Skip to content

Phuketdata

default color
Home arrow Search
มณติรัตน์ มณฑาสกุล:คติชนบ้านในควน PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
พฤหัสบดี, 08 ธันวาคม 2016

คติชนในหมู่บ้านในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

๑. มุขปาฐะ
๑.๓ คำพังเพย
๑.๓.๑ หมาเห่าเรือบิน หมายถึง พูดจาเกินฐานะ หรือทำอะไรไม่เจียมตัว (จิราวรรณ เทียนเต้ง๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๓.๒ อย่ามาทำดอใหญ่ หมายถึง ทำอวดตนว่ายิ่งใหญ่ (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๓ หมาหัวเน่า หมายถึง ไม่มีใครสนใจ (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๔ ตาเท่าไข่ห่าน หมายถึง อาการที่แสดงถึงความอยากได้มาก (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๕ ผอมเหมือนไม้เสียบผี หมายถึง ผอมมาก (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) ๑.๓.๖ สูงเหมือนเปรตเดือนสิบ หมายถึง สูงมาก (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๗ รักกันเหมือนติฉีกวานดม หมายถึง ยอมทำเพื่อความรักทุกอย่าง (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๘ หมาหวงก้าง หมายถึง หวงสิ่งที่ทิ้งไปแล้ว (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๓.๙ ไม่รู้จักหวันวันโน หมายถึง ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๓.๑๐ กินเหมือนผีอยู่ใน หมายถึง กินเยอะมาก (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๔ คำสาบาน
๑.๔.๑ ข้าพเจ้าขอสาบานหากผิดคำพูดขอให้มีอันเป็นไป (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๔.๒ ข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะปฏิบัติตนตามคำพูด (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๕ คำอธิษฐาน
๑.๕.๑ ขอให้ลูกพบเจอแต่สิ่งดีดีในชีวิตด้วยเทอญ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๕.๒ ขอให้อย่าให้มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนเลยสาธุ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๕.๓ ขอให้ชีวิตขอลูกมีแต่ความก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา ด้วยเทอญ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๕.๔ ขอให้ลูกมีการงานที่ดี มีชีวิตที่สุขสบายด้วยเทอญ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๕.๕ ขอให้มีความสุข ทั้งตัวเองและคนในครอบครัวด้วยเถอะสาธุ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๕.๖ ขอให้สมหวังในความรักและในทุก ๆ ด้านด้วยเทอญ (สุพัฒน์ สมัครพรหม ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๖ คำอวยพร
๑.๖.๑ แม่ขอให้ลูกมีความสุขในทุก ๆ เรื่องนะลูกนะ (ซุ้น เมียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๖.๒ ขอให้หลานของป้ามีแต่เงินทองไหลมาเทมานะ (ซุ้น เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๖.๓ ขอให้อย่ามีโรคภัยไข้เจ็บมารบร้าวนะลูกนะ (ซุ่น เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๖.๔ ขอให้สวยวันสวยคืน ใครเห็นใครรัก (ซุ้น เมียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๖.๕ ขอให้ลูกมีความเจริญในหน้าที่การงาน ตั้งใจทำงานนะลูกนะ (ซุ้น เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๗ คำอุทิศ
๑.๗.๑ ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายด้วยเทอญ (อุไร แก้วเกตุ
๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๗.๒ ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติมิตรและบรรพบุรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้วให้ได้รับส่วน ผลบุญด้วยเทอญ (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

