Skip to content

Phuketdata

default color
Home
มรดกโลกในจีน ตอน ๒ PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ.   
จันทร์, 03 พฤษภาคม 2010

(ต่อจากมรดกโลกในจีน)

ความคิดเห็นที่ 11  
9. ภูมิทัศน์แห่งหุบเขาจิ่วจ้ายโกวและพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ Jiuzhaigou Valley Scenic and Historic Interest Area

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1992
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  7

‘จิ่วไจ้โกว’  (九寨溝)   ในภาษาจีนหมายถึง แควเก้าหมู่บ้าน (คำว่า จิ่ว = เก้า, ไจ้ = หมู่บ้าน, โกว = แควหรือธารน้ำ) โดยมีที่มาจากชนชาติทิเบต 9 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่ริมธารน้ำบริเวณนี้มาแต่เดิม จิ่วไจ้โกวได้รับการเรียกขานจากชนเผ่าทิเบตว่าเป็น ‘ขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์’ ดังนั้นสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขุนเขา ป่าไม้ ลำน้ำ หรือหินทุกก้อนล้วนได้รับการเคารพจากชนเผ่าพื้นเมืองทิเบต ปัจจุบันผืนป่าโบราณอันอุดมแห่งนี้จึงยังคงได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี

อุทยานจิ่วไจ้โกวตั้งอยู่ในอำเภอหนันผิงเขตปกครองตนเองของเผ่าเชียงชนชาติทิเบตทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวนหรือเสฉวน ภาคตะวันตกของจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 720 ตารางกิโลเมตร ท่ามกลางหุบเขาที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปมา โตรกธารลดเลี้ยวผ่านผาสูงและน้ำตกขนาดใหญ่ ก่อเกิดเป็นทิวทัศน์อันตระการตาโดดเด่นด้วยสีสันของภาพภูมิทัศน์โดยรอบ ความงามประหลาดของน้ำในจิ่วไจ้โกวนั้น มีสาเหตุจากการที่แหล่งน้ำในบริเวณนี้มีการสะสมของธาตุแคลเซี่ยมเจือปนอยู่ในปริมาณสูง อีกทั้งโดยมากเกิดกับพืชซึ่งจมอยู่ใต้ท้องน้ำ ทำให้ทะเลสาบและธารน้ำของที่นี่มีสีสันสดใสงดงามมแปลกตา

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:31:15

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:05:08
ถูกใจ: ใส่พริกเม็ดเดียว, =Lord Gary=, ที่จริงแล้วเป็นเทวดา, @ - ENYA - @, Ray_R, ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา, เจ้าหญิงแห่งMK, dolphin_moo, Disorder, ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก, สายลับจับชู้, NinetyFive, ไชโย...โลกนี้ยังดีอยู่, m_stay22

 
 
ความคิดเห็นที่ 12  
10. ภูมิทัศน์แห่งอู่หลิงหยวนและพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ  Wulingyuan Scenic and Historic Interest Area

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1992
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  7

เขตทิวทัศน์ธรรมชาติอู่หลิงหยวน (武陵源)  อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างสวนป่าจางเจียเจี้ยในเมืองจางเจียเจี้ย เขตอนุรักษ์ธรรมชาติหุบเขาสั่วซี ในอำเภอฉือลี่ และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติเขาเทียนจื่อซัน ในอำเภอซางจื๋อ รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 500 ตารางกิโลเมตร และล่าสุดเมื่อมีการค้นพบเขตทิวทัศน์แหล่งใหม่ ‘หยางเจียเจี้ย’ ยังได้จัดรวมเข้าไว้ในกลุ่มทิวทัศน์ธรรมชาติเหล่านี้ด้วย ทัศนียภาพแปลกตาที่สุด ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขตทิวทัศน์ธรรมชาติอู่หลิงหยวน คือหมู่เสาหินและยอดเขาหินทรายแหลมเล็กสูง 200 เมตรขึ้นไป ตั้งตระหง่านสลับซับซ้อน แผ่กระจายดั่งท้องทุ่งเสาหินกว้างไกลสุดสายตา ทางตอนเหนือของเมืองจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนัน      

ท่ามกลางดงยอดเขายังมีลำธารน้ำเซาะ สายน้ำตก สระน้ำซุกซ่อนอยู่เบื้องล่าง กอปรกับหุบเขาและชะโงกผาที่วางตัวสลับกันไปมา ก่อเกิดถ้ำหินกว่า 40 แห่ง และสะพานหินธรรมชาติขนาดใหญ่อีก 2 สะพาน ลึกลงไปในทัศนียภาพที่แปลกตาน่ามหัศจรรย์เหล่านี้ เขตทิวทัศน์ฯอู่หลิงหยวนยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ที่น่าสนใจอีกด้วย

