บทสรุปงานวิจัยชั้นเรียน |
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ. | |
อังคาร, 23 เมษายน 2013 | |
บทสรุปงานวิจัยชั้นเรียน ชื่องานวิจัยชั้นเรียนเรื่อง การศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) : กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผู้ทำวิจัย นางจุฬารัตน์ เสงี่ยม การศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) : กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผู้วิจัยได้กำหนดประเด็นของการศึกษา คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 หลังใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียน ผลการศึกษาสามารถสรุป อภิปรายผล และมีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้ สรุป วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) ของนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 วิธีการศึกษาค้นคว้า “การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) : กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต” ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและศึกษาวิจัยตามขั้นตอน ดังนี้ 1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2. กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้จะเก็บข้อมูลจากนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร และทำใบงานสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) จำนวน 8 เรื่อง จากทั้งหมด 10 เรื่อง คิดเป็น ร้อยละ 80 จำนวน 37 คน 3. สร้างใบงานให้สรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) จำนวน 10 เรื่อง 4. ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียนแบบเลือกตอบ 100 ข้อ 5. หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท และให้นักศึกษาทำ ใบงาน คือสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) มาส่งในคาบเรียนหน้า 6. ให้นักศึกษาส่งใบงาน คือสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) ตามที่ได้รับมอบหมายแต่ละครั้ง จากบทที่ 1 - 4 จะได้ใบงานคนละ 5 เรื่อง 7. ให้นักศึกษาทำข้อสอบกลางภาคเรียน 80 ข้อ ตรวจผลงาน วิเคราะห์ข้อมูล โดยนำข้อมูลมาตรวจเพื่อวิเคราะห์หาค่าร้อยละเองไม่ใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ โดยกำหนดเกณฑ์การผ่านการประเมินร้อยละ 50 ของจำนวนข้อสอบ 8. หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท และให้นักศึกษาทำ ใบงาน คือสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) มาส่งในคาบเรียนหน้า 9. ให้นักศึกษาส่งใบงาน คือสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) ตามที่ได้รับมอบหมายแต่ละครั้ง จากบทที่ 5 - 8 จะได้ใบงานคนละ 5 เรื่อง 10. ให้นักศึกษาทำข้อสอบปลายภาคเรียน 90 ข้อ ตรวจผลงาน วิเคราะห์ข้อมูล โดยนำข้อมูลมาตรวจเพื่อวิเคราะห์หาค่าร้อยละเองไม่ใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ โดยกำหนดเกณฑ์การผ่านการประเมินร้อยละ 50 ของจำนวนข้อสอบ 11. นำผลการทำข้อสอบกลางภาคเรียน 80 ข้อ และข้อสอบปลายภาคเรียน 90 ข้อ มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยเปรียบเทียบกับผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน 9. เสนอผลการวิจัยในรูปของตารางประกอบคำอธิบาย 10. สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ สรุปผล กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้จะเก็บข้อมูลจากนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เฉพาะที่ทำใบงานสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) จำนวน 8 เรื่อง จากทั้งหมด 10 เรื่อง คิดเป็น ร้อยละ 80 จากประชากรทั้งหมด จำนวน 43 คน มีผู้ส่งใบงานผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 80 จำนวน 37 คน คิดเป็น ร้อยละ 86.04 และ มีผู้ส่งใบงานไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 80 จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 ผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร แบบเลือกตอบ จำนวน 100 ข้อ พบว่า มีผู้ทำแบบทดสอบก่อนเรียนผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 21 คน คิดเป็น ร้อยละ 56.75 และ มีผู้ทำแบบทดสอบก่อนเรียนไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 16 คน คิดเป็น ร้อยละ 43.24 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) : กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ปรากฏผลดังนี้ ผลจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท จากบทที่ 1 - 4 พบว่า ผลการทำข้อสอบกลางภาคเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารแบบเลือกตอบ จำนวน 80 ข้อ จะเห็นได้ว่านักศึกษาทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 ทั้งหมด จำนวน 37 คน คิดเป็น ร้อยละ 100 ผลจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท จากบทที่ 5 - 8 พบว่า ผลการทำข้อสอบปลายภาคเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารแบบเลือกตอบ จำนวน 90 ข้อ จะเห็นได้ว่านักศึกษาทำข้อสอบปลายภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 28 คน คิดเป็น ร้อยละ 75.67 มีนักศึกษาทำข้อสอบปลายภาคเรียนไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 24.32 ผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร แบบเลือกตอบ จำนวน 100 ข้อ เปรียบเทียบกับผลการทำข้อสอบกลางภาคเรียน 80 ข้อ และข้อสอบปลายภาคเรียน 90 ข้อปรากฏผลดังนี้ นักศึกษาที่ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ไม่ผ่านตามเกณฑ์ สามารถทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ และทำข้อสอบปลายภาคเรียน ไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 8 คน คิดเป็น ร้อยละ 21.62 นักศึกษาที่ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ไม่ผ่านตามเกณฑ์ สามารถทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ และสามารถทำข้อสอบปลายภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 8 คน คิดเป็น ร้อยละ 21.62 นักศึกษาที่ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านตามเกณฑ์ สามารถทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ และสามารถทำข้อสอบปลายภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 20 คน คิดเป็น ร้อยละ 54.05 นักศึกษาที่ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านตามเกณฑ์ สามารถทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ และทำข้อสอบปลายภาคเรียน ไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 1 คน คิดเป็น ร้อยละ 2.70 อภิปรายผล จากการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) : กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คศ.542 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่ทำใบงานสรุปบทเรียนแต่ละบทโดยใช้วิธีแผนที่ความคิด (Mind Mapping) จำนวน 8 เรื่อง จำนวน 37 คน จากประชากรทั้งหมด 43 คน ผลการศึกษาพบว่าหลังจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท จากบทที่ 1 - 4 พบว่า ผลการทำข้อสอบกลางภาคเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารแบบเลือกตอบ จำนวน 80 ข้อ จะเห็นได้ว่านักศึกษาทำข้อสอบกลางภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 ทั้งหมด จำนวน 37 คน คิดเป็น ร้อยละ 100 แสดงให้เห็นว่าหลังเรียนและหลังจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียน นักศึกษาร้อยละ 100 มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ผลจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท จากบทที่ 1 - 8 พบว่า ผลการทำข้อสอบปลายภาคเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารแบบเลือกตอบ จำนวน 90 ข้อ จะเห็นได้ว่านักศึกษาทำข้อสอบปลายภาคเรียน ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 28 คน คิดเป็น ร้อยละ 75.67 มีนักศึกษาทำข้อสอบปลายภาคเรียนไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 24.32 แสดงให้เห็นว่าหลังเรียนและหลังจากการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียน นักศึกษาร้อยละ 75.67 มีพัฒนาการที่ดีขึ้น แม้จะไม่ผ่านเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ทั้งหมดก็ตาม หากพิจารณาการพัฒนาการหลังการเรียนของนักศึกษาจะพบว่าส่วนใหญ่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักศึกษาได้มีการสรุปประเด็นสำคัญในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างสั้น กะทัดรัด ได้ใจความ และได้วาดออกมาเป็นแผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียน ส่วนนักศึกษาที่ทำข้อสอบปลายภาคเรียนไม่ผ่านตามเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 24.32 ทั้งนี้เป็นเพราะนักศึกษาเหล่านี้มีพฤติกรรมการขาดเรียนหลายครั้ง ทำให้มีเวลาไม่เพียงพอกับการเรียน อีกทั้งส่งใบงานตามที่ได้รับมอบหมายช้ากว่ากำหนด ดังนั้นครูผู้สอนจึงนัดส่งใบงานช้ากว่ากลุ่มตัวอย่างคนอื่น 1 สัปดาห์ และให้เพื่อน ๆ ช่วยกันแนะนำบทเรียนอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้นักศึกษาเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทั้งหมด นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละเรื่องหรือแต่ละบท พบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ชอบใบงานการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) สรุปบทเรียน เพราะไม่น่าเบื่อ ทั้งยังได้ฝึกจับใจความและสรุปความจากการอ่านด้วย ข้อเสนอแนะ 1. ครูผู้สอนควรมีการประเมินคุณลักษณะของตนในแต่ละด้านอยู่เสมอตามทัศนะของนักศึกษา เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุง พัฒนาตนเองให้เป็นครูที่มีบุคลิกภาพและเกิดประสิทธิภาพในการสอนมากยิ่งขึ้น 2. ครูควรพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ผู้เรียนได้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบ เช่น การเล่นเกม บทบาทสมมติ การระดมสมอง และการใช้แผนที่ความคิด (Mind Mapping) |
|
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( อังคาร, 23 เมษายน 2013 ) |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|