ตำนาน
๑.๑๐.๑ ตำนานเกาะลิบง จ.ตรัง
นายลิบงนั้นเป็นลูกชายขอตายายคู่หนึ่งเมื่อนายลิบงเติบใหญ่ก้อได้เเต่งงานกับนางมุกเเละย้ายไปอยู่กินกันที่เมืองจีนต่อมา เขาทั้งสองรำรวยจึงกลับมาเมืองไทยเมื่อพ่อเเม่ทราบข่าวว่าเขาจะกลับมาเมืองไทยพ่อเเม่จึงปลูกต้นมะม่วงไว้ที่ริมชายหาด ปัดจุบันคือบ้านพระม่วงปลูกไว้รอลูกชายคนเดียวกลับมาเมื่อลูกชายกลับมาร่ำรวยที่เมืองไทยก้อลืมพ่อเเม่ ไม่ได้กลับมาหาพ่อเเม่เเต่อย่างได
พ่อเเม่จึง สาปแช่งว่า...หากลูกมิได้กลับมาหาตนขอให้เรือถูกพายุซัดเเละแล้ว เรือสำเภาลำงาม เเล่นเข้าสู่น่านน้ำไทยเเต่ฝนฟ้าไม่เป็นใจพายุซัดกระหนำเรือของเขาเเตกกระจายจนกลายมาเป็นเกาะลิบง เเละ เกาะมุก สองผัวเมียสิ่งของอย่างอื่น จึงกระจัดกระจายไปเป็นเกาะต่างๆ เช่นเกาะเชือก เกาะไห เกาะม้า เกาะเเหวน เกาะสุกร เกาะกระดาน (เกาะเภตรานี้มาจากใบเรือ) เป็นต้นเเละต้นมะม่วงน้นก้อได้กลายเป็นชื่อบ้านพระม่วง คือว่าต้นมะม่วงต้นนั้นส่วนที่ยื่นไปในฝั่งนั้นมีรสเปรี้ยว เพราะความเเค้น ส่วนที่อยู่ในฝั่งนั้นมีรสหวานมาก
(อุไร เเก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน )

