ทองคำ |
เขียนโดย ปาณิศรา ชูผล มทศ. | |
จันทร์, 02 พฤศจิกายน 2009 | |
ทองคำแพง
ประวัติทองนพคุณ-ทองเนื้อเก้า
ทองบางสะพาน ถือกันว่าเป็นทองดีที่สุด
ทองคำในสยามประเทศเป็นแร่ธาตุที่รู้จักกันมาแต่โบราณ เช่น ในคติความเชื่อทางจักรวาลวิทยาแบบไตรภูมิ กล่าวถึง "ชมพูทวีป" อันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เนื่องมาจากเป็นแหล่งกำเนิดของทองคำเนื้อสีชมพูอ่อนงดงาม ซึ่งเกิดจากลูกหว้าขนาดใหญ่ในป่าหิมพานต์ ที่รู้จักกันในชื่อ "ทองชมพูนุช" จนกลายมาเป็นชื่อทวีปในความเชื่อทางศาสนา ส่วนทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ทองสูงมากนั้น เรามาพบภายหลังเรียกว่า "ทองคำบางตะพาน" หรือ "ทองคำบางสะพาน" จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีความงดงาม สุกปลั่ง แวววาว และที่สำคัญมีปริมาตรเนื้อทองบริสุทธิ์มากกว่าทองคำโบราณใดๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่อดีต โดยจะขุดพบในเขต ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะในหมู่บ้านป่าร่อน และบริเวณห้วยจังหัน จะเป็นแหล่งที่พบมากเป็นพิเศษ มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า ทองคำบางตะพานพบครั้งแรกในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ.2289 (จ.ศ.1181) เมื่อผู้รั้งเมืองกุยบุรีส่งทองคำร่อนเนื้อบริสุทธิ์หนัก 3 ตำลึงมาถวาย พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้เกณฑ์ไพร่ 2,000 คน ไปทำการร่อนหาทอง เนื่องจากไม่เคยพบทองเนื้อบริสุทธิ์ถึงขนาดนี้มาก่อน จนในปี พ.ศ.2291 ผู้รั้งเมืองกุยจึงรวบรวมทองได้ถึง 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 ก.ก. หรือ 3,600 บาท พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงมีพระราชศรัทธาถวายทองแผ่คลุมยอดมณฑปพระพุทธบาท สระบุรี ตั้งแต่ส่วนเหม (มกร) และนาคลงมา แล้วยกผู้รั้งเมืองกุยให้เป็นเจ้าเมืองกุยบุรี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในคราวเหตุการณ์วุ่นวายตอนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ทองดังกล่าวถูกกลุ่มจีนฮ่อเผาและลอกออกไปจนหมดสิ้น การพบทองคำเนื้อบริสุทธิ์จนเป็นที่กล่าวขวัญในครั้งนั้นเนื่องจากว่าเราไม่เคยพบทองเนื้อเก้า หรือทองนพคุณมาก่อน จะพบอย่างมากก็เพียงทองเนื้อสี่ ทองเนื้อห้า ทองเนื้อหก ทองเนื้อเจ็ด หรือทองเนื้อแปดน้ำสองขาเท่านั้น ดังนั้น ทองเนื้อเก้าจึงจัดเป็นทองที่ไม่มีแร่ธาตุอื่นเจือปน กล่าวกันว่าใช้เพียงความร้อนเป่าเอาเศษดินออกโดยไม่ต้องใช้กระบวนการถลุงก็จะได้ทองเนื้อบริสุทธิ์ ซึ่งเรารู้จักทองคำชนิดนี้ในหลายๆ ชื่อ เช่น ทองชมพูนุช ทองนพคุณ ทองเนื้อแท้ และทองคำเลียง เป็นต้น ในปี พ.ศ.2548 ต.บางสะพาน ถูกน้ำท่วมขนาดหนัก เมื่อน้ำลดมีผู้พบเห็นเกล็ดทองที่พัดมากับสายน้ำติดค้างอยู่ตามซอกหิน ทำให้ผู้แสวงโชคแห่กันมาร่อนทอง และชมความมหัศจรรย์ของแหล่งแร่สูงค่าที่มีมาแต่โบราณ วิธีการร่อนทองจะขุดดินแล้วนำมาขยำผสมน้ำใส่ใน "เลียง" ซึ่งทำจากไม้ขนุนก้นสอบเหมือนหมวกญวน จากนั้นก็ขยำและเอียงเลียงให้น้ำในคลองพัดพาเอาดินค่อยๆ หลุดออกไป หากโชคดีก็จะมีเศษทองติดอยู่ก้นเลียง นักท่องเที่ยวนิยมมาขอซื้อโดยให้ราคาดี เพราะนอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็นทองเนื้อบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว ยังมีความเชื่อว่าทองเนื้อเก้ามีคุณวิเศษจากธรรมชาติที่จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ครอบครองอีกด้วย แต่ปัจจุบันต้องระวังให้มาก เนื่องจากมีการนำทองพม่า หรือเกล็ดทองอื่นๆ มาหลอกขายนักท่องเที่ยว บางครั้งทำเป็นว่าพบในขณะทำการร่อนทองก็มี ดังนั้น ในการจะซื้อจะหาทองบางตะพานนี้ต้องใช้ความรอบคอบและต้องดูทองโบราณให้เป็นด้วย หลักสำคัญจำไว้ให้แม่นว่า ทองโบราณจะไม่สุกปลั่งเหมือนทองชุบ คนโบราณเขาเรียกว่าทองด้าน ครับผม
ข่าว : ข่าวสด 1 พฤศจิกายน 2552 อ้างอิง |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|
วันนี้ | 1809 | |
เมื่อวาน | 5656 | |
ทั้งหมด | 11019299 |