยมในราชสำนักชวา บาหลี และรวมถึงชาวบ้านทั่วไป  หนังตะลุงจากทุกที่จะต่างกันด้วยขนาด รูปร่าง รูปแบบแต่จะมีความเหมือนกันคือจะทำจากหนังวัวและมีคันชัก และเล่นประกอบดนตรีเครื่องทองเหลืองเช่น ฆ้อง อยู่หลังฉากผ้าขาว เรื่องราวของหนังตะลุงในอินโดนีเซียจะเป็น นิทานท้องถิ่น มหากาพย์จากอินเดียและเปอร์เซีย ในอดีตคนเชิดหนังจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่ปลูกฝังค่านิยมและศีลธรรมในสังคมผ่านการเชิดหนังและเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านคำพูดและการแสดงของสามัญชนในเรื่อง ซึ่งนำไปสู่การวิจารณ์ทางสังคมและการเมือง ซึ่งทำให้หนังตะลุงได้รับความนิยมและสิบทอดมาถึงทุกวันนี้

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:26:01
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 12  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:26:54
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 13  

6. กริช (Kris)

ประเทศอินโนเซีย

กริช เป็นดาบสองสั้นสองคม ที่เป็นเอกลักษณ์ของอินโดนีเซีย กริชเป็นทั้งอาวุธและสิ่งของทางจิตวิญญาณเพราะเชื่อว่ากริซมีพลังอำนาจอยูภายใน กริซมีต้นกำเนิดในเกาะชวาเมื่อประมาณคริสตศตวรรษที่ 10 คุณค่าของกริซอยู่ที่ 3 ส่วน รูปทรงที่มีกว่า 40 แบบ การสลักตกแต่งใบมีดที่มีกว่า 120 ลาย อายุและต้นกำเนิด กริชบางชิ้นนั้นได้รับการตีเป็นอย่างดีด้วยเทคนิคการตีทบไปมาหลายร้อยครังทำให้กริชมีความแกร่งและคม กริชยังใช้เป็นเครื่องแต่งกายในงานพิธีต่างๆ ทั้งชายและหญืง เป็นดครื่องแสดงฐานะทางสังคม สัญลักษณ์ของผู้ชนะ และใช้ในพิธีกรรมและการแสดงต่างๆ

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:27:52
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 14  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:29:07
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 15  

7. ผ้าบาติกอินโดนีเซีย ( Indonesian Batik)

ประเทศอินโนเซีย

ผ้าบาติกหรือปาเต๊ เป็นเทคนิคการทำลายบนผ้าที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากการนำขี้ผึ้งมาวาดลวดลายบนผืนผ้าและลงสี การฟอกย้อมครั้งปล้วครั้งเล่าก่อให้เกิดความงามแก่ผืนผ้า ผ้าบาติกมีปรากฏในหลากหลายพื้นที่ตั้งแต่จีน ญี่ปุ่น อินเดีย อียิปต์โบราณ แต่ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดก็คือผ้าบาติกอินโดนีเซียที่มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่ ศตวรรษที่ 6-7 บาติกพื้นบ้านจะประกอบด้วยสามสี น้ำเงินเข้ม น้ำตาลและ ขาว แสดงถึงพระพรหม พระศิวะและวิษณุ ผ้าบางลายก็สงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น ผ้าลายกว้าง แถบกว้างจะแสดงถึงชนชั้นสูง นอกจากนี้เมื่อมิพิธี สำคัญเรายังสามรถสังงเกตว่าใครมีเชื้อสายเจ้าจากผ้าที่สวมใส่

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:30:17
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 16  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:31:52
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 17  

8. หนังใหญ่ (Sbek Thom, Khmer Shadow Theatre)

ประเทศกัมพูชา

สะบักธม หรือการแสดงหนังใหญ่นั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนนครวัด แรกเริ่มเป็นการแสดงเพื่อถวายแด่ทวยเทพซึ่งจะจัดขึ้นในโอกาสสำคัญเท่านั้น  ตัวหนังแกะสลักจากหนังวัวเป็นรูปเทวดาและอสูร ตัวหนังหนึ่งตัวจะแกะสลักจากหนังทั้งผืน เรื่องที่ใช้แสดงคือเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งผู้เล่นก็จะเชิดหุ่นบนฉากผ้าสีขาว ร่วมกับวงมโหรีและผู้ขับร้อง

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:32:45
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 18  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:34:10
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 19  

9. นาฏศิลป์หลวงของกัมพูชา (The Royal Ballet of Cambodia)

ประเทศกัมพูชา

นาฏศิลป์หลวงของกัมพูชามีชื่อเสียงเรื่องความสง่างามและเครื่องประดับที่วิจิตร และได้รับกานฟื้นฟูอีกครั้งหลังยุคเขมรแดง นาฏศิลป์หลวงของกัมพูชามีความเกี่ยวข้องและรับใช้ราชสำนักเขมรมากว่าพันปีในพิธีหลวงต่าง ตัวละครหลักก็จะประกอบด้วย ตัวพระ ตัวนาง ยักษ์ และลิง ซึ่งจะมีเครื่องแต่งกายและท่ารำต่างกันชัดเจน นักแสดงจะต้องฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะสื่ออารมณ์ไปยังผู้ชม และถือเป็นผู้ส่งสารจากพระเจ้าแผ่นดินสู่เทพเจ้าบนสรวงสวรรค์

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:35:17
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 20  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:35:57
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 21  

10. บทสวดฮุดฮุดแห่งอิฟูเกา  (The Hudhud Chants of the Ifugao)

ประเทศฟิลิปปินส์

ชาวอิฟูเกานอกจากจะมีชื่อเสียงด้านการทำนาขั้นบันไดแล้ว ยังมีบทสวดพื้นบ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอีกด้วยเรียกว่าบทสวดฮัดฮัด ประกอบด้วยบทสวดบรรยายมากกว่า 200 เรื่อง แต่ละเรื่องก็แยกย่อยลงไปอีกเรื่องละ 40 บท เรื่องราวจะเกี่ยวกับบรรพบุรุษ วีรบุรุษ กฎหมาย ศาสนา ความเชื่อ หลักปฎิบัติ การสวดจะกระทำโดยผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ระหว่าง ฤดูเพาะปลูก เก็บเกี่ยว งานศพและพิธีสำคัญต่างกว่าจะทำการสวดเสร็จก็กินเวลาหลายวัน  โดยจะสวดกันเป็นหมู่คณะคล้ายการร้แงประสานเสียง

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:37:07
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 22  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:38:39
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 23  

11. มหากาพย์ดาเรงเกนของชาวมารันเนาที่ทะเลสาบลาเนา (The Darangen Epic of the Maranao People of Lake Lanao)

ประเทศฟิลิปปินส์

มหากาพย์ดาเรนเกนเป็นมหากาพย์โบราณที่แสดงถึงความรู้ของชาวมาราเนา ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมหนึ่งในสามกลุ่มทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ มหากาพย์ประกอบไปด้วย 18 รอบด้วยจำนวนบรรทัดทั้งหมด 72,000 บรรทัด เล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และบรรพบุรุษ ผู้กล้า ตำนาน ซึ่งแฝงไปด้วยเนื้อหาของความรัก ความตาย การเมือง ผ่านการใช้สัญลักษณ์ การเปรียบเทียบและการประชดประชัน นอกจากนี้มหากาพย์ยังได้แสดงให้เห็นถึง ธรรมเนียมกฎหมาย บรรทัดฐานทางสังคม และชาติพันธุ์  ค่านิยมของท้องถิ่น  มหากาพย์มีปรากฎก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม ในยุคที่ภาษาสันสกฤษเป็นที่แพร่หลายในแถบนี้ การขับร้องมหากาพทำโดยผู้ที่ได้รับการฝึกมาพิเศษ ที่มีความเป็นเลิศในด้าความจำ การ้องสดและการให้ความบันเทิง ในงานแต่งงานซึ่งกินเวลาหลายคืน ซึ่งผู้แสดงจะต้องมีทักษะการร้องอย่างสูง

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:39:49
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 24  
วิด้โอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:40:41
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 25  
12. มหรสพมักยง  (Mak Yong Theatre)

ประเทศมาเซีย

ขอเรียกว่ามักยงก็แล้วกันนะครับ มักยงเป็นมหรสพโบราณของชาวมาเลย์ในรัฐกลันตันประเทศมาเซีย ซึ่งรวมศิลปะหลายอย่างเข้าด้วยกันทั้งการร้อง การแสดง ดนตรี  ท่าทางและเครื่องแต่งกายที่สวยงาม มักยงแสดงเพื่อความบันเทิง หรือพิธีกรรมเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามักยงเริ่มมีก่อนยุคศาสนาอิสลามจากการเป็นการแสดงในราชสำนัก ผู้แสดงส่วนมากเป็นผู้หญิง จะทำการขับร้องเล่าเรื่องในวรรณคดีโบราณเกี่ยวกับราชสำนักและเทพเจ้า และตลก ร่วมกับเครื่องดนตรีท้องถิ่น ประกอบด้วยกลอง ฆ้องและซอสามสายแบบมาเลย์

แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 53 10:20:04

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:41:35
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 26  
วิดีโอ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:42:47
  

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html
 
 
 
ความคิดเห็นที่ 27  

หมดแล้วครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 09:44:05
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 28  

หนังใหญ่ ก็เอามาจากเขมรหรือนี่ เพิ่งอ่านกระทู้เรื่องเขมรจากข้างล่างมา

เดี๋ยวเค้าจะเอาไปรวมใน clip นั้นไหมเนี่ย

จากคุณ: VET53
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 11:30:45
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 29  

รู้สึกว่า
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงคุณค่า
ตอนได้บริโภคงานศิลปะ และดนตรี

จากคุณ: labor_pu
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 11:53:29
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 30  

ขอบคุณครับ เสียดายที่ไม่มีของไทย

จากคุณ: ริเชลิว
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 15:43:34
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 31  

มหรสพหลวงของเขมร
ฮ่าๆๆๆ

พึ่งรู้ว่ามีมาเปนพันปี

ฟังแล้วก็เศร้าของเราไม่เห็นจะมี
ใึครจะว่าคลั่งชาติก็ช่าง

ผมว่ามหรสพหลวงเนี่ยพึ่งคิดชัดๆ

จากคุณ: antigen-U
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 17:06:06
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 32  

.........เอ แล้ว พม่าเอย ไทยเอย ไปไหนหมดน้อ

จากคุณ: LegalisM
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 17:58:26
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 33  

จริงๆโขนของไทยนี่ก็น่าจะเข้าข่าย ต้องโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงวัฒนธรรมแหละ ที่ไม่แอคทีฟเอง

จากคุณ: cybrarian
เขียนเมื่อ: 18 ม.ค. 53 18:24:59
  

 
 

อ้างอิง

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8778535/K8778535.html

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

สมุดภาพเหมืองแร่

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้29
mod_vvisit_counterเมื่อวาน5656
mod_vvisit_counterทั้งหมด11017519