๑.๑๓ เนื้อเพลงเปล
๑.๑๓.๑ น้ำชุบต้มจุ้ม
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ บ้านนี้ เหอ เขาเล่าเขาลือว่าหนุกนัก
ต้มจุ้มแมงลักน้ำชุบแกงเลียงส้มเหม้า กินหรอยเหลือหรอยพี่เณรเหอ
ทอโพรกทอรือค่อยมาเล่า น้ำชุบแกงเลียงส้มเหม้า
พี่เจ้าไม่เคย เห่อ เหอะ กิน พี่เจ้าไม่เคย เห่อ เหอะ กิน
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๒ นางงามลงเก็บข้าว
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ เดือนสาม เหอ นางงามจะลงเก็บข้าว
เก็บนาไหนเจ้า เก็บข้าวที่นาโคหา
แนะทางให้พี่ไป เห็นบ้านนายไกรอยู่สาขา
ตกแต่ต้นหว้า นั้นและหัวนา เห่อ เหอะ น้อง
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๓ เช้าพระยืนบาตร
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ เช้าๆ เหอ หุงข้าวพระมายืนบาตร
คดข้าวใสถาด คดทั้งข้าวบาตรข้าวบิน
กรวดน้ำพิษฐาน ให้ท่านสมภารได้กิน
คดทั้งข้าวบาตรข้าวบิน เชิญกิน พ่อทูล เห่อ เหอะ หัว
(อุไร แก้วเกตุฟ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๔ พ่อทองหลออย่าไปขอเมียไกล 
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ พ่อทองหลอเหอ อย่าขอเมียไกล
ขอแค่แค่หัวใด เรินต่อชายคา
อดหมากได้ยื่นหมาก อดยาได้ยื่นยา
เรินต่อชายคา ได้หมากได้ยาทองร้อย เห่อ เหอะ ชั่ง
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๕ กำเนิดนางโนรา
ฮาเฮ่อ เห่อเฮ่อ นางโนรา เหอ เดือนหกเจ้าพี่เอย เกิดช้างเกิดม้า
เมื่อเกิดนางโนรา เกิดภูเขาเงินภูเขาทอง
ผุดขึ้นล่องลอยสี่มุมประสาท แม่ตั้งใจปองให้ลูกอยู่ครองเมืองไกรลาศ
โนราศีสวาท คลาดแม่ไปเมือง เห่อ เหอะ ไกล
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๖ ชักใบถอยหลัง
ฮาเฮ่อ เห่อเฮ่อ เรือใหญ่ เหอ ชักใบถอยหลังน่าสังเวท
ยกมือขึ้นไหว้ท่านกาเกด น้ำเนตรลงมาสก ๆ
เอามือมาลูบอก หนิดจาตัวเอยเรามีกรรม
เหนือยเหอเหนือยนัก หยุดพักที่นางคูรำ
โนราตาดำ ทำบวงคล้องคอ เห่อ เหอะ น้อง
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๗ นกเขาเดินได้แต่เช้านั่งโยนกุก
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ นกเขา เหอ เตินได้แต่เช้านั่งโยนกุก
ตัวเดียวเกียวไม้พุก ขันถ่อล่อชายได้ทุกวัน 
วันนี้ไปไหนนางเนื้อเกลี้ยง ที่ไม่ได้ยินเสียงนกเขาขัน 
ขันถ้อล้อชายได้ทุกวัน ขันให้พี่ชายฟัง เหอ เหอะ เสียง 
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๘ นกจอกคาบดอกทองหลาง
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ นกจอก เหอ คาบดอกทองหลาง
ข้างเรินอีสีนาง โนรามาขออีเพ็งจันทร์
ขอเหนียวสักถ้วย น้ำเทะสักขัน
โนรามาขออีเพ็งจันทร์ เหนียวหมันมัน เห่อ เหอะ