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:32:26

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:05:40
ถูกใจ: สายลับจับชู้

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 13  
11. หมู่โบราณสถานบนเทือกเขาอู่ตัง (บู๊ตึ๋ง) Ancient Building Complex in the Wudang Mountains

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1994
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  1 2 6

เขาบู้ตึ๊ง หรือ อู่ตังซัน (武當山)    (ในภาษาจีนกลาง) มีอีกชื่อว่า ไท่เหอซัน เป็นเทือกเขาที่มีความสำคัญของลัทธิเต๋า ที่เล่าสืบมาว่า ปรมาจารย์เจินอู่ หรือเทพเจ้าเสวียนอู่(玄武神)ที่ศาสนาเต๋าเคารพนับถือ ได้บำเพ็ญตบะบนยอดเขาแห่งนี้ รู้สึกติดอกติดใจกับเทือกเขา ที่เสมือนเป็นแดนสุขาวดี ได้ใช้วิชาทั้งบุ๋นและบู้ต่อกรกับภิกษุหลายรูปของฝ่ายพุทธ จนได้รับชัยชนะ สามารถยึดเขาแห่งนี้เป็นที่พำนักสืบมา...
     
เขาบู้ตึ๊งได้กลายมาเป็นแหล่งฝึกวิชา และเข้าฌานของนักพรตลัทธิเต๋า หลายสำนักมาหลายยุคสมัย และยังเป็นที่กำเนิดสุดยอดวิชากังฟูที่โด่งดัง ตามที่เราเคยคุ้นหูคุ้นตาในนิยายกำลังภายในด้วย
     
เขตโบราณสถานบนเขาบู้ตึ๊ง มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 321 ตร.กม. ประกอบด้วย ส่วนที่เป็นหมู่ตึกโบราณ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และส่วนที่เป็นทิวทัศน์ธรรมชาติ อาทิ สระน้ำ บ่อน้ำพุร้อน ถ้ำ หน้าผาและยอดเขา รวมกว่าร้อยแห่ง

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:33:09

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:06:04
ถูกใจ: dolphin_moo

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 14  
12. กลุ่มโบราณสถานพระราชวังโปตาลาในลาซา Historic Ensemble of the Potala Palace, including the Jokhang Temple and Norbulingka

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1994
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่   1 4 6

กลุ่มโบราณสถานพระราชวังโปตาลาในลาซาที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกประกอบด้วยโบราณสถานสามส่วน ได้แก่
1. พระราชวังโปตาลากลางกรุงลาซาอันเป็นที่ประทับขององค์ดาไลลามะในหน้าหนาว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลาซาบนเขาแดง มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,700 เมตร คำว่า ‘โปตะลา’ มาจากภาษาอินเดียโบราณหมายถึง ‘ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์ โดยรอบของพระราชวังโปตะลายังประกอบไปด้วย โรงเรียนสอนศาสนา กุฏิพระ และห้องหับต่าง ๆ ทางปีกตะวันออกและตก นอกจากนี้ ยังมีเขตเมืองเก่า เทศบาลท้องถิ่น โรงพิมพ์พระคัมภีร์ คุกคุมขัง สระน้ำและสวน เป็นต้น

2. พระตำหนักนอร์บุลิงกะ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเมืองลาซาห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร คำว่า ‘นอร์บุลิงกะ’ ในภาษาทิเบตหมายถึง ‘สวนป่าอันเป็นที่รัก’ สร้างในสมัยองค์ทะไลลามะที่ 7 เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่ซึ่งองค์ทะไลลามะใช้เป็นสถานที่บริหารบ้านเมือง และประกอบกิจกรรมทางศาสนา

3. วัดต้าเจาหรือวัดชอคัง วัดต้าเจาตั้งอยู่ทางทิศตะวันวันออกเฉียงใต้ของเมืองลาซา สร้างขึ้นในปีค.ศ. 601 (ราชวงศ์ถัง) วัดต้าเจามีความหมายว่า ‘สถานที่ประดิษฐานพระคัมภีร์’ เป็นทางสถาปัตยกรรมที่ผ่านการผสมผสานอย่างลงตัวของศิลปะสมัยถังของจีนและศิลปะทิเบต

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:33:53

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:08:02
ถูกใจ: Disorder

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 15  
13. สถานที่พักร้อนและหมู่วัดในเฉิงเต๋อ Mountain Resort and its Outlying Temples in Chengde

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1994
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  2 4

