ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่านำพาชาติให้ยั่งยืน: ยุวเรศ แก่นไกร |
![]() |
![]() |
![]() |
เขียนโดย ยุวเรศ แก่นไกร | |
พุธ, 02 กันยายน 2015 | |
ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นำพาชาติให้ยั่งยืน เรียนคณะกรรมการ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิฉันนางสาวยุวเรศ แก่นไกร นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เข้าร่วมประกวดสุนทรพจน์ หัวข้อ“ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นำพาชาติให้ยั่งยืน” การมีชีวิตและดำรงอยู่ของมนุษย์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อม ทั้งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้จะคอยเกื้อหนุนให้ชีวิตของมนุษย์ดำรงอยู่ได้ แต่ในปัจจุบันประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพราะการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ แต่ไม่ได้มีการวางแผนการจัดการที่เหมาะสมรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่มีสภาพเสื่อมโทรมลง และปัญหาต่าง ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มขึ้น ทำให้ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและระบบนิเวศ โดยเฉพาะความแปรปรวนของสภาพอากาศ ภาวะน้ำท่วม โคลนถล่ม ฝนตกหนักในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นผลจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทรงให้มีการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิธีทำนุบำรุงและปรับปรุงสภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ โดยในด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ทรงเน้นงานการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของปัญหาน้ำเน่าเสีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในการปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว เช่น บึงและหนอง ต่าง ๆ เพื่อทำเป็นแหล่งบำบัดน้ำเสีย โดยหนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โครงการบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีหลักบำบัดน้ำเสีย ตามแนวทฤษฎีการพัฒนาโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา โดยพระราชกรณียกิจเหล่านี้เกิดขึ้นจากพระปรีชาสามารถในการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบนิเวศและสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกร อันจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรของชาติให้ยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระวิริยะ อุตสาหะ ในเรื่องวิธีการบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะมูลฝอยและการรักษาสภาพป่าชายเลนด้วยวิธีธรรมชาติ และตามแนวทางทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ซึ่งเป็นรูปแบบสิ่งประดิษฐ์ที่เรียบง่าย ประหยัด เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ที่เกิดจากแหล่งชุมชนและแหล่งอุตสาหกกรม และได้มีการนำไปใช้งานทั่วประเทศ ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณในด้านการพัฒนาการเกษตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ในฐานะที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอุทิศพระองค์ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะผู้ซึ่งประกอบอาชีพเพาะปลูก บำรุงรักษาน้ำ และบำรุงรักษาป่า ซึ่งทรงยึดหลัก “สนับสนุนการพัฒนาแบบยั่งยืนเพื่อความมั่นคงในอนาคต” เป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้ประจักษ์ชัดเจนจากความสำเร็จในด้านการพัฒนา โดยองค์การฯ สดุดีพระองค์ว่า ทรงปรีชาสามารถเกี่ยวกับความยุติธรรมของสังคม จึงนับเป็นบุญของพสกนิกรชาวไทยยิ่งแท้ ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณอันประเสริฐ และมีน้ำพระทัยเหลือล้นต่อปวงชนชาวไทย พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ล้วนก่อเกิดคุณอเนกอนันต์ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข และยั่งยืน จึงเป็นสมควรยิ่งที่พสกนิกรชาวไทยจะได้ดำเนินตามรอยพระยุคลบาท น้อมนำพระราชดำริไปปรับใช้ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นำพาชาติให้ยั่งยืน ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยทุกคน
ผลงาน *** การศึกษาและวรรณกรรม วรรณกรรม |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|