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๓.๙ ขวัญเจ้านอนในเปลผ้า
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ น้องนอน เหอ เชิญขวัญเจ้านอนในเปลผ้า
เจ้านอนเสียเถิดนะกานดา ครั้นตื่นขึ้นมาได้เหวยนม
นอนเถิดแก้วแม่ ขวัญข้าวของแม่อย่าปราหรม
ตื่นขึ้นทรามชม เหวยนม พระมาร เห่อ เหอะ ดา
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๑๓.๑๐ ยามเย็นผันเห็นนกร่อน
ฮาเฮอ เห่อเฮ่อ ยามเย็น เหอ ผันเห็นนกร่อนบนคีรี
นกแขกเต้าเคล้าโค่กับปักสี เหมือนพี่กับน้องชวนกันเชย
เสียงลมหลาตันนั้นพัดกล้า สาลิกาบ้าแล้วแก้วอกเอย
เหมือนพี่กับนวลชวนกันเชย อกเอยเรามี เห่อ เหอะ กรรม
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๑๖ เนื้อเพลงประกอบการละเล่น
๑.๑๖.๑ บ้านทราย
บ้านทรายทองมีชั้นบน มีชั้นล่าง มีด้านหน้ามีด้านหลัง
มีพร้อม ๆ กันชักกะเป่ายิ้งฉุบ ชักกะเป่ายิ้งฉุบ
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๖.๒ หนูแดงแกงไก่
หนูแดงแกงไก่ใส่พริกไทย ร้อยเม็ดคุณย่าว่าเผ็ด
ใส่น้ำเยี่ยวครึ่งโหล หนูแดงโมโหชักกะเป่ายิ้งฉุบ
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๖.๓ มอญซ่อนผ้า
มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ใครนั่งไม่ระวังฉันจะตีก้นเธอ
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๖.๔ งูกินหาง 
แม่งูเอ่ยกินน้ำบ่อไหน กินน้ำบ่อหินบินไปก็บินมา
แม่งูเอ่ยกินน้ำบ่อไหน กินน้ำบ่อทรายย้ายไปก็ย้ายมา
แม่งูเอ่ยกินน้ำบ่อไหน กินน้ำบ่อโศกโยกไปก็โยกมา
แม่งูเอ่ยกินหัวหรือกินหาง กินกลางตลอดตัว
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๖.๕ รีรีข้าวสาร
รีรีข้าวสารสองทะนานข้าวเปลือก เด็กน้อยตาเหลือก 
เลือกท้องใบลานคดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๑๖.๖ จุ้มจี้จุ้มจวด
จุ้มจี้จุ้มจวดพาลูกไปบวช ถึงวัดถึงวาพอสึกออกมา 
ตุ๊กตาพุงป่องทำท่าไหว้ก็อง พุงป่องตาเหล่ทำท่าจับเข้เข้ขบไข่ขาด
ทำท่าไหว้สาดสาดพลัดใส่หัว ทำท่าท่าไหว้ผัวผัวฉัตรพลัดคลอง
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๒๓ ปริศนาคำทาย
๑.๒๓.๑ ไอไหร้เห้อต้นเท่านิ้วก้อยพระนั่งห้าร้อยไม่หัก
ตอบ ต้นดีปลี (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๓.๒ ไอไหร้เห้อต้นเท่าโพนลูกโหยนไปไกล
ตอบ ต้นยาง (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๓ ไอไหร้เห้อพระไอไหร้อยู่ปลายสุด
ตอบ พระยอด (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๔ ไอไหร้เห้อต้นเท่าครกลกดกรอบแขน 
ตอบ โพน (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๕ ไอไหร้เห้อต้นเท่าลำแขนเป็นลูกหนวยเดียว
