Skip to content

Phuketdata

default color
Home arrow News arrow ภูเก็จศึกษา arrow วาตภัยที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จ.นครศรีฯ
วาตภัยที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จ.นครศรีฯ PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย พรพรรณ ลีลาพันธ์   
พฤหัสบดี, 12 พฤศจิกายน 2015

วาตภัยที่แหลมตะลุมพุก

          เหตุการณ์มหาวาตภัยครั้งนั้นระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งเกิดลมพายุโซนร้อนเป็นพายุหมุนพัดเข้าเต็มพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีความเร็วประมาณ ๙๐ กม.ต่อชั่วโมง ทั้งแรงลมที่พัดใส่อาคารบ้านเรือนโยกคลอน หลังคาหลุดปลิวและลอยทั่วไปทั้งจังหวัด แล้วแรงคลื่นยักษ์ ซึ่งสูงกว่า ๒-๓ เมตร ยังโถมพัดเข้าใส่แหลมตะลุมพุกจนหมู่บ้านขนาดประชากร ๔,๐๐๐ คนราบเรียบเหลืออยู่เพียง ๕ หลังเท่านั้น พายุโซนร้อนแฮเรียตเริ่มพัดเข้าใส่จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๐๕ ตั้งแต่ยังเป็น ดีเปรสชั่นจนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในบ่ายวันที่ ๒๕ ตุลาคมนั้น ประมาณ ๑๖.๐๐ น. ทางขอบฟ้าตะวันออกและทิศใต้ ก็พลันมืดคลุ้มเหมือนอย่างผืนม่านกั้นแล้วเกิดเป็นสายๆ หลายสายแบบลมงวงช้างหรือลมป่องหรือลมหางหนู แต่ครั้งนี้มีเกิดหลายสายอย่างไม่เคยมีมาก่อน จากนั้นฝนคงตกหนักต่อไปจนค่ำเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. ก็เกิดมีลมพัดแรง จากทางทิศเหนือ บ้านหลายหลังเริ่มพังในขณะที่ทางทิศเหนือนั้นปรากฎเป็นเสียงดังลั่น เห็นแสงสว่างจ้าและน้ำก็ไหลเชี่ยวกรากเป็นฟองแตกพุ่งเข้าใส่แหลมตะลุมพุก แม้ที่ปากพนังน้ำในแม่น้ำก็ล้นท่วมเมืองเช่นกัน ลม ฝนและน้ำคลื่นยักษ์จากทาง ทิศเหนือนี้พัดกระหน่ำอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมงแล้วสงบลงโดยผู้คนเกิดสับสนอลหม่าน บ้านพังบ้างแล้ว ที่เจ็บตายก็ช่วยเหลือกันไป ที่ยังรอดอยู่ต่างก็อพยพไปอยู่บ้านหลังที่ใหญ่มั่นคงแข็งแรงกว่า บางหลังอยู่กันเป็นร้อยคนเฉพาะที่โรงพระจีน นั้นอยู่กันถึง ๓๐๐ คน แต่ลมพายุสงบเพียง ๕ นาทีเท่านั้น น้ำที่ท่วมอยู่ประมาณ ๒-๓ เมตร ลดลงเพียง ๑ คืบ ก็บังเกิดลมจากทางทิศใต้พัดหวีดหวือเข้ามาใหม่ คราวนี้ทั้งแรงกว่าและระดับคลื่นก็สูงกว่าบ้านที่ถูกทิ้งโยกไว้นั้นพังในพริบตาขณะที่บ้านหลังมั่นคง จุดอพยพของคนนับร้อยๆ ค่อยๆ ถูกน้ำท่วมท้นจนมิด หรือไม่ก็หลุดลอยย้ายตำแหน่ง แตกรานกระทั่งไปกระทบต้นไม้ หลายหลังถูกคลื่นซัดพาลงไปกลางทะเล โดยทุกหลังล้วนแต่มีผู้คนแออัดยัดเยียดติดไปด้วย จากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตจากบางหลังๆ ละเพียง ๒-๓  ชีวิต เล่าว่าต่างกระเสือกกระสนดิ้นรนไม่ผิดกับแมวที่ถูกจับใส่กล่องโยน น้ำ ระลอกหลังนี้พายุพัดอยู่อีก ๑ ชั่วโมง จึงสงบพร้อมกับระดับน้ำที่ลดลงทิ้งซากผู้คนสิ่งของที่ลอยไว้ตามยอดมะพร้าวและป่าแสม รวมทั้งผู้ที่รอดชีวิตทั้งหลายด้วยส่วนบนพื้นนั้น ซากศพ อาคารบ้านเรือนสิ่งของต่าง ๆ ระเกะระกะไปทั่ว

        มหาวาตภัยที่แหลมตะลุมพุกคราวนั้น มีคนตายและสูญหายถึง ๑,๐๓๐ คน บาดเจ็บสาหัส ๔๒๒ คน ไร้ที่อยู่อาศัย ๑๖,๑๗๐ คน อาคารบ้านเรือนทั่วทั้งจังหวัดพังทั้งหลัง ๒๒,๒๙๖ หลัง ชำรุด ๕๐,๗๗๕ หลัง สวนยางสวนผลไม้เสียหายประมาณ ๗๙๑ ล้านต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระบรมราชานุเคราะห์ผู้ประสบวาตภัยในครั้งนี้หลาย ๆ ประการ รวมทั้งการก่อกำเนิดของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ก็เกิดขึ้นในครั้งนี้เช่นกัน

อ่านต่อได้ที่http://www.tungsong.com/NakhonSri/Nakhon_slogan/History/history_nakhon3.html

 ***

คติชนวิทยาการศึกษา 

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

News

สมุดภาพเหมืองแร่

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้870
mod_vvisit_counterเมื่อวาน2037
mod_vvisit_counterทั้งหมด11027440