บ้านพักตากอากาศบนเขาของจักรพรรดิหลังนี้ ตั้งอยู่ทางเหนือในเขตใจกลางเมืองเฉิงเต๋อ ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำพอู่เลี่ยเหอ ได้ถวายการรับใช้ สนองความสำราญพระราชหฤทัยของฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ชิงมาถึง 3 รัชกาล คือ ในสมัยจักรพรรดิคังซี หย่งเจิ้ง และเฉียนหลง รวมระยะเวลานาน 90 ปี ซึ่งเขตมรดกโลกประกอบด้วย
1. เขตพระราชฐาน หมายถึง เขตว่าราชการและที่ประทับของจักรพรรดิ ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่โอ่อ่าด้วยความเรียบง่าย และอุทยานที่จัดแต่งเป็นกลิ่นอายบรรยากาศป่าเขาก็ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นเสมือนภาพย่อส่วนของทิวทัศน์ธรรมชาติในประเทศจีนเลยทีเดียว  

2. เขตวัด  ภายนอกพระราชฐาน เป็นกลุ่มโบราณสถานวัดลามะ สร้างในสมัยต้นราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นช่วงเวลาของศาสนาพุทธนิกายลามะ ได้รับการสนับสนุนเป็นปึกแผ่นมั่นคง โบราณสถานส่วนใหญ่มีการถ่ายเทศิลปวัฒนธรรมของชนส่วนน้อยทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ของชาวมองโกล ซินเจียง(ซินเกียง) และทิเบต มาไว้ที่นี่

3. เขตทุ่งราบ หมายถึงพื้นที่ราบตีนเขา ซึ่งเป็นทิวทัศน์ทุ่งหญ้าเขียวขจีทางตะวันออกของเขตทะเลสาบ จักรพรรดิเฉียนหลงทรงใช้เต้นท์มองโกลเป็นที่ให้คณะราชนิกุลของชนส่วนน้อยต่างๆ รวมถึงเจ้านายชั้นสูง และคณะทูตานุทูตจากดินแดนชนส่วนน้อยของจีนเข้าเฝ้าฯบ่อยครั้ง และยังทรงนิยมจัดปิกนิกกลางป่าที่ทุ่งหญ้านี้ด้วย

4. เขตภูเขา คือเขตทางตะวันตกของพระราชวัง ซึ่งกินพื้นที่มากที่สุดถึง 4 ใน 5 ของอาณาเขตทั้งหมด ราว 4.22 ตร.กม. เป็นที่ตั้งของวัด ศาลาพักร้อน และวิหารจำนวนมาก

วัดผู่ถัวจงเฉิงที่เลียนแบบวัดและวังของชนองค์ททะไลลามะในทิเบต

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:34:42

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:08:59
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 16  
14. ศาลและสุสานขงจื๊อรวมทั้งคฤหาสน์ของตระกูลขงที่ชูฟู่ Temple and Cemetery of Confucius, and the Kong Family Mansion

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1994
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่   1 4 6

เมืองชูฟู่  (曲阜) ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแหล่งรำลึกถึงขงจื๊อ เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ที่เรียกว่า 'สามข่ง' สถานที่ที่ชาวจีนเรียกรวมกันว่า ‘สามข่ง’ ประกอบด้วย จวนตระกูลข่ง วัดขงจื๊อและสุสานขงจื๊อ ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงปรัชญาเมธีนามระบือขงจื๊อ บริเวณที่เป็นจวนตระกูลข่ง เป็นที่พำนักของลูกหลานและทายาทรุ่นสืบๆมาของขงจื๊อ ส่วนวัดขงจื๊อ คือสถานที่ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อการสักการะบูชาขงจื๊อ และบริเวณสุสานขงจื้อ ก็เป็นที่ตั้งของสุสานของคนในตระกูลรุ่นต่างๆกว่าหลายศตวรรษ ซึ่งมีจำนวนแสนกว่าหลุมและเป็นสุสานประจำตระกูลที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันสถานที่ทั้งสามแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองชูฟู่

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:35:25

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:09:24
  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 17  
15. อุทยานแห่งชาติเขาหลูซาน Lushan National Park

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1996
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  2 3 4 6

เขาหลูซาน (廬山)   เทือกเขาที่ได้ชื่อว่า ‘อันตราย งดงาม พิสดาร และยิ่งใหญ่’ ด้วยการเป็นแหล่งรวมของ ‘เขาใหญ่’ (ภูเขา 5 ลูก ซึ่งไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูคล้ายผู้เฒ่า 5 คนนั่งรวมกลุ่มกันอยู่) ‘แม่น้ำใหญ่’(แม่น้ำแยงซี) และ‘ทะเลสาบใหญ่’(ทะเลสาบผอหยัง) ที่ท้าทายนักนิยมธรรมชาติไปทั่วโลก จุดท่องเที่ยวบนเขาแห่งนี้ ประกอบด้วย เขตทิวทัศน์ 12 เขต และจุดชมวิว น้ำพุน้ำตกเกือบ 300 จุด