ตอบ ลูกมาลิ (ลูกสับปะรด) (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๖ ไอไหร้เห้อมาแต่เมืองนอกยังดอกหาไหม้ใบ
ตอบ ดอกฝน เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๗ ไอไหร้เห้อตัวแดงหัวลานกินข้าวเช้าเที่ยงค่ำกินไม่ได้
ตอบ พระ (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๘ ไอไหร้เห้อเขียวเหมือนพระอินทร์ข้างในกินล้วมัน
ตอบ พร้าว (มะพร้าว) (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๙ ไอไหร้เห้อต้นเท่าหิดมีฤทธิ์เหลือเหตุ
ตอบ ดีปลี (พริกขี้หนู) (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๓.๑๐ ไอไหร้เห้อยักไอไหร้ไม่กินคน
ตอบ ยักคิ้ว (เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๑.๒๙ สำนวน
๑.๒๙.๑ กลองโนรากลองหนัง ดังกว่ากลองวัด 
หมายถึง สนใจความบันเทิงมากว่าสนใจธรรมะ (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๒ ขี้ไก่ไม่ให้หก ขี้นกไม่ให้หล่น
หมายถึง แสดงความรอบคอบ รู้จักเก็บเล็กผสมน้อย (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๓ คนมาทีหลัง กินดังเหนียว หรือ คนมาหล้า กินลูกหว้าแก่
หมายถึง คนทำงานล่าช้าย่อมเสียเปรียบผู้อื่น (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๔ ข้ามก็ไม่รอด ลอดก็ไม่พ้น
หมายถึง จะข้ามก็ไม่ได้ จะลอด (หนี) ก็ลอดไม่ได้ หมายถึง มนุษย์หลีกไม่พ้นเกิดแก่เจ็บตาย หรือไม่พ้นเคราะห์กรรมที่ตามมา(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๑.๒๙.๕ ขวัญข้าวเท่าหัวเรือ ขวัญเกลือเท่าหัวช้าง 
หมายถึง การรู้จักบุญคุณของสิ่งที่ให้คุณแก่ชีวิตเรา ดังเช่นข้าวและเกลือ (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๖ ชื่อได้ข้า หน้าได้พี่เณร
หมายถึง การทำงานบางครั้งความเหนื่อยเป็นของผู้ทำ แต่การได้หน้าหรือได้เกียรติเป็นของผู้อื่น 
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๘.๗ ตื่นสายให้สร้างสวนพร้าว ตื่นเช้าให้สร้างสวนยาง
หมายถึง การประกอบอาชีพให้เหมาะสมกับอุปนิสัย ( อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๘ ถือฆ้องให้เพื่อนตี ตรันวานหมีให้เพื่อนเล่น
หมายถึง ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น แต่ตัวเองต้องเหน็ดเหนื่อย บางครั้งถึงกับเสี่ยงภัย (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๙ น้ำเต้าล่ามา ขี้พร้าล่าไป
หมายถึง การช่วยเหลือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน หรืออาจหมายถึงบุคคลเฉื่อยชา ล่าช้า ทำงาน ด้วยกัน (อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) 
๑.๒๙.๑๐ ข้างในไฟคลอก ข้างนอกวันทอ 
หมายถึง เก็บความโกรธไว้มิให้ผู้อื่นรู้
(อุไร แก้วเกตุ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

อมุขปาฐะ

๒.๕ ความเชื่อ
๒.๕.๑ ห้ามไปงานศพเวลาเรากำลังเป็นแผล
ความเชื่อนี้คนเฒ่าคนแก่ถือกันมาก เพราะว่างานศพเป็นงานอวมงคล เกี่ยวกับคนตาย วิญญาณ ดังนั้นหากใครเป็นแผลสดหรือแผลเปื่อย ไม่ควรไปร่วมงานศพ เพราะจะทำให้แผลเปื่อยมากขึ้น หรือเป็นแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๒ ห้ามชวนใครกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ
สมัยก่อนมีแต่ป่า ภูติผีปีศาสแรง หลอกหลอนคนได้แม้กระทั่งกลางวัน และคนสมัยก่อนก็มักไปไหน มาไหนโดยการเดิน ผ่านป่าบ้าง ผ่านวัดบ้าง ผ่านป่าช้าบ้าง เวลาจะชวนใครไปบ้านระหว่างทางก็จะ เอ่ยชื่อด้วย เพราะหากเผลอชวนแบบดื้อๆก็อาจจะมีสิทธิ์ได้คนที่ไม่รู้จักไปแทน (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๓ เวลาเข้าป่าอย่าพูดถึงสิงสาราสัตว์ เวลากลางคืนไม่ควรพูดถึงเรื่องวิญญาณ
ความเชื่อเรื่องนี้หลายคนคงทราบดีแล้ว และมันก็ควรเป็นเช่นนั้น เช่น เวลาเดินป่า เราไม่ควรพูดถึง สัตว์ที่น่ากลัว เช่น เสือ งู หากลงน้ำก็อย่าพูดถึงพราย หรือจระเข้ เป็นต้น เพราะมันจะมาให้เราเจอ เลยทีเดียว เช่น เดียวกับเวลากลางคืนอย่าพูดถึงเรื่องผีหรือวิญญาณ (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๔ ห้ามนอนขวางทางเดิน
ความเชื่อนี้ยังขลังมาถึงบัดนี้ คำว่าอย่านอนขวางทางนั้น หมายความว่า ตรงไหนที่เป็นทางสัญจรไม่ ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เราไม่ควรไปนอนขวางทาง บางคนเป็นหลับง่ายต้องระวังให้ดี เช่น นอน ขวางทางเข้าบ้าน เข้าร้าน เป็นต้น คุณอาจจะต้องเจอกับอาการที่เค้าเรียกกันว่า “ผีอำ” คำนี้ไม่ได้ แปลว่าโดนสิงสู่ แต่แปลว่าโดนเหยียบโดนทับ เนื่องจากวิญญาณจะสัญจรผ่านทางดังกล่าว 
(จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๕ อย่าเล่นซ่อนแอบเวลากลางคืน
ความเชื่อนี้เป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือเสียจริง เพราะเวลากลางคืน เป็นเวลาที่สิ่งลึกลับออกมาเผ่นพ่าน เวลาเราเล่นซ่อนแอบกัน บางทีเราอาจจะต้องเจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาร่วมเล่นด้วย อีก ประการคือกลางคืนมันมีตะขอตะขาบ งู สัตว์มีพิษทั้งหลาย หรือแม้แต่หนาม ตะปู กระเบื้อง เราไม่ เห็นแล้วไปเหยียบเข้า อาจจะได้รับอันตรายได้
(จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๖ อย่านอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก และอย่านอนเอามือทั้งสองกุมหน้าอก
ความเชื่อนี้มีคนเชื่อมากมาย เนื่องจากคนเป็นควรจะนอนหันหัวไปทางทิศไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ทิศ ตะวันตก เพราะทิศตะวันตกนั้นเป็นทิศที่เค้าหันหัวศพคนตายไปหา ดังนั้นเรายังมีชีวิตอยู่ ก็อย่าไป นอนแบบคนตาย อีกนัยหนึ่งคือมันไม่เป็นสิริมงคลกับชีวิตนั่นเอง(จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๗ หลังจากกลับงานศพ หรือ กลับจากเดินทางไกล ให้ล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน
ความเชื่อนี้มีมานานแล้ว โดยคนสมัยก่อนเวลากลับจากไปไหนมาไหน เค้ามักล้างมือล้างเท้าก่อน ขึ้นเรือน เพื่อเป็นการชำระสิ่งสกปรกที่ติดตัวมา อีกนัยหนึ่งคือชำระสิ่งไม่ดีที่ติดตัวมาด้วย เนื่องจาก มันมากับตัวเรา เข้าสู่บริเวณบ้านของเราโดยเจ้าที่เจ้าทางในบ้านมิได้ขัดขวาง หากเราลืมล้างเท้า สิ่งเหล่าไม่ดีเหล่านั้นก็จะเข้าบ้านเราไปด้วย (จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)
๒.๕.๘ วันสำคัญของเรา จงอย่าออกไปไหน
เราคงเคยได้ยินข่าวการเสียชีวิตของคนบางจำพวก เช่น นาคที่จะบวชเป็นพระเสียชีวิตก่อนได้บวช เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเสียชีวิตก่อนได้แต่งงาน นักศึกษาเสียชีวิตก่อนได้รับปริญญา เป็นต้น บางครั้ง ไม่ได้เสียชีวิตหรอก แต่ก็เป็นเหตุให้งานสำคัญๆของเราต้องหยุดไปหรือเสียหายไป
(จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๒.๒๐ อาหาร
๒.๒๐.๑ คั่วกลิ้งผัดลูกตอ
ส่วนผสม คั่วกลิ้งหมูผัดลูกตอ
ลูกตอ (แกะเป็นเม็ด)
หมูเนื้อแดงสับ
น้ำชุปคั่วกลิ้ง
เคย
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา 
น้ำมันพืช
ใบกรูดซอย
พริกไทยอ่อน 
๑. เอาน้ำชุปคั่วกลิ้งกับเคยให้พอเข้ากัน เตรียมไว้
๒. ใส่น้ำมันพืชลงในทะ พอร้อนใส่เนื้อหมูสับลงไปผัดจนเกือบสุก
๓. จากนั้นเอาน้ำชุปคั่วกลิ้งลงไปผัดกับหมูสับพอสุก ตามด้วยลูกตอ คั่วให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา คั่วให้เข้ากัน
๔. ปิดไฟ ใส่พริกไทยอ่อนและใบกรูดซอยลงไปผให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับผักสดตามชอบ 
(เพียร ทองเหมือน ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๒.๒๐.๒ แกงส้มหน่อไม้ดองกับปลาอินทรี
ส่วนผสม แกงส้มหน่อไม้ดองกับปลาอินทรี
หน่อไม้ดอง
ปลาอินทรี
เครื่องแกงส้ม
น้ำลูกขาม
น้ำตาลปี๊บ/เกลือ/น้ำปลา
น้ำเปล่า