ทัศนียภาพบนเขาหลูซันในฤดูกาลต่างๆมหัศจรรย์น่าพิสมัย และอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำท่า เพราะมีทะเลสาบและแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เวียนวนรอบเขา ทำให้อากาศเย็นชุ่มฉ่ำแม้ยามหน้าแล้ง ฤดูฝนยังปกคลุมด้วยไอเมฆละอองหมอก นำความชุ่มชื้นมาสู่ตลอดฤดูกาล (ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,833.5 มิลลิเมตร / ปี) ใน 1 ปียอดเขาสูงบนเขาหลูซัน ยังถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอกถึง 191 วัน นับเป็นทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:36:02

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:10:35
ถูกใจ: dolphin_moo

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 18  
16. เขาเอ๋อเหมยซาน(เขาง้อไบ๊) และพระพุทธรูปเล่อซาน  Mount Emei Scenic Area, including Leshan Giant Buddha Scenic Area

ปีที่ขึ้นทะเบียน 1996
หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่  4 6 10

1. เขาเอ๋อเหมยซัน   (峨嵋山) เรียกอีกชื่อว่า ต้ากวงหมิงซัน ‘เทือกเขาแห่งแสงสว่าง’ เป็นหนึ่งในสี่ขุนเขาใหญ่ที่เป็นรากฐานของพุทธศาสนาในจีนอันได้แก่

เอ๋อเหมยซันในมณฑลเสฉวน
พู่ถัวซันในมณฑลเจ้อเจียง
จิ่วหัวซันในมณฑลอันฮุย
และอู่ไถซันในมณฑลซันซี )

เขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนกลางส่วนใต้ของมณฑลเสฉวน โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร นอกจากความโด่งดังในฐานะที่เป็นยอดเขาแห่งตำนานของแผ่นดินพระภูผาเซียน และวัฒนธรรมประวัติศาสตร์อันเรืองรองแล้ว เสน่ห์งดงามของธรรมชาติอันตระการตา ยังทำให้ชื่อเสียงของเทือกเขาแห่งนี้ขจรขจายไปทั่วทั้งในและต่างประเทศ กวีชื่อดังหลายท่านของจีนในอดีต อาทิ กวีสมัยถัง หลี่ไป๋ ท่านซูตงพอ กวีสมัยซ่ง หรือนักเขียนวรรณกรรมยุคใหม่ กัวม่อลั่ว ได้เคยฝากผลงานกวีนิพนธ์ ชื่นชมความงามและพรรณนาคุณค่าแห่งเทือกเขาเอ๋อเหมยซันนี้ไว้หลายยุคหลายสมัย

2. พระพุทธรูปเล่อซาน ( 樂山大佛) พระพุทธรูปสลักริมหน้าผาเล่อซัน สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิถังเสวียนจงแห่งราชวงศ์ถัง ต้นรัชสมัยไคหยวนปี ค.ศ.713 โดยการเจาะสกัดหินบนเขาเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท หลังพิงเขา หันหน้าสู่แม่น้ำหมินเจียง มีความสูง 71 เมตร กว้าง 10 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนาน 90 ปี จนมาสำเร็จในปี ค.ศ.803 ในสมัยจักรพรรดิถังเต๋อจง แกะสลักขึ้นด้วยฝีมือช่างงามวิจิตร ลายเส้นที่พลิ้วไหวและสัดส่วนขององค์พระที่ได้สมดุล เต็มไปด้วยพลังที่แผ่ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ล้วนสะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมอันเฟื่องฟูในยุคราชวงศ์ถัง

แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 05:37:00

 
 

จากคุณ: Humble
เขียนเมื่อ: 3 พ.ค. 53 05:11:04
  

ดูต่อ มรดกโลกในจีน ตอน ๓

ดู

มรดกโลกในจีน ตอน ๑

มรดกโลกในจีน ตอน ๒

มรดกโลกในจีน ตอน ๓ 

มรดกโลกในจีน ตอน ๔

มรดกโลกในจีน ตอน ๕

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( อังคาร, 04 พฤษภาคม 2010 )
 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

สมุดภาพเหมืองแร่

Polls

ชื่อใด (หรือคำใด) สื่อได้ชัดคม รู้เป้าหมายได้มากกว่า
 

Who's Online

ขณะนี้มี 400 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

Counter

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้5185
mod_vvisit_counterเมื่อวาน3893
mod_vvisit_counterทั้งหมด11017020