๑. ล้างหน่อไม้ดองหลายๆน้ำให้สะอาดขวานเป็นท่อน
๒. ต้มน้ำพอเริ่มเดือดใส่พริกแกงลงไปละลายให้ทั่ว
๓. ใส่หน่อไม้ดองลงไปต้มประมาณ ๑๐ นาทีหรือจนกว่าหน่อไม้นุ่มลง
๔. ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลปี๊บ/น้ำปลา/ น้ำลูกขามเปียกชิมรสชาติตามชอบ
๕. เมื่อน้ำแกงเดือด ใส่ปลาลงไป ทิ้งไว้จนปลาสุก 
(จิราวรรณ เทียนเต้ง ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

๒.๒๐.๓ แกงคั่วหมู
ส่วนผสม แกงคั่วหมู
เนื้อหมูติดมัน 
เครื่องแกงเผ็ด
กะปิ 
กระเทียม
ข่า
ใบกรูด 
เกลือ
แป้งหวาน
น้ำเปล่า

วิธีทำ
๑.เอาเนื้อหมูติดมันมาขวานเป็นเก็ด
๒. นำเครื่องแกงเผ็ดกับเคยมารวมกันใส่น้ำเปล่าลงไป เพื่อให้เครื่องแกงกับเคยผสมเข้ากันง่ายขึ้น
๓. นำทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมบุบ เมื่อน้ำเริ่มเดือดจึงใส่เนื้อหมูที่หมักไว้ลงไปกวนจนสุก 
๔. เนื้อหมูเริ่มสุกแล้วจึงใส่ข่าลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นก็ปรุงรสด้วยแป้งและเกลือ เสร็จแล้วนำใบกรูดมาฉีกใส่ลงไป
(สอิ้ง สิงค์อินทร์ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙)

นามานุกรม
จิราวรรณ เทียนเต้ง เกิดเมื่อ วันพุธ ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๘ เพศหญิง ที่อยู่ ๕๕/๒หมู่ ๔
ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ๙๑๑๔๐เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๒-๘๐๑๒๘๑๑ให้ข้อมูลนางสาว มณติรัตน์ มณฑาสกุล เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

ซุ้น เทียนเต้งเกิดเมื่อ วันพุธ ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๐๐ อายุ ๕๐ ปี เพศชาย ที่อยู่ ๑๘ หมู่ ๕ 
ต.พรุโต้ะปุก อ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๖-๔๔๕๗๙๐๒ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุล เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

สุพัฒน์ สมัครพรหม เกิดเมื่อ วันพุธ ที่ ตุลาคมอายุ ๕๕ ปี เพศชาย ที่อยู่ ๔๙/๓ หมู่ ๕ ต.ในควนอ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๖๒ – ๓๔๖๑๘๔๐ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุลเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

อุไร แก้วเกตุ เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๑๖ อายุ ๔๓ ปี เพศหญิงที่อยู่ ๔๙/๓ หมู่ ๕ ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๖๒ – ๓๔๖๑๘๔๐ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุลเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

เพียร ทองเหมือน เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒ อายุ ๕๕ ปี เพศหญิง ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หมู่ ๕ ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๖๕- ๗๖๕๔๓๒๑ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุล เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

สมยศ แก้วเกตุ เกิดเมื่อ วันอังคาร ที่ ๑๔ พฤศจิกายน อายุ ๓๙ ปี เพศชายที่อยู่ ๓ หมู่ ๕ ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ. ตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๙ – ๕๖๗๕๕๖ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุลเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

สอิ้ง สิงค์อินทร์ เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๐๓ อายุ ๕๔ ปี เพศหญิง ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๓-๖๘๗๗๑๗๒ ให้ข้อมูลนางสาวมณติรัตน์ มณฑาสกุล เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

คติชน :คติชนวิทยา 

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

สมุดภาพเหมืองแร่

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้1119
mod_vvisit_counterเมื่อวาน3893
mod_vvisit_counterทั้งหมด11012953